บทที่ 3 เด็กเลี้ยงวิศวะ ตอนที่ 2 มีหน้าที่แค่นั้น

ตอนที่ 2 มีหน้าที่แค่นั้น

อีกด้านของหลุยส์

ชายหนุ่มเดินลงจากรถมายัง

สนามแข่งที่เขากับเพื่อนลงทุนทําด้วย

กัน หลุยส์มีเพื่อนสนิทอยู่สองคน มี

เพลิงและโซ่ แต่ละคนรู้จักกันมานาน

เรียกได้ว่าจําความได้ก็เห็นหน้าพวก

มันแล้ว เพราะครอบครัวของเขาสนิท

กันนั่นเอง

“พรุ่งนี้พวกไอ้มาตินจะมาใช้

สนามนะ เห็นว่ามันไปท้าแข่งกับคู่อริ

มัน”

“อืม ว่างอยู่ใช่ไหม”

“กูเช็กแล้วว่างอยู่ก็เลยรับคํามัน

ละ” โซ่พูดขึ้น

“คืนนี้พวกมึงจะเอาไง สรุปไป

ไหม”

“ก็ต้องไปไม่งั้นหูชา กูไม่ชอบเลย

ไอ้งานสังคมพวกนี้” เพราะในวันนี้พวก

เขาทุกคนถูกที่บ้านบังคับให้ออกงาน

ส่านงานที่ว่าก็คงไม่พ้นการกุศลที่ต้อง

พากันไปทั้งครอบครัว

เขาเข้าใจว่าใคร ๆ ก็ต้องการ

มีหน้ามีตาในสังคมอยู่แล้วรวมถึงพ่อแม่

พวกเขาด้วย การที่ทําธุรกิจก็ต้องรู้จัก

คนให้มากขึ้น

เพราะมันเป็นเรื่องของหน้าตา

และความน่าเชื่อถือ อีกอย่างไป

ออกงานกุศลทําบุญก็เรียกว่าได้หน้า

เต็ม ๆ แถมยังได้เจอนักธุรกิจคนอื่น

เวลาสนใจร่วมทําธุรกิจด้วยกันก็มักจะ

ใช้โอกาสนี้พูดคุยทําความรู้จักกันก่อน

จะไปคุยกันอีกรอบ จุดประสงค์ของการ

ออกงานก็ประมาณนี้แหละ

“ทําเหี้ยอะไรทําไมถึงนั่งเงียบ”

หลุยส์ถามอีกคนที่นั่งเขี่ยโทรศัพท์ไป

มาอยู่ไม่พูดไม่จาอะไร เพลิงที่ได้ยิน

อย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา

“คุยกับน้ําค้าง”

“หึติดเมียรึไงมึง” โซ่พูดพร้อม

หัวเราะในลําคอออกมาเมื่อเห็นท่าทาง

ของเพื่อน

เมื่อก่อนเพลิงไม่ค่อยสนใจผู้หญิง

คนไหน

ชายหนุ่มเป็นคนหวงความโสด

มาก แต่ไปไงมาไงไม่รู้จู่ ๆ ก็คบหากับ

รุ่นน้องสาวอย่างน้ําค้าง

“แฟนไหม?”

“สาบานว่าแค่แฟน กูไม่เชื่อหรอก

ว่ามึงไม่เจาะไข่แดงน้องมันแล้ว”

“เสือก” สั้น ๆ แต่ได้ใจความ

“สรุปคนนี้แน่ไหม ปกติมึงไม่เห็น

อยากมีแฟน ทําไมคนนี้มึงถึงสนใจเป็น

พิเศษวะ” พอคุยแล้วเขาก็อยากจะรู้

เหมือนกันว่าอะไรทําให้เพื่อนเขาสนใจ

ผู้หญิงคนนี้มากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่วน

เวียนอยู่ข้างกาย

“ก็ไม่มีอะไร รู้จักแล้วก็น่ารักดีไม่

เหมือนใคร” เมื่อก่อนเขาก็เป็นอย่างที่

เพื่อนพูดนั่นแหละ

แต่พอได้รู้จักผู้หญิงคนนี้มันก็

ทําให้เขาเริ่มชอบนิสัยของเธอ บางครั้ง

ก็ดูโก๊ะ ๆ บ้า ๆ บอ ๆ ไปบ้าง แต่พอได้

อยู่ด้วยแล้วก็รู้สึกชีวิตมีสีสันมากขึ้น

เพราะปกติแล้วชีวิตของเขาจะจริงจัง

มากเกินไป เขาต้องเป๊ะทุกอย่าง ไม่ว่า

จะเรื่องอะไร พอเป็นแบบนี้มันจึงทําให้

เขารู้สึกเหนื่อยกับที่เป็นอยู่ พอมาเจอ

คนตัวเล็กเขาจึงได้รู้สึกว่าการที่ทําตัว

บ้า ๆ บอ ๆ บางครั้งก็ดีเหมือนกัน

“แล้วมึงล่ะไอ้หลุยส์”

“กูทําไม?” หลุยส์คิ้วขมวดก่อนจะ

ถามเพื่อนออกไป

“สรุปมึงกับน้องลูกปัดนี่คือแค่นั้น

หรอวะ”

“จะให้เป็นอะไรมากกว่านั้นล่ะ”

“กูว่าน้องก็น่ารักดีนะเว้ย ทําไม

มึงไม่คบหาไปเลยวะ”

“ไม่อะ มึงก็รู้ว่าผู้หญิงที่จะมาเป็น

แม่ของลูกกูได้ต้องคู่ควร อีกอย่างกูก็

แค่เล่น ๆ กับลูกปัดตั้งแต่แรก ไม่ได้คิด

จริงจัง ทุกอย่างมีข้อตกลงของมันตั้งแต่

เริ่มต้นอยู่แล้ว”

“จริงดิเวลากูเห็นมึงกับน้องเขา

อยู่ด้วยกันก็เหมือนคนรักกันเลยนะ

เว้ย”

“ก็แค่เหมือนแต่ไม่ใช่ แต่กูก็ชอบ

นะกับการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคน

นี้ไม่ต้องกังวลว่าจะมานั่งหึงหวงเพราะ

เธอไม่มีสิทธิ์นั้น อยากได้ตอนไหนก็ได้

ไม่ต้องไปหาผู้หญิงให้เหนื่อย อีกอย่าง

สมัยนี้หาคนสดใหม่ยากจะตาย สะอาด

หรือเปล่าก็ไม่รู้แต่อย่างน้อยผู้หญิงคน

นี้ก็ปลอดภัยสําหรับกู”

“เชี้ย เสือก็ยังเป็นเสือวันยังค่ํา”

“เสือตรงไหน ตอนนี้กูก็แทบไม่ยุ่ง

กับผู้หญิงคนไหนเลยนะเว้ยยุ่งแต่กับ

น้องมันแค่คนเดียว” เรื่องนี้ก็เป็นอีก

เหตุผลหนึ่งที่อยู่ในข้อตกลงเหมือนกัน

เพราะคนตัวเล็กขอร้องว่าตราบใดที่

เขากับเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกัน

เขาห้ามไปมีผู้หญิงคนอื่น มันก็ไม่ได้

ยากเย็นอะไรเขาจึงตอบตกลงไป

“ได้ยินเรื่องมึงแล้วกูปวดหัวแต่

เอาเถอะอย่าตกหลุมพรางตัวเองแล้ว

กัน ไม่ใช่ว่าขุดหลุมเอาไว้แล้วลุกไม่ขึ้น

กูไม่ช่วยนะเรื่องนี้”

“หึไม่มีวันหรอก ถึงเวลาข้อตกลง

กูกับผู้หญิงคนนั้นก็จบลง” หลุยส์พูด

อย่างไม่ได้สนใจอะไร เขาคิดว่าความ

สัมพันธ์ตอนนี้เขากับคนตัวเล็กก็ถือว่า

ดีแล้ว แล้วมันก็ไม่มีวันมากเกินไปกว่านี้

แน่นอน

ณ งานการกุศล

หลังจากช่วงบ่ายที่แยกย้ายกัน

กลับ ชายหนุ่มก็กลับมาที่บ้านใหญ่ เขา

มาแต่งตัวที่นี่ก่อนจะออกงานกับบิดา

อย่างท่านอนันต์ในตอนนี้เขาเหลือแค่

บิดาเพียงเท่านั้น เพราะแม่ของเขาเสีย

ชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนด้วยโรคส่วนตัว

ในตอนนั้นหลุยส์จําได้ไม่เคยลืมว่า

ความเจ็บปวดเป็นยังไง

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ

ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้มีอะไรหรอก ก็เหมือน

ทั่วไป ที่ผ่านมาพ่อของเขาก็รักษา

สัญญาพอสมควร ก็คือการไม่มีผู้หญิง

คนไหนเข้ามาในบ้าน ยกเว้นแต่มีข้าง

นอก

เรื่องนั้นเขาจะไม่ไปยุ่งแต่ห้าม

เอามาแทนที่มารดาของเขาเด็ดขาด

ส่วนเขาก็เรียนรู้ธุรกิจของ

ครอบครัว เริ่มทํางานในบริษัทตั้งแต่ยัง

เรียนอยู่ปี 1 ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยทําให้

พ่อต้องผิดหวังเลยสักครั้ง มันเหนื่อย

เขายอมรับ แต่เขาก็ทํามันได้เป็นอย่าง

ดีเพราะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเขา

“วันนี้คุณเกษมก็มาร่วมงานด้วย

เรื่องที่ดินที่พ่อต้องการสร้างสาขาใหม่

อย่าลืมทํามันให้สําเร็จด้วยล่ะ”

“ครับ” เขาพยักหน้ารับรู้ไม่ว่ายัง

ไงเขาก็จะใช้โอกาสนี้ทําให้ท่านเกษม

ใจอ่อนขายที่ดินผืนนั้นให้กับเขาให้ได้

“ดีมาก พ่อรู้ว่าแกจะไม่ทําให้พ่อ

ผิดหวัง จะรอฟังข่าวดีแล้วกันนะ”

“ครับพ่อ” หลุยส์รับคําก่อนที่เขา

กับบิดาจะเดินเข้าไปในงาน

งานในวันนี้นับว่าจัดใหญ่อยู่

เหมือนกัน

มีนักธุรกิจหลายคนที่มาร่วมงาน

แถมยังมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนํา

เงินไปบริจาคให้กับมูลนิธิอีกด้วย ทุก

ครั้งทางครอบครัวเขาก็จะได้มาชิ้นสอง

ชิ้นตลอด ถ้ามารดาของเขายังอยู่คง

ถูกใจไม่น้อยเลย

“สวัสดีครับท่านเกษม” หลุยส์ที่

เห็นเป้าหมายก็รีบเดินเข้าไปทักทาย

ทันทีพร้อมกับผู้เป็นบิดาที่ทักทายชาย

วัยกลางคนตรงหน้าเหมือนกัน

“สวัสดีหลานหลุยส์โตแล้วหล่อ

มาก ๆ เลย หน้าตาเหมือนคุณอนันต์ทุก

อย่างจริง ๆ”ท่านอนันต์ยิ้มรับ ก่อนจะ

มองผู้หญิงรุ่นลูกอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกาย

ของท่านเกษม

“นั่นคงเป็นหนูแก้วใช่ไหมครับ”

ใช่ แก้วขวัญลูกสาวของผมเอง นี่

ผมยังเสียใจอยู่นะที่หลานหลุยส์น่าจะ

เกิดเร็วสักห้าหกปี ไม่งั้นคงได้เป็น

ลูกเขยผมแล้ว”

“คุณพ่อขาอย่าพูดแบบนี้สิคะ

เดี๋ยวคุณคมสันก็น้อยใจหรอก” คมสันก็

คือคู่หมั้นของเธอนั่นเอง เธอไม่ชอบที่

บิดาชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อย อีกอย่างนึง

เธอก็ไม่ได้ชอบพออะไรกับผู้ชายคน

ตรงหน้าเลยสักนิด ถึงแม้อีกฝ่ายจะอายุ

มากกว่านี้อย่างที่บิดาเธอต้องการก็

เถอะ

“พ่อรู้แล้ว พ่อก็พูดเล่นไปงั้น

แหละ” ใช่ว่าลูกเขยคนปัจจุบันจะไม่

ถูกใจแต่ถ้าเทียบแล้วยังไงผู้ชายคน

ตรงหน้าก็ดีกว่า

ถ้าหากได้ดองกันก็คงจะดี

หลุยส์ยิ้มให้เพราะไม่รู้จะพูด

อะไรออกไป ก่อนที่บิดาของเขาจะ

ขอตัวไปทักทายนักธุรกิจคนอื่น นั่นจึง

ทําให้ชายหนุ่มพูดคุยกับท่านเกษมต่อ

“ผมยังพูดคําเดิมนะครับท่าน

ที่ดินผืนนั้นถ้าท่านมีข้อเสนออะไรเพิ่ม

เติมบอกผมได้เลย ผมพร้อมที่จะตกลง

กับท่านครับ”

“ฮาฮ่า อาชอบนะหัวธุรกิจของ

หลานน่ะ แต่ข้อเสนอของอามันก็มาก

อยู่นะ”

“มากขนาดไหนหรอครับ” หลุยส์

ยังคงพูดต่อ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องได้ที่

ดินผืนนั้นแน่นอน ไม่มีอะไรเกินกว่า

ความสามารถของเขาหรอก

“ก็ไม่อะไรมากหรอก แต่อามี

หลานสาวคนนึง แค่ อยากให้หลาน

หลุยส์ทําความรู้จักเอาไว้หน่อย”

ชายหนุ่มเข้าใจในความหมาย

ของชายตรงหน้าดี

“ผมไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมายุ่ง

กับเรื่องธุรกิจ หวังว่าท่านจะทราบ”

“ก็แค่เรียนรู้ไปก่อน ชอบไม่ชอบ

อาก็ไม่ว่าอะไร อาขอแค่นี้ ถ้าทําได้อย่า

ว่าแต่ที่ดินผืนนี้เลย ผืนที่หลานหลุยส์

อยากได้ก็คงพูดคุยกันไม่ยากเย็น

อะไร” เพราะชายวัยกลางคนตรงหน้า

เป็นถึงเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาด

ใหญ่ แถมมีที่ดินมากมาย ใครต่อใครก็

อยากได้ เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่มี

เงินอย่างเดียวก็ไม่สามารถซื้อได้

ผู้ชายคนนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย

เห็นทีข้อเสนอที่อีกฝ่ายให้มาก็ไม่ได้

เสียหายอะไร

“ผมก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่าหลาน

สาวคุณอาจะคู่ควรกับผมหรือเปล่า”

คําพูดตรง ๆ ของหลุยส์ทําเอา

ชายวัยกลางคนหัวเราะออกมาอย่าง

ชอบใจ

“ไม่ทําความรู้จักกันก็คงไม่รู้จริง

ไหม”

“จริงครับ” ท่านเกษมยกมือขึ้นมา

จับบ่าของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพอใจ

กับคําตอบที่ได้รับมา เพราะจากท่าทาง

ของอีกฝ่ายมันก็ทําให้เขาเข้าใจใน

ทันทีว่าอีกคนก็เห็นด้วยกับข้อตกลง

ของเขาแล้ว อย่างที่เขาบอก ถึงแม้

ลูกสาวจะไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้

แต่เขาก็ยังหวังว่าจะได้ดองกับ

ครอบครัวนี้อยู่เหมือนกัน ในเมื่อมี

หลานสาวอีกคน จะเป็นอะไรไปถ้าหาก

อยากให้คนทั้งสองทําความรู้จักกัน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป