บทที่ 1 Chapter 1

หิน...ขนาดเท่ากำปั้น สีน้ำเงินคล้ำเกือบดำ เรียกความสนใจจากดวงตาคู่งามคู่หนึ่งที่จับจ้องเพ่งพิศก้อนหินในมือเรียวของตนเองอย่างพินิจพิจารณาทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยามที่ยกมือขึ้นสูงให้รูปเหลี่ยมอันไม่เป็นระเบียบหาความสวยไม่ได้กระทบกับแสงแดดเที่ยงวัน ประกายจากเหลี่ยมรูปสะท้อนแสดงคุณค่า น้อยครั้งที่ขุดค้นหินแบบนี้ออกมาได้ และมันก็เป็นสาเหตุให้เธอติดปีกบินไกลจากประเทศไทยสู่ผืนทรายสีแดง ประเทศที่เคยมาเมื่อหนึ่งปีก่อน และไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีก

ร้อน... แล้ง... ทะเลทราย ไม่ใช่ที่ที่น่านิมิตพิสมัยสำหรับผู้หญิงแบบเธอเลยสักนิด นั่น! ความคิดแบบนั้นคือหนึ่งปีก่อนหน้านี้นะ สำหรับวันนี้ หากมันเป็นงาน หรือเกี่ยวข้องกับการทำงาน พราวพิลาสก็พร้อมจะบุกตะลุยไปทุกที่ งานที่ทำไม่ได้น่าเบื่อ วุ่นวาย อย่างที่ครั้งหนึ่งเคยรู้สึกและเมินหน้าหนี งาน... กลายเป็นเรื่องสนุกและท้าทาย

แพขนตาหนา ยาวและงอนตามแบบฉบับของธรรมชาติ ปราศจากการเสริมแต่งจากของปลอมแปลงลอกเลียนที่ระบาดตามท้องตลาด โลกปัจจุบันผู้ชายบางส่วนสวยกว่าผู้หญิง และความไม่เพอร์เฟกต์สมบูรณ์แบบ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความงดงามจึงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ บรรดาเครื่องสำอาง ทั้งอายไลน์เนอร์ โทนเนอร์ หรือแม้กระทั่งขนตาปลอม พราวพิลาสไม่จำเป็นต้องพึ่งพาของที่ว่า แพขนตาของเธอดกหนายาวงอนเป็นธรรมชาติ รับด้วยดวงตาคู่งามสีน้ำตาลอ่อน ที่บัดนี้กำลังมองจ้องลึกเข้าไปในเนื้อหินด้วยความปรีดาและพิสมัย เพราะมันไม่ใช่แค่หินธรรมดาอย่างตาเห็น มูลค่าหลังจากนี้หลายร้อยล้าน สมองเล็กๆ วิ่งย้อนกลับไปยังหนึ่งปีก่อน

หนึ่งปี... เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งไปมากโข นางสาวพราวพิลาส ขจรราช คุณหนูไฮโซผู้ร่ำรวยและเย่อหยิ่ง ไม่เอาการเอางาน กลับกลายเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนที่ได้รับการยอมรับจากวงสังคม แน่นอนล่ะว่า เธอยังคงเป็นคุณหนูไฮโซ ร่ำรวย เย่อหยิ่ง (ในเรื่องที่สมควรหยิ่งล่ะนะ) แต่เรื่องไม่เอาการเอางานไม่ใช่เธอแน่ๆ หนึ่งปีที่ผ่านไป พราวพิลาสสามารถเรียนจบด้านการออกแบบเครื่องประดับ และเข้ารับช่วงการบริหารงานในบริษัทจิวเวลรี่ที่บิดาร่วมลงทุนกับมิสเตอร์เดนิม อิสมาอิล ผู้เป็นน้องเขยและหุ้นส่วนใหญ่ เจ้าของเพชรพลอยเลอค่าที่ได้รับการกล่าวขานถึงในวงสังคมผู้ชื่นชอบเครื่องประดับและได้รับการยอมรับเป็นที่รู้จักในเมืองไทยอย่างรวดเร็ว นอกจากเมืองไทยแล้ว สินค้ายังส่งออกไปวางขายในร้านเครื่องประดับของเดนิมที่ประเทศบันดัรอีกด้วย ผลตอบรับก็ดีเช่นกัน

เพชรพลอยน้ำดีของบันดัรแต่ช่างออกแบบและช่างเจียระไนโดยช่างไทย ด้านฝีมือแพ้ชาติใดที่ไหน ความอ่อนช้อยของลวดลายเส้นสายและความประณีตมีลักษณะเฉพาะนั่นล่ะที่ดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พราวพิลาสตั้งใจจะส่งผลงานการออกแบบโดยตัวเธอเองเข้าร่วมในงานประมูลในเทศกาลการแสดงอัญมณีนานาชาติ ซึ่งจะมีขึ้นในอีกห้าเดือนข้างหน้า และมันเป็นเหตุผลให้เธอต้องเดินทางจากบ้านมาไกล เพื่อตามหาวัตถุดิบและคัดสรรมันด้วยตัวเอง

“มันสวยมากนะครับมิส” ซุนนูร์ไกด์กิตติมศักดิ์เอ่ยยิ้มๆ หลังการเฝ้ามองอาการเพ่งพิศสนใจของหญิงสาวสวยอยู่เป็นนาน เขาในฐานะผู้จัดการบริษัทอัญมณีสาขาใหญ่เป็นผู้อาสารับหน้าที่พาลูกทัวร์สาวกิตติมศักดิ์มาทัวร์เหมืองอัญมณีด้วยตัวเอง หลังจากได้รับแจ้งความประสงค์และความจำนงถึงการเดินทางมาบันดัรในครั้งนี้

พราวพิลาสถอนความรู้สึกนึกคิดออกจากภวังค์ หันไปยิ้มให้หนุ่มอาหรับวัยสามสิบเศษอย่างร่าเริง เธอคุ้นเคยกับเขาพอควร ด้วยว่าติดต่อธุรกิจกันมานับปี

“ค่ะ ฉันคิดว่าเป็นโชคดีจริง การเดินทางมาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว สีน้ำเงินเม็ดใหญ่ ดูลักษณะแล้วน่าจะเป็นเพชรหายากมากเลยนะคะ”

“หายากครับ ถึงตัวเมืองผมจะให้ช่างตรวจสอบมันอีกทีเพื่อความมั่นใจ นานๆ ครั้งเราถึงจะขุดเจอพวกมัน แต่ผมว่ามันจะยิ่งงดงามและล้ำเลอค่ามากขึ้นไปอีกหากได้รับการออกแบบโดยมิส”

“มิสเตอร์พูดเกินไปแล้วค่ะ ฉันว่าความงดงามอยู่ที่ตัวของมันเองมากกว่านะคะ คุณดูสิขนาดว่ารูปร่างหน้าตามันยังขี้ริ้วแต่ประกายมันสวยมากๆ” หญิงสาวยกมือขึ้นเพื่อให้แสงสว่างกระทบวัตถุในมือ

ซุนนูร์พยักหน้ารับ และยิ้มให้ความถ่อมตัวของหญิงสาว เขาเคยเห็นฝีมือของพราวพิลาสมาแล้วกับตา แม้นว่าเธอไม่ได้ออกตัวในการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองทั้งหมด ความคิดสร้างสรรค์และการปรับแต่งรูปลักษณ์ของต้นแบบที่เธอเสนอ เป็นผลให้สินค้าชิ้นนั้นๆ ได้รับความสนใจจากผู้พบเห็น และยังสามารถทำรายได้งดงามในการจำหน่าย เธอเป็นคนมีพรสวรรค์มากหากเทียบระยะเวลาเพียงหนึ่งปีสำหรับการเรียนรู้ในธุรกิจนี้

พราวพิลาสยิ้มเขินๆ เธอยังใหม่เกินกว่าจะกล้ายอมรับว่าตนเองมีฝีมือ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอต้องศึกษาเรียนรู้อีกมากมาย

“อยู่เที่ยวต่อสักสองสามวันไหมครับ อีกไม่กี่วันเจ้านายผมจะเดินทางจากฮังการีมาที่นี่เหมือนกัน”

“เดนิมกับรติรสน่ะหรือ กลับจากไปฮันนีมูนแล้วเหรอนี่ ดีเหมือนกันไม่ได้เจอเขาสองคนหลายเดือนแล้ว เจ้านายคุณนี่ก็กระไรกะจะพายัยรสเดินทางไปรอบโลกเลยรึไงนะ ปกติคนเขาฮันนีมูนกันอาทิตย์สองอาทิตย์ ใจคอเจ้านายคุณคงกะฮันนีมูนทั้งปี”

ซุนนูร์หัวเราะกับถ้อยคำหยิกแกมหยอก นึกถึงเจ้านายแล้วมันอดไม่ได้ ตั้งแต่แต่งงานกับสาวไทยก็ไม่ยอมห่างจากเมียเลย แถมยังหนีบติดไปด้วยทุกที่

“ถ้าไม่ติดงานผมว่าเจ้านายคงไม่พลาดที่จะทำแบบนั้นแน่นอนครับ รายนั้นทั้งรักทั้งหลงมิสซิสรติรสยังกับอะไรดี”

บทถัดไป