บทที่ 7 Chapter 7

“ให้ซาจิจัดการเรียบร้อยแล้วครับ กระผมส่ง...”

“ดี”

เบนจามินพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงห้าวดุ

“ขอฉันจัดการกับมิสพราวพิลาสก่อนแล้วจะมาคุยด้วยใหม่”

ฟาดิลยังไม่ทันทำความเคารพด้วยซ้ำเมื่อชีคหนุ่มอุ้มร่างสาวงามหายเข้าไปในกระโจม ราชองครักษ์เกือบยกมือเกาหัวกับเสียงดุดันเกินจำเป็นนั้น

หากหญิงสาวกลับตัวแข็งทื่อขึ้น การที่คนพวกนี้รู้จักซุนนูร์เธอไม่แปลกใจสักนิด ขนาดเธอพวกมันยังรู้จักชื่อเสียงเรียงนาม ร่างบางตัวเกร็งแข็ง กลัวจนลืมหายใจ

จัดการ... จะหมายถึงอะไรไปได้ หากไม่ใช่ว่า พวกมันฆ่าเขาไปแล้ว ทำไมคนพวกนี้ถึงได้โหดเหี้ยมแบบนี้ พวกมันจัดการกับซุนนูร์ไปแล้ว มันคงฆ่าเขาแล้ว ตัวเธอล่ะ...

“น้ำในถังนั่นเช็ดหน้าตาเสียนะมิส แล้วอยู่แต่ในนี้ ผมจะให้คนเอาอาหารมาให้”

พราวพิลาสแทบกระโจนถอยห่างเมื่อถูกวางลงกลางกระโจมโดยไม่รู้ว่าปฏิกิริยาแบบนั้นสร้างความขบขันแก่คนมองขนาดไหน

ร่างบางกระโจนไปยืนเสียชิดกระโจมอีกฝั่ง แสงสว่างจากตะเกียงส่องให้เห็นกลีบปากเห่อช้ำสีระเรื่อน่ามอง น่าจูบซ้ำอีกหลายๆ ครั้ง

“พวกแกทำอะไรเขา”

“ใคร”

“แกฆ่าเขาใช่ไหม พวกแกฆ่ามิสเตอร์ซุนนูร์แล้วใช่มั้ย” เสียงหวานสั่น

“ไม่ต้องไปสนไปห่วงคนอื่นหรอกน่ามิส เขาอยู่ในที่ที่ควรอยู่แล้ว คุณควรจะห่วงตัวเองให้มากจะดีกว่า” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงกวนๆ แล้วหมุนตัวกลับเพื่อออกจากกระโจม ครั้นก้าวไม่กี่ก้าวก็หยุดหันหน้ากลับมามองหญิงสาวใหม่

“อ้อ แล้วอย่าคิดทำอะไรโง่ๆ ที่นี่มีผู้ชายเป็นสิบ กลางทะเลทรายแบบนี้มันหาผู้หญิงยากเสียด้วย อยากลองท้าทายความกลัดมันของพวกโจรทะเลทรายดูบ้างก็ได้นะ แค่คุณยังหายใจ พวกเราก็ยังใช้ประโยชน์จากคุณได้ ว่าไหมมิส”

“ไอ้บ้า! ”

“อย่าอวดเก่งปากกล้าให้มากนัก จะบอกอะไรให้นะครับมิสพราวพิลาสคนสวย ที่นี่ทะเลทรายไม่ใช่แคทวอร์คให้คุณได้เฉิดฉายทำตัวเย่อหยิ่ง และผมก็ไม่ใช่โจรกระจอก แต่เป็นมหาโจรที่พร้อมจะทำทุกอย่าง และพร้อมจะฆ่าถ้าจำเป็น คิดให้มาก พูดให้น้อย แล้วเจอกันนะมิสพราวพิลาส ขจรราช”

“กะ...แก”

กระเป๋าใบเล็กลอยหวือ หากเจ้าของร่างสูงผลุบหายออกจากกระโจมไปแล้ว ทิ้งให้สาวสวยผู้ประสบชะตากรรมแข้งขาอ่อนทรุดลงนั่งร้องไห้ด้วยความกลัวจับหัวใจเป็นครั้งแรกในชีวิต

ด้านนอกกระโจม ชีคเบนจามินกดยิ้มมุมปากด้วยความขบขัน ผู้หญิงอะไร กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อก็ยังไม่วายแผลงฤทธิ์ ภายใต้ความสวยสง่าและเย่อหยิ่งนั้น เธอซุกซ่อนอะไรเอาไว้บ้างนะเขาชักอยากรู้เสียแล้วสิ หน้าซีดในนาทีหนึ่งแล้วกลับแดงก่ำด้วยความโกรธจัด ดวงตาโตคมสวยช่างน่ามองไม่ว่าจะเป็นเวลาที่มันวาววับด้วยความกราดเกรี้ยวโกรธจัดหรือปรือปรอยเพราะอารมณ์เร้นลึกถูกปลุกกระตุ้นเฉกเช่นเมื่อหลายนาทีก่อน ชายหนุ่มหย่อนระเบิดทิ้งไว้เมื่อครู่เพื่อรอดูว่าเธอจะมีปฏิกิริยายังไง งานนี้คงได้สนุกกันล่ะ

ชีคหนุ่มเกือบเผลอหัวเราะในความคิดของตนหากว่าสายตาไม่เหลือบแลเห็นทหารราชองครักษ์กำลังเมียงมองมาอย่างสงสัยใคร่รู้ประกอบกับแปลกใจ ชายหนุ่มจึงกระแอมไอ ทำหน้าเคร่ง เอ่ยสั่งเสียงเข้ม

“ดูแลมิสให้ดี”

ทหารองครักษ์โค้งกายรับคำสั่งด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเจอสายตาคมขุ่นขวาง

ร่างสูงของชีคหนุ่มเดินลับไป องครักษ์ที่เฝ้าหน้ากระโจมทั้งสองคนก็หันมายิ้มให้กัน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

เสียงนั้นกลับยิ่งสร้างความหวั่นหวาดให้ผู้อยู่ในกระโจมมากขึ้น เสียงหัวเราะพวกนั้นกลับเหมือนเสียงมัจจุราชจากขุมนรกคอยเขย่าโสตประสาทของเธอให้คลุ้มคลั่งแทบบ้า ทำไมเรื่องบ้าๆ มันต้องเกิดขึ้นกับเธอด้วยนะ หญิงสาวหวนนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งเดินทางตามบิดามาบันดัรครั้งแรกพร้อมด้วยรติรสญาติสาว หรือว่านี่จะเป็นเวรกรรมที่เธอเคยทำไว้กับรติรส ชีวิตของเธอถึงได้ประสบเคราะห์กรรมแบบนี้

“พ่อขา พราวกลัว ฮือๆ รส...ฉันขอโทษ เธอคงรู้สึกหวาดกลัวแบบนี้สินะ ตอนที่ถูกทิ้งให้อยู่กับคนแปลกหน้า ฮือๆ นี่มันเป็นเวรกรรมของฉันใช่ไหม”

พราวพิลาสนั่งกอดเข่าร้องไห้เบาๆ พร้อมคร่ำครวญ ครั้งแรกในชีวิตที่เธอรู้สึกกลัวมากแบบนี้ กลัวจนทำอะไรไม่ถูกและพาลสติแตกง่ายๆ เธอจะทำยังไงดี...

หรือนี่จะเป็นบทโทษที่เธอเคยทำไม่ดีไว้กับคนอื่น สวรรค์... อย่าได้ใจร้ายกับเธอเพียงนั้นเลย

“ฝ่าบาท”

ฟาดิลรีบทำความเคารพทันทีที่เห็นวรกายสูงใหญ่ของชีคหนุ่มก้าวเข้ามาในกระโจม นอกจากเขายังมีหัวหน้าทหารองครักษ์ฝีมือดีอีกสี่คน ขาดก็แต่ซาจิ นายทหารคนสนิทที่เปรียบเป็นมือซ้าย ขณะที่ฟาดิลนั้นเป็นมือขวาของชีคเบนจามิน

ชีคหนุ่มพยักหน้าให้ทุกคนทำตัวตามสบาย

“ตามถึงรังไอ้พวกโจรนั่นรึเปล่า”

“คนของเราตามไปจนถึงที่กบดานห่างจากที่นี่ประมาณห้าสิบกิโลเมตร แต่พวกมันไหวตัวเสียก่อน ไอ้พวกนี้มันนกรู้” หนึ่งในนายทหารตอบ

“พวกมันมีสายคอยสอดส่องรายงานแบบนี้ กระหม่อมว่ามันไม่น่าจะเป็นแค่โจรเรียกค่าไถ่ธรรมดา” ฟาดิลวิเคราะห์

“พวกที่ชอบฉกฉวยประโยชน์จากสถานการณ์มีเยอะไปฟาดิล ในเมื่อพวกมันอยากให้ฉันโง่ ฉันก็จะลองแกล้งโง่ดู ไม่เสียหลายอะไรอยู่แล้วใช่ไหม ให้พวกมันตายใจไปก่อน จากนั้นเสือค่อยตะครุบเหยื่อ จับให้มั่นคั้นให้ยับ ไม่ว่ามันจะเป็นพวกไหนหรือคนของใคร ฉันจะไม่ไว้หน้าทั้งนั้น” ชีคหนุ่มคำราม สุรเสียงเข้มเครียดหากเต็มไปด้วยความแน่วแน่เข้มงวด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป