บทที่ 2 คนเอาแต่ใจ

ห้องอาหารชั้นบนสุดของโรงแรมหรูกลางกรุง เจ้าของร่างสมส่วนใบหน้าสวยเฉี่ยวที่ตบแต่งมาอย่างสวยงาม นั่งหน้าบูดบอกบุญไม่รับสายตาจับจ้องไปทางประตูของห้องอาหารเป็นระยะสลับกับก้มมองนาฬิกาเรือนหรู ถ้าจะมีใครสังเกตคงเห็น อารมณ์หงุดหงิดที่เกิดขึ้นจากความไม่ได้ดังใจตามประสาคนถูกตามใจจนเคยตัว สายตาสวยมองจ้องร่างสูงใหญ่หล่อเหลาที่เร่งรีบเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน ก่อนจะมาหยุดตรงสายตาสวยที่มองมาแบบโกรธกรุ่น           "คุณมาช้ามากนะคะพุฒิ"ทันทีที่ชายหนุ่มมาถึง สาวสวยก็ตั้งคำถามขึ้นมาตามอารมณ์โกรธที่เริ่มปะทุขึ้น           "ไม่เอาน่ามายด์" มายด์หรือมณีรินทร์ หญิงสาวสวยที่นั่งตรงหน้ามองสบตาพร้อมกับสายตาที่ขอคำอธิบาย           "คุณให้ฉันรอคุณสองชั่วโมงเพื่อที่จะฟังคุณพูดแค่นี้ เหรอคะ"           "ผมติดธุระกับครอบครัว คุณก็รู้"           "ธุระอะไรคะพุฒิ ใช่ธุระเรื่องหมั้นของคุณหรือเปล่า"สายตาจ้องมองอย่างคาดคั้น           "คุณจะให้ฉันรอไปถึงไหนคะคุณเองก็ไม่ชัดเจน ก็แค่คุณบอกว่าคุณไม่หมั้น คุณมีแฟนอยู่แล้วคุณพูดได้ไหมคะ จะอะไรกันนักหนาเชียว"หญิงสาวกล่าวด้วยอารมณ์โกรธ           "มายด์คุณก็รู้ว่าผมยังพูดอะไรไม่ได้ มันเป็นข้อตกลงที่ทางผู้ใหญ่เราเคยคุยกันไว้"           "แล้วไงคะ?ผู้ใหญ่คุณคุยกันแล้วฉันต้องรอด้วยเหรอคะ คุณต่างหากที่ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย คุณไม่กล้าขัดใจพ่อแม่คุณ หรือบางทีคุณอาจจะไม่รักฉันแล้วหรือเปล่า"           "มายด์!พูดอะไรของคุณ ผมนะเหรอที่ไม่รักคุณ คุณก็รู้ว่าผมรักคุณคนเดียว" ชายหนุ่มพูดรัวเร็วเหมือนจะย้ำความรู้สึกของตัวเอง           "สั่งอาหารเถอะผมหิวแล้ว"พุฒิพัฒน์เอ่ยตัดบทเพราะกลัวจะบานปลาย           "ไม่หิวคะ!"บอกอย่างคนเอาแต่ใจ           "ระหว่างรอคุณฉันกินลมไปจนอิ่มแล้ว ขอตัวเลยนะคะ ช่วงบ่ายมีงานต่อ"พูดจบก็ลุกขึ้นยืนไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยอะไรอีก           "ออ…พุฒิคะถ้าคุณยังไม่ชัดเจนแบบนี้ฉันคงต้องทบทวนข้อเสนอของคุณพ่อท่านแล้วสิคะ บางทีการรับนัดกับ คนอื่นบ้างอาจจะทำให้คุณตัดสินใจอะไรเร็วขึ้น"พูดจบร่างโปร่งก็เดินจากไปด้วยท่าทางมาดมั่นแบบคนที่มั่นใจในตัวเองสูง           "โธ่โว้ย!อะไรกันนักหนาเชียว "ชายหนุ่มสบถอย่างอารมณ์เสีย วันนี้อะไรๆของเขาดูจัดการยากไปหมด พุฒิพัฒน์กำหมัดแน่นทบทวนบทสนทนาของคนรักก่อนจากไป           "นัดรับคนอื่นหรอไม่มีทาง!" กล่าวอย่างหัวเสียพร้อมกับสายตาที่ขุ่นมัว                                            คนเอาแต่ใจ           รถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาตีวงจอดหน้าคฤหาสน์ ‘ราชภัค’ด้วยความเร็วสูงตามอารมณ์ของคนขับ ทันทีที่รถจอดร่างโปร่งสมส่วนก็ก้าวออกมาอย่างรีบร้อน           "คุณมายด์ กลับแล้วเหรอคะ"สาวใช้วิ่งออกมารับหน้า           "ก็เห็นกลับมาแล้วจะถามทำไมอีก"ตอบแบบไม่สบอารมณ์พร้อมกับส่งของในมือให้สาวใช้           "คุณแม่อยู่ไหม"           "อยู่ค่ะ"           "อือ จะไปไหนก็ไป"พูดจบก็เดินเข้าบ้านทันที           "อะไรของเขานะ ตอนออกไปยังยิ้มหน้าบานอยู่เลย"สาวใช้เกาหัวแกรกๆด้วยความงงพร้อมกับส่ายหน้าไปมา           "กลับมาแล้วหรอลูกไหนว่าไปทานข้าวกับคุณพุฒิ ทำไมกลับเร็วจังเลย"คุณวดีเอ่ยถามหลังจากเห็นคนหน้างอเดินเข้ามาในบ้าน           "ไปเจอกันค่ะแต่ไม่ได้ทานข้าว จริงๆแทบไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ"บอกพร้อมกับกระแทกตัวลงนั่งด้วยใบหน้าที่งอง้ำยิ่งกว่าเดิม            "ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอลูกทำไมช่วงนี้ทะเลาะกันบ่อยจังเลย นี่ก็นานแล้วนะที่คุณพุฒิไม่ได้แวะมา" คุณวดีเอ่ยถามด้วยความห่วงใย           "บางทีมายด์ว่าเรื่องของมายด์กับพุฒิคงจะเป็นไปไม่ได้แล้วค่ะแม่ "เอ่ยด้วยน้ำเสียงปนเบื่อหน่าย           "มายด์คงคบกับพุฒินานเกินไป พุฒิเค้าถึงไม่เลือกมายด์ คงเห็นมายด์เป็นของตาย"           "ยายมายด์อะไรกันลูก มีปัญหาอะไรเล่าให้แม่ฟังสิ"คุณวดีเอ่ยถามด้วยความห่วงใย           "ปัญหาเดิมๆค่ะแม่ลูกแหง่กลัวแม่ ไม่รู้สิคะบางทีมายด์คงต้องถอยบ้างเพื่อให้เค้าได้มีเวลาคิด คุณแม่อย่าสนใจเลยค่ะ มายด์โอเค ถ้ามันใช่ก็คงใช่มานานแล้ว ขอตัวนะคะแม่มายด์ปวดหัว"พูดจบก็เดินออกไป ทิ้งให้คุณวดีมองตามด้วยสายตาสงสัยและห่วงใย ลูกคนนี้ใช่ว่านางจะไม่รู้นิสัยถึงจะดูเป็นคนเข้มแข็งแต่จริงๆแล้วก็มีมุมที่อ่อนไหว นางก็พอจะไม่รู้เรื่องราวของลูกกับคนรักมาบ้าง ข่าววงในก็ลือกันให้สะพัดถึงการหมั้นหมายของ พุฒิพัฒน์กับพิมพ์มาดา ถึงมณีรินทร์จะบอกว่าไม่เป็นไรแต่นางก็ยังอดห่วงลูกไม่ได้อยู่ดี           "ยายมายด์เอ้ย"คุณวดีถอนหายใจ……………………………………………………………………           เสียงสัญญาณมือถือดังขึ้น เจ้าของเพียงแค่ปรายหางตามอง ปล่อยให้มันดังอยู่แบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว ทั้งสายโทรเข้าและเสียงแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ดังต่อเนื่องมาสักพัก           "สามสิบสาย! คุณคิดว่าจะง้อฉันด้วยวิธีเดิมๆเหรอคะ" ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มมุมปากให้กับมือถือ           "ห่างกันบ้างก็ดีค่ะ คุณจะได้เห็นคุณค่าของฉันบ้าง"พูดพร้อมกับกดปิดมือถือ เป็นอันจบการสนทนาที่มีเพียงหญิงสาวพูดเพียงคนเดียวเท่านั้น           เสียงบริการฝากหมายเลขโทรกลับของปลายสาย ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้บูดบึ้งจนคิ้วแทบชนกันกำหมัดทุบโต๊ะระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัว ถ้าโต๊ะทำงานเป็นหน้าสวยๆของคนปลายสายป่านนี้คงพังยับเยิน           "รับสายสิครับมายด์ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน"พุฒิพัฒน์ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน พร้อมกับกดปุ่มติดต่อภายใน           "คุณสาเย็นนี้เลื่อนนัดให้ผมก่อนนะ บอกทางเราจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง”           “ให้มันได้อย่างนี้สิมายด์เสียงานเสียการจริงๆ"สบถออกมาอย่างหัวเสีย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป