บทที่ 6 หื่นใหญ่ Vs หื่นน้อย (75%)

“ถ้าอยากงัดหนอนน้อยออกมาโชว์ ก็ไปร่วมเล่นในรายการสารคดีสัตว์โลกโน่น” ในเมื่อเธอเบี่ยงประเด็นหนีจากการสนทนาอันน่ากระดากอายแล้ว แต่เขาดันไม่เล่นด้วย แถมยังพยายามดึงเข้าสู่ความห่ามหื่นไม่เลิกแบบนี้ แล้วเรื่องอะไรเธอจะต้องไปสงบปากสงบคำไม่ทราบ

“หนอนน้อยที่ไหน…นี่มันโคตรพญามังกรชัดๆ” บัลลังก์เมฆว่าพลางจงใจแอ่นสัดส่วนอลังการที่อยู่ในเป้ากางเกงเข้าสีต้นขาเรียวเสลาเบาๆ ทว่ายั่วเย้าในที

กลิ่นสาปสาวที่ลอยมาปะทะจมูกเมื่อกี้กำลังทำให้เขาตื่นตัวจนน่าประหลาด แล้วพ่อเจ้าประคุณก็ตามติดอย่างดึงดันทั้งที่เธอนั้นพยายามเคลื่อนตัวออกห่าง

นรก! เขาเสือกมีอารมณ์กับยัยเด็กกะโปโลตัวกระเปี๊ยกเท่าลูกหมาที่เหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิงนี่เหรอวะ ฉิบหาย! วิปริตสิ้นคิดโคตรๆ

ไม่! ไม่มีทาง!

ที่สุดบัลลังก์เมฆก็เหมือนจะหยุดความคิดหื่นๆ ในหัวลงได้ ทว่าอวัยวะที่สมองมิอาจควบคุมได้ยังทำท่าเกเร และพร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่สาวน้อยทุกขณะจิต จนเธอสัมผัสได้

“อี๋…”

“ทำหน้าแบบนี้อยากลอง ‘ขี่’ พญามังกรเหรอจ๊ะ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้ามันได้ ‘ขึ้น’ แล้วหาทางลงยากมาก” วาจาสองแง่สามง่ามทำให้คนฟังหน้าร้อนวาบ ผู้ชายคนนี้เหลือรับจริงๆ

“ในหัวคิดแต่เรื่องอุบาทว์หรือไง ตาแก่จอมลามกเอ๊ย!”

“คำก็แก่สองคำก็แก่ เดี๋ยวคนแก่ก็จับปล้ำทำเมียซะเลยนี่” คนที่ถูกตะโกนใส่ปาวๆ ว่าแก่ชักจะเลือดขึ้นหน้า แบบว่ารับไม่ได้อย่างแรง ใครว่าเขาแก่กันล่ะ เขาก็แค่อายุมากกว่าเธอเท่านั้นเอง

“ถ้าได้กับคุณฉันขอกลั้นใจตายเสียยังดีกว่า” เธอเชิดหน้าเบ้ปากใส่อย่างนึกรังเกียจคนกักขฬะ

“ผู้หญิงทุกคนที่มีเซ็กส์กับฉันเวลาเอากันไม่เห็นมีใครอยากจะกลั้นใจตายซักคน มีแต่ดิ้นพล่านและร้องครวญครางว่าเมฆขาเอาอีก…เอาอีก ซึ่งเธอเองก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้นนักหรอก เผลอๆ เธออาจจะร้องให้ฉันเอาทั้งคืนก็ได้ เพราะเธอน่ะมันหื่นหลบใน รู้เอาไว้ซะด้วยแม่เด็กไวไฟ”

คนโอหังเอ่ยอย่างมาดมั่นจนน่าหมั่นไส้ แถมยังใจกล้าหน้าด้านทำเสียงซี้ดซ้าดประกอบสีหน้าหื่นกามเข้าขั้น และวาจาโจ๋งครึ่มนั้นก็ทำให้เธอตวาดแว้ด

“ตาเฒ่าจอมวิตถาร! หลงตัวเองเอ๊ย!”

“อวดดีแบบนี้อยากโดนตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นเหรอจ๊ะ” พ่อหนุ่มมาดดิบจงใจยื่นใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรังมากระซิบขู่ชิดพวงแก้มสุกปลั่ง

“ก็ลองดูสิ แม่จะกัดให้ลิ้นขาด” สาวน้อยผงะถอยห่าง พร้อมส่งเสียงแข็งๆ ขู่ฟ่อ

“ถ้าลิ้นฉันได้เข้าไปในปากเธอ อย่าหวังเลยว่าเธอจะได้กัดมัน ถ้าดูดล่ะก็ไม่แน่” พ่อเจ้าประคุณเอ่ยอย่างยโสจนน่าหมั่นไส้ ทำเอาสาวน้อยฮึดฮัดหน้าแดงก่ำ

“ตาเฒ่าบ้า! ตอนเด็กๆ แม่เอาซีดีหนังโป๊ยัดปากแทนข้าวหรือไงยะถึงได้ลามกนัก” เสียงใสๆ ที่แว้ดใส่เรียกรอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปากที่ปกคลุมไปด้วยหนวดเครารุงรัง อีกทั้งนึกมันเขี้ยว เด็กอะไรแก่แดดแก่ลมยืนเถียงผู้ใหญ่ฉอดๆ แต่ก็ยังดีอยู่ที่ยัยลิงน้อยรู้จักใช้คำว่า ‘ยะ’ เพราะมันน่าฟังกว่าคำว่า ‘วะ’ เป็นไหนๆ อย่างน้อยก็มีวิญญาณผู้หญิงมาสิงร่างของเธอชั่วขณะ…เป็นระยะก็ยังดี

“รู้ดีขนาดนี้เคยดูหนังโป๊ล่ะสิท่า มิน่าถึงได้แอบมาดูฉันเอากับคู่ขาอยู่บ่อยๆ” เขาเอ่ยหน้าตาย วาจาหน้าไม่อายทำให้สาวน้อยนึกอยากจะพ่นไฟใส่ไอ้คนหื่นเข้าไส้ยิ่งนัก

“คนบ้า! อย่ามาใส่ความกันนะ” เธอตะโกนลั่นพลางทำตัวพองอย่างโกรธจัด แม้มันจะเป็นความจริงก็เถอะ

ฮึ่ม! นี่คนขวานผ่าซากจะยั่วโมโหเธอไปถึงไหน จะเอาให้สติแตกเป็นบ้าตายไปเลยหรือไง

“ดูก็ยอมรับมาเถอะน่า ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก แต่ ‘ช่วยตัวเอง’ มันไม่ดีนะ หาผัวสิอีหนู ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าทำสองคนฟินกว่ากันเยอะ” ครั้นเห็นเธอกำหมัดตัวสั่นเทิ้มเขาก็ได้ใจ ลอยหน้ากวนประสาทยกใหญ่

“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าไม่มีปัญญาหาผัวล่ะสิ” คำสบประมาทรุนแรงทำให้คนฟังเลือดขึ้นหน้า

“หยาบคาย! ผู้หญิงยุคใหม่น่ะสตรอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชายหรอกย่ะ” บุปผาสวรรค์เชิดหน้าสวนกลับเสียงขุ่น ส่วนในใจก็ได้แต่พยายามนับหนึ่งให้ถึงสิบ

“อ๋อ…ชอบ ‘ช่วยตัวเอง’ ว่างั้น” วาจาที่อีกฝ่ายพ่นออกมาทำให้สาวแสบสติแตกอย่างฉับพลัน

“ตายซะเถอะ! ไอ้คนลามก!” ขาดคำเธอก็ตั้งท่าจะประทุษร้ายจอมหื่นให้สูญพันธุ์ ทว่ากลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงดุกระด้างคำรามข่มขู่

“อ๊ะๆ อย่าแม้แต่จะคิดนะนังหนู ไม่งั้นฉันยัดเยียดความเป็นผัวให้เธอแน่”

“คุณมันคนเถื่อน! ลามก! โรคจิต! วิปริต! วิตถาร!”

“แล้วก็หื่นมาก แบบ ก.ไก่ ล้านตัวด้วย” พ่อหนุ่มพันธ์ดิบยังมีหน้ามาต่อให้อย่างหน้าไม่อาย

“ฮึ่ย…ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

ยัยตัวร้ายทิ้งท้ายด้วยการตะโกนลั่น ก่อนจะสะบัดหน้าพรืด แล้ววิ่งจากไป ทิ้งให้บัลลังก์เมฆแหงนหน้าระเบิดเสียงหัวเราะอยู่คนเดียว ถึงแม้ไร่ของทั้งคู่จะเป็นศัตรูกัน และถึงแม้เขาจะนึกชังน้ำหน้าพ่อของเธอจนอยากจะฆ่าให้ตายกันไปข้าง แต่เขาก็อดที่จะเอ็นดูยัยลิงทโมนตัวแสบอย่างเธอไม่ได้เลยจริงๆ ให้ตายสิ!

ไร่หวานใจอยู่ติดกับไร่แดนสรวง ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพ่อเลี้ยงบัญชา นฤบดินทร์ พ่อหม้ายเมียตายวัยห้าสิบเก้าปี ไร่หวานใจทำกิจการเดียวกันกับไร่แดนสรวง ซึ่งหลักๆ คือการทำฟาร์มม้า โดยมีการเพาะพันธุ์ม้าขาย และเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในรูปแบบของรีสอร์ต มีความงดงามของธรรมชาติไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพียงแต่ไร่แดนสรวงนั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า

พื้นที่ของไร่หวานใจจะถูกจัดสรรไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มม้าขนาดกลาง ถัดมาเป็นแปลงข้าวโพดสำหรับขายเข้าโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์ จุดขายจะอยู่ที่ความงดงามของทุ่งดอกทานตะวันขนาดใหญ่ตรงบริเวณกลางไร่อยู่ในส่วนของรีสอร์ต ซึ่งมีลักษณะคล้ายเนินเขาหน่อยๆ เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบนักแล ห่างออกมาประมาณสามกิโลเมตรก็จะเป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ของเจ้าของไร่ ส่วนบ้านพักคนงานจะอยู่ท้ายไร่ห่างจากโซนอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาดังข้างต้น เพื่อไม่ให้คนงานพลุกพล่านเป็นการรบกวนแขก

ไร่แดนสรวงกับไร่หวานใจเป็นทั้งศัตรูและคู่แข่งตัวฉกาจที่ไม่มีวันญาติดีต่อกัน เพราะมีความบาดหมางฝังลึกมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ

“ย่าจ๋า”

เสียงใสๆ ส่งมาก่อนตัว วินาทีถัดมาแม่สาวน้อยก็คลานเข่าเข้ามานั่งพับเพียบเรียบร้อยต่อหน้าผู้เป็นย่า นางสอางค์ นฤบดินทร์ หญิงชราผมสีดอกเลา แต่ยังคงเค้าความสง่า วัยแปดสิบสองปี พร้อมส่งยิ้มหวานหยดประจบ ทำเอาอีกฝ่ายค้อนปะหลับปะเหลือกเพราะรู้ว่าแม่หลานสาวตัวแสบกำลังทำเป็นลิงหลอกเจ้า ส่วนผู้เป็นพ่ออย่างนายบัญชาที่นั่งเยื้องออกไปก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างยิ้มๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป