บทที่ 1 บทนำ

ว่ากันว่าความทรงจำเกี่ยวพันกับความรู้สึกเสมอ และบางครั้ง... มันแยกจากกันแทบไม่ได้ แล้วจะเป็นไปได้ไหมหากจะลืมความทรงจำเลวร้าย จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป

อมายาเงยหน้ามองบ้านตัวเองแล้วปล่อยให้น้ำตาไหล ไม่รู้ว่าติดคุกเพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อกับการเป็นลูกเมียชังในบ้านหลังนี้อย่างไหนจะดีกว่ากัน

“เข้าไปข้างในสิ”

สารภีเมียรักของผู้เป็นพ่อบอกด้วยแววตาเหยียดหยาม หล่อนคือคนที่ไปรับเธอออกมาจากสถานีตำรวจ ด้านอมายากำหมัดแน่นเพราะรู้ดีใครรออยู่ในนั้น

“พี่ออยกลับมาแล้ว”

ทันทีที่เข้ามาในบ้าน เอมมาลินก็บังคับวีลแชร์เข้ามาหา หล่อนเป็นน้องสาวคนละแม่แต่หน้าเหมือนกับเธอราวกับฝาแฝด

เอมมาลินเดินไม่ได้ตั้งแต่อายุสิบสามเพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากอมายาและคุณพิยดาผู้เป็นแม่ นั่นคือสิ่งที่อธิบายที่มาสถานะ ‘ลูกชัง’ ของเธอได้เป็นอย่างดี แต่ถึงเธอจะเป็นที่เกลียดชังแค่ไหน เรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรเจอ

เผียะ!!!

อมายาฟาดฝ่ามือเข้าเต็มหน้าน้องสาว เสียงเปรี๊ยะแตกในหูของเอมมาลินพร้อมกับเลือดที่กบมุมปาก หล่อนยกมือลูบแก้ม เงยหน้ามองคนเป็นพี่อย่างไม่เข้าใจ

“ตายจริง! เป็นบ้าอะไรยัยออย”

สารภีตกใจรีบเข้ามาโอบบุตรสาวของตนเอาไว้ อมายาหัวเราะเสียงหยันหากแต่น้ำตาไหลพราก ความรวดร้าวปรากฏให้เห็นในแววตาคลั่งแค้น ก่อนจะทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

“มันทำลายชีวิตฉัน ฮือ ๆๆ” มือบอบบางยกขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ “พวกคุณทุกคนทำลายชีวิตฉัน”

อนาคตของอมายาที่ริบหรี่อยู่แล้วต้องดับวูบ หลังจากหลายวันก่อนเธอสะดุ้งตื่นแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ในรถที่โรงเก็บรถ พร้อมสวมเสื้อผ้าของเอมมาลินอยู่ด้วย ทั้งตำรวจยังมาเคาะกระจกเรียก

ทุกคนรวมถึงคุณอธิปบิดาของเธอต่างกล่าวหาว่าเธอคือคนที่ขับรถชนมีนรญา อดีตเพื่อนรักในอุบัติเหตุชนแล้วหนีเมื่อคืน รอยชนที่กระจกหน้า ลายนิ้วมือ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวแน่นชนิดที่ว่าดิ้นไม่หลุด แต่ไม่เข้าใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร

เธอดื่มเหล้าจริงเพราะเสียใจที่เพื่อนเลวอย่างมีนรญากำลังจะสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แย่งไปได้สำเร็จ แต่คืนนั้นเธอดื่มที่บ้าน และภาพสุดท้ายที่จำได้คือเธอนอนกอดขวดเหล้าหลับซบชักโครกบนห้องตัวเอง

หากจะมีคนที่หน้าตาเหมือนเธอขับรถชนนังสารเลวมีนรญาละก็ คงเป็นเอมมาลิน แต่ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ ราวกับทุกคนร่วมมือกันสร้างเรื่องใส่ร้ายเธอเพื่อปกป้องน้องสาวจอมสร้างภาพ

เพราะเอมมาลินเดินได้นานแล้ว เธอเห็นกับตา แต่หล่อนขอร้องไม่ให้บอกใคร อ้างว่าอยากให้ทุกคนแปลกใจ แต่อมายารู้ว่าหล่อนติดสบายที่มีคนทำอะไรให้ทุกอย่างมากกว่า

อมายาที่ขัดใจน้องสาวเมื่อไหร่ก็ลงท้ายด้วยถูกคุณอธิปทำร้ายจึงไม่มีทางเลือก ซึ่งอันที่จริงเธอแค่ไม่สนใจและไม่อยากยุ่ง แต่ไม่คิดว่ามันจะกลับมาทำร้ายตัวเอง เธอเกลียดเอมมาลินมากแต่คงน้อยกว่าความร้ายกาจของฝ่ายนั้น

อุบัติเหตุที่ทำให้เด็กคนนั้นพิการงั้นหรือ...

หึ! ไม่มีใครเชื่อหรอกว่ายัยเด็กเอมมาลินพยายามผลักเธอให้รถของคุณพิยดาซึ่งขับเข้ามาตามถนนของบ้านชน หากบังเอิญว่าเป็นหล่อนเสียเองที่พลาดท่าถูกชนจนพิการ

แต่เรื่องกลายเป็นว่าเธอกับคุณพิยดาเกลียดลูกเมียรองจึงรวมหัวกันทำร้าย ด้วยรูปการณ์มันทำให้ดูเหมือนว่าอมายาเหวี่ยงน้องออกไป

แถมคุณพิยดาก็ขับรถเข้ามาด้วยความเร็วสูง เพราะหัวเสียที่สามีพาสารภีเข้ามาอยู่ในบ้าน จึงทำให้เอมมาลินได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่ร่างกายพิการมันไม่ได้น่าสังเวชเท่าหัวใจไม่สมประกอบของหล่อนเลย

“ทุกคนรวมถึงฉันด้วยหรือเปล่า”

“โอ๊ย!!!” อมายาร้องเสียงหลงเมื่อถูกคนเป็นพ่อซึ่งเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กระชากเรือนผมจนใบหน้าแหงนหงาย

“คุณพ่อ ออยเจ็บ”

เธอดึงมือท่านออกแต่ก็ไร้ประโยชน์ พลันมืออีกข้างก็ตะปบเข้าที่ลำคอเธอแล้วบีบแรง เธอหายใจไม่ออกตาเหลือกลาน สัญชาตญาณพาให้สองมือทั้งจิกทั้งข่วนแขนใหญ่หากก็ไม่เป็นผล

“คนที่ทำลายชีวิตแกจะวิ่งเต้นให้แกออกมาจากคุกเหรอ”

“คุณพ่อ แค่ก ๆ”

เธอกำลังจะขาดใจตาย สมองต่อต้านขณะที่หัวใจนั้นแสนชอกช้ำ เพราะตัวตั้งตัวตีที่วิ่งเต้นเพื่อให้เธอได้ออกมาจากคุกคือครอบครัวหมอชาวี คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดหากแต่ดีกับเธอยิ่งกว่าคนในครอบครัว

“คุณพ่อพอเถอะค่ะ สงสารพี่ออย”

เอมมาลินพยายามเอื้อมมือห้ามสุดแขนจนตกจากวีลแชร์ ทั้งสารภีก็ร่างเล็กพอ ๆ กับบุตรสาวเลยพากันล้มพับอยู่ที่พื้น อธิปตกใจที่เผลอทำร้ายลูกรัก เลยผละไปช่วยประคองหล่อนอย่างห่วงใย

“ลูกเอม เจ็บไหมคะ พ่อขอโทษนะคะ”

สรรพนามที่ท่านเรียกน้อง ทั้งการกระทำที่ตรงข้ามราวฟ้ากับเหวเคยทำให้อมายาปวดใจเจียนบ้าหากก็ยังไม่ชินเสียที

“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บเลย”

เอมมาลินส่ายหน้าจนเส้นผมกระจาย ภาพคุณอธิปกับสารภีตระกองกอดหล่อนอยู่ทำให้อมายาสะท้อนใจ

หล่อนมีทั้งพ่อแม่ที่รักหล่อนและพร้อมอ้าแขนรับหล่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

แล้วเธอเล่า...

เธอมีใคร...

เธอก็เป็นลูกของท่านเหมือนกันไม่ใช่หรือ จะร้ายจะดีก็ลูก ทำไมถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก

ตั้งแต่เล็กจนโตคุณอธิปไม่เคยรักเธอ คุณพิยดาก็มองเธอเป็นเพียงตราบาปและตัวแทนของความผิดพลาด ไม่ได้อยากให้เธอเกิดมาตั้งแต่แรก แต่ต้องทำหน้าที่พ่อแม่ทั้งที่ฝืนใจนักหนา

จะมีใครจินตนาการได้บ้างหรือเปล่าว่าความรู้สึก ‘ไม่เป็นที่ต้องการ’ มันทั้งเจ็บปวดและอ้างว้างเพียงไร

“คุณพ่ออย่าทำอะไรพี่ออยเลยนะคะ เอมขอร้อง” คำพูดของเอมมาลินทำให้หล่อนดูดีในสายตาท่าน

ส่วนอมายาถูกมองด้วยแววตาเกลียดชัง ไม่ทันไรท่านก็ปราดเข้ามากระชากสาบเสื้อจนหญิงสาวตัวลอยขึ้นจากพื้น เธอเหมือนตุ๊กตาเก่า ๆ ที่ท่านคิดจะเหยียบย่ำเท่าไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ

“กรี๊ด ปล่อยออยนะ” อมายาร้องลั่นทันทีที่ถูกลากเข้าไปกดหัวต่อหน้าเอมมาลิน

“แกเห็นไหม น้องแกที่แกพยายามจะฆ่า เขารักเขาห่วงแกแค่ไหน แล้วนี่แกยังมาตบหน้าน้องอีกเหรอ อีเวร”

“คุณพ่อ ฮือ ๆ ปล่อยออยนะ!” อมายากรีดร้องลั่น เป็นที่น่าสังเวชใจของเหล่าคนรับใช้ที่ต่อให้สงสารก็ทำอะไรไม่ได้

“แกไม่น่าเกิดมาเลย ฉันน่าจะเอายาขับเลือดกรอกปากแม่แกตั้งแต่แกยังเป็นวุ้น”

อมายาน้ำตาไหลนอง เธอหมดแรงจะต่อต้านขัดขืน ได้แต่ปล่อยให้คนเป็นพ่อจับใบหน้าถูกับพื้นหินอ่อนเงาวับ

ความรู้สึกรักพ่อโดยไม่มีอย่างอื่นเจือปนมันเป็นอย่างไร... จะผิดไหมที่บางทีก็อยากให้ท่านตายไปเสีย เธอจะได้หลุดพ้น

หรือหากไม่เป็นอย่างนั้น... ก็ขอให้เป็นเธอก็ได้ที่ตาย

“ขอโทษน้องซะ”

“ออยไม่ผิด”

เธอร้องบอกเสียงขาดห้วง เพียงเท่านั้นก็ถูกกระชากศีรษะขึ้นแล้วตบฉาดจนร่างเล็กสะบัดหงาย แต่อย่างไรเสียเธอก็ยังยืนยันคำเดิม

“ออยไม่ผิด ฮือ ๆๆ อั่ก!”

ท่านหวดหน้าแข้งเข้ากลางลำตัวที่บอบบางราวกับไร้น้ำหนัก อมายาเจ็บจุกจนตัวงอ สำลักเลือดออกมาเปื้อนพื้น หากในจังหวะที่ท่านจะเตะซ้ำ แม่บ้านคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาขัด

“คุณท่านคะ คุณเขมราชมาพบค่ะ”

ชื่อของผู้ชายคนนี้ทำให้เอมมาลินยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาและซับเลือดตรงมุมปาก พยายามทำตัวเองให้ดูดีที่สุด ด้านคุณอธิปและสารภีมองหน้ากันพลางกลืนน้ำลายลงคอ

ฝ่ายอมายานั้นไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรดี... หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจที่ได้เห็นหน้าเขา และคงมีกำลังใจใช้ชีวิตไปอีกหลายวัน

แต่ตอนนี้... เขาคือคนทรยศที่ไปเรียนเมืองนอกไม่เท่าไหร่ก็ขาดการติดต่อ ยังไม่เจ็บเท่าการกลับมาประกาศว่าเขาจะแต่งงานกับมีนรญาซึ่งพบรักกันที่นั่น

หัวใจเขาเป็นของหล่อน...

ส่วนอมายาก็ตกอยู่ในสถานะฆาตกรที่ฆ่าคนรักของเขาได้อย่างไรไม่รู้ แต่อีกส่วนหนึ่งเธอก็ไม่เสียใจเลยที่มีนรญามีจุดจบแบบนี้ และไม่ได้รู้สึกผิดต่อคนทรยศแม้แต่น้อย

“อย่าให้มันเข้ามา” คุณอธิปรีบบอก เอมมาลินช้อนตามองบิดาตาขุ่นโดยท่านไม่ได้สังเกต หากก็ไม่ทันเสียแล้ว

“ผมไม่รบกวนเวลาพวกคุณมากหรอก”

ร่างสูงสมส่วนราวกับรูปปั้นเทพบุตรกรีกสวมชุดดำไว้ทุกข์เดินเข้ามาในบ้านอย่างสง่างามโดยไม่ต้องพยายาม สายตาคมแต่เศร้าหมองกวาดมองภาพตรงหน้า

เอมมาลินถูกทำร้าย เช่นเดียวกับฆาตกรอย่างอมายาซึ่งน่าจะเจ็บหนักกว่าและเป็นสาเหตุที่สั่นคลอนความตั้งมั่นในใจเขา ทว่าเขมราชไม่เข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่ และไม่คิดสงสารหรือเห็นใจ ถ้าอมายาตายไปเสียได้ วิญญาณของมีนรญาคงจะมีความสุข

“แค่อยากมาดูให้เห็นกับตาว่านังฆาตกรมันออกมาแล้ว” เหลือบมองร่างสวยที่หมดสภาพตรงพื้นอย่างชิงชัง ริมฝีปากกระจับได้รูปบิดยิ้มเยือกเย็น “แล้วผมก็จะบอกให้รู้เอาไว้ ผมไม่ปล่อยพวกคุณไปแน่”

“ระ... เราเกี่ยวอะไรด้วย” คุณอธิปไม่เข้าใจ “ออยเป็นคนชน เราไม่ได้ทำซะหน่อย”

อมายากำหมัดแน่น เจ็บแค้นอัดแน่นอยู่ในอกจนแทบจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ ด้านเขมราชกล่าวหน้าตายเสียงเย็นเยียบ

“ในเมื่อพวกคุณวิ่งเต้นเพื่อให้ฆาตกรลอยนวลได้ ก็เท่ากับพวกคุณเข้าข้างคนผิด”

คุณอธิปพูดไม่ออก

เขมราชมองเขาหัวจรดเท้าแล้วพยักพเยิดให้คนของตัวเองยกกล่องพลาสติกหลายใบเข้ามา

“คุณพ้นจากตำแหน่งในบริษัทคุณป้าผม แล้วท่านฝากมาบอกว่าท่านรู้เรื่องเงินในบริษัทมาตลอด ที่ผ่านมาท่านให้โอกาสเลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ตอนนี้ท่านจะรอเจอคุณที่ศาล”

“ได้ยังไงกัน”

“ได้สิ” เขาพยายามข่มอารมณ์ ทั้งที่อยากชักปืนเป่ากบาลคนพวกนี้ให้ตายตามมีนรญาไป

พลันเสียงหัวเราะของอมายาก็ดังขึ้นทั้งที่น้ำตานองหน้า

เธอคงบาปหนาจริง ๆ ที่รู้สึกสาแก่ใจกับชะตากรรมของพ่อ แต่เธอดีใจมากกว่าที่สุดท้ายฟ้าก็มีตาแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ความจริงก็ตาม

“มีอะไรตลกนักเหรอ!?”

เป็นเขมราชเสียเองที่ไม่พอใจ หันไปมองฆาตกรราวกับจะฆ่าให้ตายด้วยสายตา

เธอไม่ตอบ ซ้ำร้ายยังหัวเราะไม่หยุด

เขมราชปราดเข้าไปกระชากสาบเสื้อเธอขึ้นมาเต็มแรงเพราะควบคุมโทสะไม่ได้อีกต่อไปแล้วเค้นเสียงลอดไรฟันถาม

“มีความสุขมากใช่ไหม!?” อมายามองเขาผ่านม่านน้ำตา

เสี้ยววินาทีหนึ่งใจดวงนี้ยังคะนึงหาช่วงเวลาที่รักกัน แต่น่าเสียดายที่จับมือกันไม่ถึงฝัน เพราะเขมราชก็แค่ผู้ชายหลายใจ และแน่นอนว่าบทเรียนที่เขาได้รับมันสาสมแล้ว

“ใช่” กระแสเสียงแหบแห้งแต่มันกลับกังวานชัดเจนในหัวใจคนฟัง เขาไม่ได้หวังให้เธอเป็นคนดีอย่างใครเขา เพียงอยากให้เธอมีสำนึกความเป็นคน แต่อมายากลับทำให้เขาผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า

“สารเลว!” เขมราชตะปบลำคอเธอด้วยมือข้างหนึ่ง

“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ พี่เฟลม”

อมายาตอบกลับไม่ยี่หระ มุมปากสวยกระตุกยิ้มราวกับยินดี ต่อไปนี้เธอจะทำในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข เพราะสำหรับนังฆาตกรอย่างเธอแล้วมันไม่มีอะไรจะเสีย

แต่เขากลับฉุกคิดได้ว่าสำหรับผู้หญิงเลวทรามอย่างแม่นี่ แค่ความตายมันคงง่ายเกินไป

“ดื่มด่ำอิสรภาพให้พอ...” มือที่จับลำคอเลื่อนขึ้นมาตบแก้มเธอไม่แรงนักสองสามที “อีกไม่นานฉันจะส่งเธอไปตายในคุก”

“จัดไป! ฉันจะมีความสุขจนคนอย่างคุณอิจฉา หึ ๆๆๆ”

แววตาวาวโรจน์จ้องอมายาเขม็ง เขาอยากฆ่าเธอให้ตายเดี๋ยวนี้ แต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้ บทเรียนของเธอไม่ใช่ความตาย

ชายหนุ่มผลักเธอออกอย่างแรง ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ถุยน้ำลายลงพื้นพร้อมปรายตามองเธอราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ

หัวใจของอมายาไหวสั่น ในสถานการณ์แบบนี้เธอรู้ดีว่าไม่ควรคาดหวังจากเขา แต่การกระทำของเขมราชทั้งเหยียดหยามศักดิ์ศรีและเหยียบย่ำหัวใจ มันยิ่งกว่าหมดเยื่อไม่เหลือใย แต่เพราะเขาเกลียดเธอเข้าไส้ไปเสียแล้ว...

คิดแล้วอมายาก็ได้แต่แค่นเสียงหัวเราะบ้าคลั่งแว่วตามหลังเขาไป ทุกคนตราหน้าว่าเป็นฆาตกรไปแล้ว คงช่วยไม่ได้แล้วสินะ

งั้นเอาเป็นว่า... เธอจะใช้ชีวิตให้มีความสุขจนญาติเหยื่อแดดิ้นกันไปเลย อยากรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายใครมันจะอกแตกตายไปก่อนกัน

เขมราชกดความรู้สึกส่วนเกินเอาไว้ลึกสุดใจ แล้วจำให้ขึ้นใจว่านังผู้หญิงบ้าคนนั้นทำให้ลูกกับเมียเขาต้องตาย และมันจะต้องได้ชดใช้อย่างสาสม

บทถัดไป