บทที่ 12 จำใจ
“เลี้ยงคนที่มาติดต่องานกับคุณแบบนี้ทุกคนหรือคะ” รินดาว่าแดกดัน
“ก็ไม่ทุกคนหรอก สำหรับคนพิเศษเท่านั้น” เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอ หญิงสาวนั่งลงแบบเสียไม่ได้
“รินอยากทานอะไรดี” น้ำเสียงที่แสดงความอาทรออกมาอย่างชัดเจน ช่างเหมือนวันแรกที่เจอะเจอกัน รินดาสะท้อนในหัวใจ เธอเบือนหน้าหนี และก้มมองตามเมนูทำไม่สนใจ
“ว้าย... ตายแล้ว... ปาปี๊” หญิงสาวนางหนึ่งส่งเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง เธอแทบถลาเข้ามากอดป้องณวัฒน์เอาไว้แน่น แล้วหอมแก้มเขาหนักๆ อย่างไม่เกรงกลัวและอายสายตาของใครๆ ที่จ้องมองมายังที่ทั้งคู่เป็นตาเดียว
เสียงของมายูทำให้ป้องณวัฒน์ผวา เขาตั้งรับไม่ทัน
“กลับมาจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถามเธอออกไปทันที
“ถึงเมื่อวานดึกแล้ว คุณพ่อส่งรถไปรับ มายูก็มาหัวหินทันที คิดถึงปาปี๊จังเลย” แล้วหญิงสาวหน้าตาสะสวย ผิวขาวเป็นหยวก และตัวนวลเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่น เธอไม่สนใจใครที่จดจ้องมองมาทั้งนั้น เจตนาแสดงความรักและความคิดถึงป้องณวัฒน์มากๆ
จุ๊บ... ม้วก...
ป๊อกป๊อกป๊อก รินดาเอาสันเมนูเคาะลงไปที่โต๊ะ ใช้สายตาดูแคลนทั้งคู่ออกมาอย่างชัดเจน
“เวลามื้อเที่ยงนะคะ ถ้าอยากจะขึ้นเตียงกันมาก ก็เชิญคุณป้องณวัฒน์กับคุณผู้หญิงที่อื่นดีกว่าไหมคะ ดิฉันว่าที่นี่คงไม่เหมาะ”
“ย่ะ... ปาปี๊ ใครคะผู้หญิงคนนี้” เธอหันมามองหน้าของรินดาแล้วถามออกไป
ป้องณวัฒน์เห็นสายตาของรินดาก็เสียวสันหลังวูบ ลืมไปเลยว่าเธอนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย
“ฉัน รินดาค่ะ เป็นแค่คนที่ทำงานร่วมกับคุณป้องณวัฒน์ ปาปี๊อะไรของคุณนั่นแหละค่ะ จะเอายังไงดีคะ” รินดามองหน้าหาเรื่องป้องณวัฒน์
“เออ... ริน เอ๊ย... คุณรินดา นี่มายู”
“แฟน...”
“อ๋อ...” เธอพยักหน้ารับรู้
คำแนะนำของมายู ทำให้ป้องณวัฒน์ขยับตัวนั่งหลังตรง ค่อยใช้มือจับตัวของมายูให้นั่งลงไปบนเก้าอี้ใกล้ๆ
“มายูเป็นลูกเจ้าของร้านอาหารที่นี่”
“อ้อ... พามากินร้านของแฟน ก็ดีนี่ค่ะ เงินทองไม่ไปไหน” เธอพับเมนูลงแล้วหันไปสั่งอาหารกับบริกรที่คอยยืนรับคำสั่งอยู่
“ขอสลัดกุ้งสด เอาที่สดจริงๆ นะคะ เน่าๆ ไม่เอา และก็ ซุปหอยลาย สเต็กปลาแซลมอนราดพริกไทยดำ เอาเนื้อปลาสุกๆ นะคะ”
“คืนนี้ มายูแวะไปหานะคะ เมื่อกี้พายไก่ไม่ได้บอกใช่มะ ว่ามายูมาถึงเมืองไทยแล้ว มายูโทรหาปาปี๊แต่พายไก่บอกว่าปาปี๊ทำงาน เอามือถือมา” เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขาทำประเจิดประเจ้อ
“ที่นี่ไม่ใช่ที่รโหฐาน ถ้าจะจู๋จี๋กันขนาดนี้ น่าจะใช้บริการห้องน้ำดีไหมคะ” รินดาแนะนำและว่ากระแทก
“เอ๊ะ... คุณ... ปากร้าย...”
“หื้อ...” รินดาทำตาโต เหมือนพร้อมจะหาเรื่อง ดูหน้าป้องณวัฒน์ที ดูหน้ามายูที แล้วยิ้มหยันๆ
“จะคุยกันเรื่องงานต่อ หรือจะว่ากันด้วยเรื่องส่วนตัวคะ” รินดาทำท่าจะสะพายกระเป๋าขึ้น
ป้องณวัฒน์ดูหน้ามายูยิ้มแห้งๆ
“มายู เสร็จงานแล้วผมโทรหา”
“จริงนะคะปาปี๊”
“แหวะ.....” เขาเห็นท่าที่รินดาทำขยับปากส่งเสียงออกมาเบาๆ
“ค่ะ... จุ๊บ...” เธอทำตามอย่างว่าง่าย แต่ลุกขึ้นสะบัดชายกระโปรงไปโดนรินดาอย่างจงใจ
“ตามสบายนะคะ แต่อยากจะบอกคุณรินดาว่า ของเราที่นี่คัดแต่เกรดดีๆ และมีคุณภาพค่ะ”
“ออ... ค่ะ ถ้าไม่ดีจริง คุณป้องณวัฒน์คงไม่พามา จริงไหมคะ” เธอโยนไปให้ชายหนุ่มทันที
มายูหันไปยิ้มอ่อนหวานให้กับเขา
“บายๆ” เธอทำปากขมุบขมิบเดินกลับไปตามทางเดิมที่เธอเดินเข้ามาเมื่อกี้
“จะสั่งอะไรดีครับ” บริกรถามป้องณวัฒน์
“นั่นสิ ฉันหิวจะลากไส้ รอคุณจู๋จี๋กับคนรักอยู่”
เขาไม่โต้ตอบ แต่ก็สั่งอาหารออกไป
ในหัวใจของรินดาเจ็บจึก
‘สันดานคนมันเปลี่ยนกันไม่ได้หรอกนะรินดา อย่าทำตัวเป็นควายอีกก็แล้วกัน’ เธอบอกตัวเองดังๆ ให้ก้องเข้าไปในสมอง
“สามีกับลูกเป็นไงบ้าง” คำถามที่แสลงหูเป็นที่สุด รินดาถึงกับปรี๊ดขึ้น กำลังจะตักสลัดเข้าปากถึงกับค้าง กระแทกช้อนกับส้อมลงไปในจานอย่างอารมณ์เสีย
“นี่คุณป้อง ฉันยังไม่เคยละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณเลย ขออนุญาตไม่ตอบนะคะ” หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ตอนนี้สกัดกั้นอารมณ์ที่พุ่งพรวดขึ้นมาเต็มที่ จนมือไม้ที่จับแก้วสั่นขึ้นมานิดๆ
“ผมขอโทษ”
สาด... น้ำในแก้วถูกสาดเข้าไปที่ใบหน้าของป้องณวัฒน์เต็มๆ
“คนอย่างคุณจะรู้เรื่องอะไรบ้าง นึกยังไงอยากจะมาสนใจในเรื่องของคนอื่น สนใจแต่เรื่องของตัวเองเถอะค่ะ ไอ้คนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้”
“คุณ” เขาอ้าปากค้าง ไม่คิดว่ารินดาจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ และเธอกล้าที่จะทำแบบนี้กับเขา พอเห็นนัยน์ตาที่แดงก่ำของเธอเขาถึงกลับหน้าหุบ หยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดตามเนื้อตัว
สายตาของทุกคู่ที่อยู่ในร้านอาหารหันมามองรินดากับป้องณวัฒน์เป็นตาเดียวกัน
“เดี๋ยว... กินให้อิ่มเถอะนะ ผมไม่กวนแล้ว” เขาทำเสียงสลด
“ฉันขอตัวเข้าห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวฉันกลับมา” เธอคอแข็ง ลุกขึ้น และเดินตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำทันที น้ำตารินไหล ก่อนที่จะยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเบาๆ แล้วกลั้นความเจ็บใจเอาไว้ข้างในอกเหมือนเดิม
พนักงานในร้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รีบเข้ามาช่วยจัดการน้ำที่เลอะอยู่เต็มพื้นและดูแลป้องณวัฒน์
รินดากลับมาอีกครั้ง ทั้งสองคนกินข้าวด้วยกันอย่างเงียบๆ ก่อนจะเช็กบิลออกไป
บรรยากาศระหว่างทั้งคู่เริ่มอึดอัดมากขึ้น ในช่วงบ่าย รินดารีบๆ อยากจะทำงานให้เสร็จๆ แต่ป้องณวัฒน์ก็ทำยืดเยื้อ
“คุณริน คือพอดีบ่ายสามผมมีนัด”
“ค่ะ ยังไงก็เหลืออีกเรื่องเดียว ฉันหวังว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างคงเรียบร้อยนะคะ” หญิงสาวรีบเก็บข้าวของก่อนจะมุ่งตรงกลับไปที่ห้องพักทันที
