บทที่ 4 EP 01 โจรกระจอก [1]

“ขอบคุณที่มาใช้บริการครับ” ผมยกมือไหว้และยิ้มให้ลูกค้าก่อนจะรับหน้าที่เปิดประตูร้านเพื่อส่งลูกค้าคู่สุดท้ายที่เพิ่งจะเช็กบิลตอนได้เวลาปิดร้านพอดี

ฟู่ว์

เก็บร้านกลับห้องได้สักที เดินจนขาล้าไปหมด

หลังจากที่ลูกค้าที่น่าจะเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันเดินพ้นประตูร้านออกไป ผมก็รีบปิดแล้วล็อกประตูร้านเอาไว้ทันที และไม่ลืมที่จะพลิกป้ายแขวนที่ประตูกระจกกลับอีกด้านเพื่อแจ้งให้ทราบว่าวันนี้ร้านปิดบริการแล้ว จากนั้นก็เดินกลับเข้ามาทำความสะอาดร้าน เดี๋ยวจะได้รีบกลับไปนอนพึ่งพุงที่ห้องหลังจากที่ต้อนรับลูกค้ามาตั้งแต่ช่วงเย็น

ผมคิมหันต์ไง นี่คิมเอง…

ผมทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านขนมเล็กๆ ใกล้ๆ กับมหา’ ลัยน่ะ ช่วงนี้เพิ่งจะต้นเดือนคนมักจะเยอะเป็นพิเศษ แต่ผมชอบนะ เพราะคนเยอะ ธิปก็เยอะตามไปด้วย ต่างจากช่วงกลางเดินไปจนถึงเกือบสิ้นเดือนที่ชั่วโมงนึงผมจะได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นสักครั้งสองครั้ง

“วันนี้กลับไปพักเถอะคิม ที่เหลือเดี๋ยวพี่จัดการเอง” พี่ไทม์ผู้จัดการร้านเดินมาบอกผมด้วยความใจดีเหมือนเคย

“ไม่เป็นไรครับพี่ ช่วยๆ กัน”

“ไปเถอะ วันนี้เราเหนื่อยกันมาตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว พี่อนุญาต เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาลุยกันต่อ” พี่ไทม์เดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ สองสามที ก่อนจะยื่นซองสีขาวในมือให้ผม แต่ว่าอย่าตกใจไปล่ะ เพราะว่าไอ้ซองนั่นมันเป็นซองเงินเดือนของผมเอง

“ยังไม่ถึงกำหนดเงินเดือนออกเลยนะครับ พี่จะรีบให้ผมไปไหน” ผมรีบถามด้วยความเกรงใจ

“ผู้ใหญ่ให้แล้วก็รับๆ ไปเถอะน่า อีกไม่กี่วันก็สิ้นเดือนแล้ว ยังไงก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว จ่ายเร็วไปแค่วันสองวันคงไม่เป็นไรหรอก รับๆ ไปเถอะ”

“ขอบคุณครับพี่” ยิ้มกว้างสิครับรออะไร รับซองเงินเดือนมาถือไว้ให้อุ่นใจ เห็นเงินแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาสองขีด

“เดือนนี้พี่มีเงินพิเศษให้ด้วยนะ เห็นว่าช่วงนี้ลูกค้าเยอะ อีกอย่างคิมเองก็ทำงานมาตั้งหลายเดือนแล้วพี่ยังไม่เห็นคิมจะลาป่วยลาหยุดบ้างเลย ถือเสียว่าเป็นค่าตอบแทนของความขยัน”

“ขอบคุณครับพี่ไทม์”

“รับเงินแล้วก็รีบกลับได้แล้ว มืดค่ำเดินคนเดียวมันอันตราย เดี๋ยวนี้ต่อให้จะเป็นผู้ชายก็น่ากลัว อีกสักพักพี่ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน” เขาเตือนผมแบบนี้เสมอ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่จะย้ำบ่อยเป็นพิเศษเพราะเมื่อสองสามวันก่อนแถวๆ ร้านเพิ่งจะมีผู้ชายคนหนึ่งโดนกระชากสร้อยไปหมาดๆ

“ครับ ถ้างั้นวันนี้ผมกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันครับพี่ไทม์” ผมบอกยิ้มๆ ก่อนจะยกมือไหว้พี่ไทม์อีกรอบแล้วเดินกลับเข้ามาเอากระเป๋าของตัวเองที่เก็บเอาไว้ด้านหลังร้าน แต่ว่าพอเดินกลับออกมาอีกทีผมกลับเห็นว่าพี่ไทม์ยืนกวาดร้านอยู่งกๆ

“อ้าว ไหนว่าจะกลับไงครับ”

“พี่บอกว่าอีกสักพักจะกลับต่างหาก เอาน่า เดี๋ยวเรากลับพี่ก็กลับเองนั่นแหละ” พี่ไทม์พูดพลางส่งยิ้มให้ผมนิดหน่อย ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่ผมเห็นพี่เขายิ้มให้ทีไร ผมต้องรู้สึกว่าใจสั่นทุกที

“พี่แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ผมอยู่ช่วย”

อดจะถามด้วยความลังเลอีกรอบไม่ได้ ใจหนึ่งก็อยากจะกลับแล้ว แต่อีกใจก็รู้สึกผิดที่ปล่อยให้เจ้าของร้านทำงานงกๆ ทั้งที่ตัวเองเป็นลูกจ้างดันจะกลับไปนอน

“ก็บอกว่าไม่ต้องไง พูดไม่รู้เรื่องรึไงนะเราเนี่ย ไปๆ รีบไปได้แล้ว พี่ก็ทำทีเป็นกวาดร้านรอส่งเราแค่นั้นแหละ” พี่ไทม์เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แต่พอได้ยินเขาพูดว่าเขาแค่อยู่รอส่งผม ในหัวผมมันก็คิดไปไกลถึงไหนต่อไหน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วพี่ไทม์เขาก็แค่รอส่งผมเพื่อปิดประตูร้าน

“งั้นผมไปนะพี่”

“อืม พรุ่งนี้เจอกัน” พี่ไทม์ยังคงบอกยิ้มๆ พร้อมกับโบกมือลาผมแล้วก้มหน้าก้มตากวาดร้านต่อไปเงียบๆ

คงจะมีแค่ผมเท่านั้นแหละที่ยังรู้สึกว่าใจสั่น เพราะผมรู้ดีว่าพี่ไทม์เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับผมหรอก แต่ไหนแต่ไรมาพี่ไทม์เป็นห่วงเด็กทุกคนในร้านเสมอ ซึ่งตอนนี้พนักงานในร้านเหลือแค่ผมคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ที่มาสมัครก็มักจะทำงานได้ไม่นาน ทำได้สักพักก็ออก ไม่มีใครทนทำงานได้ทนอย่างผมหรอกทั้งที่งานก็ไม่ได้หนักหนาเลยสักนิด หรือผมอาจมีแรงจูงใจในการทำงานที่นี่มากกว่าคนอื่นก็ได้

บอกตรงๆ ก็ได้ว่าที่ผมยังทำงานอยู่ที่ร้านนี้ก็เป็นเพราะว่าผม...อยากเจอพี่ไทม์

พี่ไทม์เป็นคนใจเย็น ใจดี มีความเป็นผู้ใหญ่ ที่ผ่านมาพี่ไทม์ดูแลเอาใจใส่ลูกน้องทุกคนเป็นอย่างดี ไม่ว่าใครจะเดือดร้อนเรื่องอะไร ถ้ารู้ถึงหูพี่ไทม์ ผมก็มักจะเห็นว่าเขายื่นมือไปช่วยเหลือในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ใครเอ่ยปาก เหมือนอย่างที่เขาเอาเงินเดือนมาให้ผมก่อนครบกำหนดวันเงินเดือนออก ก็เป็นเพราะพี่ไทม์รู้ว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันครบกำหนดจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ของผมนั่นเอง

และทุกอย่างที่ผมพูดมา ผมก็แค่อยากบอกว่าพี่ไทม์คือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่เคยคิดอยากจะหยุดหรือลางานเลยแม้แต่วันเดียว

อืม ลูกจ้างกลับก่อน เจ้าของร้านกลับทีหลัง คิดซะว่าทำงานตามค่าจ้างก็แล้วกันนะครับพี่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป