บทที่ 7 บุคคลอันตราย

บทที่6

ม่านหมอก… TALK...

“หมอก ตรงนี้ผมว่าแก้ก็ดีนะ”

“แต่หมอกว่ามันโอเคแล้วนะคะคุณสายฟ้า”  ฉันพูดขณะยื่นภาพภาพสินค้าตัวใหม่ที่ฉันออกแบบอีกอันให้คุณสายฟ้าดู

บริษัทที่ฉันทำงาน ทำเกี่ยวกับส่งออกสินค้าพวกของเล่นเด็ก  ส่งออกไปทั่วโลก

“แต่ผมว่ามันแปลก ๆ อยู่ดี”

“แปลกยังไงคะ? หมอกว่าโอเคแล้ว เพราะมันปลอดภัยกับเด็กด้วย อุปกรณ์ที่เราจะเอามาผลิตก็มีคุณภาพ ตามสโลแกนของบริษัทเลยค่ะ ปลอดภัย มีคุณภาพ และคุ้มค่า

“พายุมาดูให้กูหน่อย”   คุณสายฟ้าเอ่ยกับคุณพายุ ฉันหันไปมองเขา เขาเอนกายพิงพนักพิงพร้อมใช้ขาพาดบนโต๊ะทำงานอย่างสบายอารมณ์

“มึงว่าไงก็ตามนั้นแหละ”  คุณพายุพูดออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน เฮ้อ! สบายเหลือเกินพ่อคุณ

“งั้นหมอกแก้ตรงนี้นิดหน่อยนะ”

“ก็ได้ค่ะ”

“ครับ”  ฉันลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากห้อง  ฉันทรุดกายลงบนโต๊ะทำงานแล้วก็ทำงานต่อ

“แก้งานเหรอ?”  พี่ต่อถามฉันขณะจิบกาแฟไปด้วย

“ค่ะ”

“สู้ ๆ นะ”

“ขอบคุณค่ะ”  ฉันยิ้มให้พี่ต่อ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงาน

ตั้งแต่ที่ฉันมาทำงานที่บริษัทของคุณสายฟ้ากับพายุ ฉันก็เข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี ทุกคนเป็นมิตรกับฉันมาก มันทำให้ฉันลืมความทุกข์ระหว่างฉันกับปั้นจั่นไปได้บ้าง

ในเมื่อมันกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว ฉันกับเขาก็ควรต่างคนต่างเดิน...

ฉันแก้งานแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายอีกครั้ง คุณพายุนั่งอยู่คนเดียวในห้อง ฉันยืนนิ่งกวาดสายตามองหาคุณสายฟ้า

“มันเข้าห้องน้ำ เอามาเดี๋ยวฉันดูให้” คุณพายุนั่งเอนกาย อย่างสบายใจก่อนจะดีดใจลุกขึ้นนั่งตัวตรง

“ค่ะ”  ฉันกล่าวอย่างสำรวม ก้าวย่างไปหยุดยืนที่โต๊ะทำงานของเจ้านาย แล้วยื่นงานให้คุณพายุ เขาดูอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะส่งมันคืนมาให้ฉัน ฉันสบนัยน์ตาคมกริบนั้นก่อนจะก้มหน้าลง  รู้สึกกลัวชายตรงหน้า เขาไม่ค่อยยิ้ม พูดน้อย ดูหน้ากลัว ใบหน้าเรียบเฉยนั้น ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“เป็นไงบ้างคะ ? ต้องแก้ตรงไหนอีกไหม?”

“เอาเป็นว่า…”  มือแกร่งลูบคางตัวเองเบา ๆ

“ว่าอะไรคะ?”

“สวยแล้ว เอาส่งไปให้ฝ่ายผลิตเดี๋ยวเขาจัดการเอง”

“ค่ะ”  ฉันพูดแล้วเดินออกมา จัดการส่งให้ฝ่ายผลิต

“งานก็เยอะดีจัง เฮ้อ เหนื่อยชะมัด” แพรวบ่นปนประชดประชัน

“เงิน เงิน เงิน และเงิน”

“หยุดทำก็ไม่ได้ ภาระเยอะชะมัด”

“ฉันเหมือนกัน พ่อแม่ก็ไม่ค่อยมีตังค์ น้องก็กำลังเรียน ฉันต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ทุกวันนี้ก็ส่งเงินไปให้ตลอดนะ เหลือไว้แค่ใช้กับซื้อกิน”

“อยากมีแฟนรวย ๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อย”

“แกก็พูดไปเนาะ ใครเขาจะมาสนใจคนแบบเราล่ะ เฮ้อ!”

“เผื่อมันมีไง?”

“แกเอ้ย!”

“ก็มันจริงนี่น่า  ถ้ามีผัวรวยก็แต่งตัวสวย ๆ อยู่บ้าน”

“มีนะ สนใจเปล่า?” พี่ก้องพูดขึ้น

“ใครคะพี่ก้อง”

“ผู้ชายคนนี้หล่อมาก หล่อโฮกฮากกระชากใจ  หล่อกว่าเข้ม หัสดีอีก”

“เวอร์วัง หล่อกว่าเข้มยังมีอีกเหรอ?”

“มี แล้วแกสายฝอไหมล่ะแพรว?”  พี่ก้องพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

“แพรวสายฝอ ขอรวย ๆ”

“คุณวิคเตอร์ ลูกคุณโจเซฟ เป็นลูกเสี้ยว แต่หน้าไปทางฝอเลยแหละ พี่ชายเจ้าของบริษัทของเรา สนใจไหม?”

“ม่ายยย ต่อให้หล่อเท่าไหร่  แพรวก็ไม่เอา”

“ฮ่า ๆ”

“สวัสดีครับคุณวิคเตอร์”  เสียงทักทายของพนักงานรักษาความปลอดภัยดังขึ้น

“เชี้ย! ไหมล่ะ ทำงานเร็ว”  บทสนทนาที่ครื้นเครงสนุกสนานในตอนแรกเงียบกริบลงทันที

ตึก! ตึก! ตึก!

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ ก้าวมาแบบช้า ๆ แต่ว่าทรงอำนาจ  ทุกคนภายในห้องก้มหน้าก้มตาทำงาน  ฉันเงยหน้าจ้องมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ในชุดสูทสีน้ำเงินกรมท่า กำลังเยื้องย่างเข้ามาพร้อมกับลูกน้อง3คน  ใบหน้าเรียบเฉย แต่เขาจ้องฉันเขม็งจนฉันต้องหลบสายตา ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของบอสทั้งสอง

“นี่ไง คุณวิคเตอร์”

“ฉันมาทำงานเกือบเดือนแล้ว เพิ่งจะเห็นเขามา”

“เขาไม่ค่อยมาหรอก นาน ๆ มาที แต่ถ้ามาวันไหน บริษัทเราจะเงียบมาก”

“คุณวิคเตอร์หล่อนะ ถ้าเขาชอบแก สบายเลยนะแพรว”  ฉันพูดออกมาเบา ๆ

“ฉันชอบน้องชายเขา แต่คนนี้แพรวขอบายจ้ะ”

“ทำไม!”

“เขาเป็นมาเฟีย  ฆ่าคนไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด แค่เห็นหน้าก็ขนหัวลุกแล้ว บรืยย ใครได้เป็นผัวคงนอนผวาทั้งคืน ยิ้มไม่เป็น เย็นชา แต่ถ้าได้ยิ้ม จะยิ้มแบบแสยะยิ้มอะแก”

“เขาแค่เก็กหรือเปล่า?”

“แค่เก็กก็ดีนะสิ แต่คุณวิคเตอร์เป็นเจ้าของธุรกิจมืดเกาะไข่มุก แกเคยได้ยินข่าวเรื่องเกาะนี่ไหมวะ?”

“เคย”

“ข่าวลือบอกว่า เขาฆ่าคนตายมากกว่าจำนวนหินบนเกาะเสียอีก” แพรวพูดเสียงสั่น ทำท่าทางหวาดกลัว

“ก็แค่ข่าวลือ”

“ถ้าไม่มีเรื่องแบบนี้ เขาไม่ลือกันหรอก”

“แล้วบอสเราล่ะ”

“ดีกว่าเยอะ แต่คุณพายุไม่น่ากลัว ไม่มีใครน่ากลัวเท่าคุณวิคเตอร์”

“สนใจไหมหมวย”

“ไม่ค่ะ ไม่ใช่สเป็ค”

“ฮ่า ๆ”

“หัวเราะอะไรเสียงดัง เดี๋ยวก็ถูกยิงตายหรอก” พี่ต่อว่าพี่ก้อง พวกฉันนั่งทำงานกันอย่างเงียบ ๆ เงียบจนได้ยินแค่เสียงปรับอากาศที่ดังอยู่  ผ่านไปเกือบ2ชั่วโมง คุณวิคเตอร์ก็เดินออกไป พร้อมกับเสียงถอนหายใจของทุกคน

16.45

“เลิกงานไปกินชาบูกันไหม?”  แพรวพูดกับฉันขณะที่เก็บของ

“ไม่ไปหรอก”

“งั้น ถ้าหมวยไม่กินชาบู เราไปฉลองกันไหมหมวย?” พี่ก้องชอบเรียกฉันว่าหมวย ฉันไม่เห็นจะหมวยตรงไหน หน้าอีสานแท้เลยนะฉันฮ่า ๆ

“ฉลองอะไร?” ฉันขมวดคิ้วมองหน้าพี่ก้อง

“ฉลองวันเกิดเจ้านายทั้งสองไง กลุ่มพวกเราได้ไปด้วยนะ”

“หมอก คงไปไม่ได้หรอก”

“ทำไมล่ะ?”

“อยากพักผ่อน”

“ไปเปิดหูเปิดตาจะเป็นไรไป”  เสียงทุ้มดังขึ้น ฉันหันตามเสียงนั้น เป็นบอสสุดหล่อทั้งสองของฉัน  เสียงฮือฮาของพนักงานสาว ๆ ดังขึ้น เมื่อ เจ้านายสุดหล่อทั้งสองมาที่โต๊ะทำงานของกลุ่มพวกฉัน

“นั่นน่ะสิหมอก ยังไงวันนี้เจ้านายของเราก็เลี้ยงฉลองอยู่แล้วไม่ได้เสียตังค์หรอก แกก็กินให้เมาปลิ้นเลย ของฟรีต้องเอาให้คุ้ม” แพรวพูดเสริม

“บอสชวนขนาดนี้ ไปดีกว่านะ

“แต่…”

“แต่อะไร?”  สายตาคมเข้มตวัดมองฉัน แต่อะไรดีวะ! เจอสายตาของคุณพายุทำเอาฉันลืม ฉันจะพูดอะไรวะ!

“เอ่อ…”

“เอาเป็นว่าเธอตกลง”  คุณพายุพูด พร้อมกับจับดึงจมูกฉันเบา ๆ แต่ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่สิ่งที่เขากระทำกับฉัน ทำให้ฉันตกใจไม่น้อยเลย ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวราวกับเพิ่งออกเเรงทำงานหนัก ทั้งที่ฉันทำงานอยู่ในห้องแอร์เย็นสบาย

“o-o”

“อย่าแกล้งหมอกสิไอ้พายุ เอาเป็นกลุ่มนี้ไปฉลองกับพวกผม2คนนะ”

“ไปฉลองไหนคะบอส?”  แพรวถามพร้อมส่งสายตาหวานหยดย้อย แต่ฉันสิยังอึ้งกับสิ่งที่คุณพายุทำกับฉัน

“เดี๋ยวก็รู้”

“พนักงานไปหมดไหมครับ?”

“แค่กลุ่มนี้พอ ส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ไป เดี๋ยวให้เงินทุกคน”

“คุณสายฟ้าใจดีจัง”

“ตอนเย็นเดี๋ยวให้คนขับรถไปรับทุกคนนะ”

“ค่ะ/ครับ”  ทุกคนรับคำ คุณสายฟ้ายิ้มแย้ม ยิ่งทำให้สาว ๆ กรี๊ดกร๊าด คุณพายุยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกไป

“เฮ้ย! หมอก แกกับคุณพายุยังไงวะ?”

“ยังไงอะไร?”

“ที่เขาทำกับแกแบบนั้น”

“เขาต้องการแกล้งฉันน่ะสิ”  ฉันปิดคอมพ์ แล้วเดินออกมา

“รอฉันด้วย” แพรววิ่งตามหลังฉันออกมา ฉันกับแพรวนั่งรถของบริษัทเพื่อกลับไปคอนโดของตัวเอง หาที่ไหนดีเท่าบริษัทนี้ไม่ได้อีกแล้ว มีห้องดี ๆ ให้ มีคอนโดให้อยู่อีกต่างหาก แต่งานเยอะมากกก ทำทั้งวันแทบไม่ได้พักเลย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป