บทที่ 4 ลักพาตัว
กองปราบ
“เอ่อ พวกเราต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะครับ” หลังจากผู้หญิงคนนั้นเดินหนีออกไป นายปิติก็พูดขึ้นด้วยหน้าเสีย ๆ และความกังวลทันที
“แล้วจะเอายังไง” ผมถามขึ้นนิ่ง ๆ เมื่อตอนนี้เด็กคนนั้นแสดงออกชัดเจนว่าไม่ทำตามที่พ่อแม่เธอตกลงกับผมไว้ตั้งแต่แรก
แต่จริง ๆ อะไรที่ผมอยากได้ผมก็ต้องได้นั่นแหละ เพียงแต่ต้องกระตุ้นกันหน่อย
“คุณปราบไม่ต้องห่วงนะครับ ยังไงใยบัวก็ต้องยอมไปกับคุณแน่นอน” นายปิติพูดขึ้นอย่างกับคำให้คำสัญญา แต่ฟังดูจากน้ำเสียงแล้วไม่มั่นใจเลยนะ
“ลูกสาวนายปฏิเสธออกมาไม่ได้ยิน?” ผมเลิกคิ้วถามออกไปหมือนไม่พอใจ
“เดี๋ยวผมให้กชไปพูดกับลูกเอง ยังไงใยบัวก็ต้องยอมครับ” นายปิติยังคงพยายามไม่เลิก คนเราก็แบบนี้เองสินะ ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอดปลอดภัย ต่อให้ใครจะลำบากก็ตาม
“ถ้าอยากขอโทษจริงคืนนี้ก็เปิดบ้านไว้แล้วกัน” ผมพูดขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงนิ่งเรียบต่างจากเมื่อกี้
“คุณปราบหมายความว่า...” นายปิติถามขึ้นอย่างคนมีความหวัง
ผมไม่ได้ตอบ แต่เลือกจะเดินออกจากบ้านหลังนี้ไปแทน แล้วถ้ามันไม่ได้โง่พอก็คงเข้าใจความหมายที่ผมพูดออกไปว่าผมต้องการอะไร
และใช่ ผมต้องการผู้หญิงพยศแบบเธอ ก็ที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิงสมยอมจนง่ายดายไปหมด ผมยังไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนอวดดีทั้งที่เอาตัวไม่รอดแบบนี้เธอคนนี้มาก่อนเลยยังไงล่ะ
ขนาดอยู่ในสถานะลูกหนี้ไม่มีเงินใช้หนี้ เจ้าหนี้พาลูกน้องมาทวงถึงบ้านอีกหลายคน แต่แทนที่จะกลัวตัวสั่นแล้วเข้ามาขอร้องอ้อนวอนพร้อมกับตอบตกลงทางออกที่ให้ไปอย่างใจดี แต่เธอกลับพูดออกมาเสียงแข็งกระด้างท่าทางอวดดี จ้องมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน
เห็นแล้วเธอไม่รู้ตัวเลยสินะว่าการกระทำของเธอ มันยิ่งทำให้เธอไม่รอดจากมือผมไปง่าย ๆ
ตกดึก...
ตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านของลูกหนี้ผมแล้ว จริง ๆ ผมไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงมาด้วยตัวเองก็ได้ แต่ผมอยากมาเห็นเด็กน้อยหมดสภาพคนนั้นกับตาตัวเอง เลยเลือกมาด้วยตัวเองแบบนี้
“เชิญครับ” นายปิติเดินออกมาต้อนรับผมที่รถแล้วพูดขึ้นอย่างประจบประแจง
“อืม” ผมตอบกลับก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับบอลไปจัดการ ส่วนผมก็นั่งรออยู่ที่รถเหมือนเดิม รอดูเหยื่อตัวน้อยของผมมาหาถึงที่
ไม่นานบอลก็เดินออกมาจากบ้านของลูกหนี้ผมพร้อมกับร่างเล็กที่หลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร โดยมีบอลอุ้มเดินออกมา พร้อมกับพ่อแม่ของเธอที่เดินตามออกมาโดยไม่มีใครห้าม ยิ่งไอ้ตัวพ่อเลี้ยงตัวดีแล้วด้วยแม่งยิ้มหน้าบานเลย
โชคร้ายของเด็กผู้หญิงคนนี้จริง ๆ ที่เกิดมาในครอบครัวแบบนี้ และต้องเจอสภาพแบบนี้
“ผมโปะยานอนหลับเธอนะครับ ตอนนั้นเธอรู้สึกตัวขึ้นมา” บอลที่วางเธอไว้เบาะข้างผมพูดบอก
“อืม” ผมตอบกลับอย่างไม่ได้ตกใจอะไร เพราะยังไงมันก็ต้องเตรียมไปอยู่แล้ว ป้องกันการโวยวายเสียงดังจนชาวบ้านตื่นขึ้นมาดูเป็นเรื่องเป็นราวน่ารำคาญได้
“คุณ...” แม่ของเด็กคนนี้เดินมาแล้วเรียกผมขึ้นเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่พูด ผมก็ไม่ได้ถามหรือตอบอะไรกลับไปเพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของผม ผู้หญิงคนนี้ก็แค่ตัวขัดดอกที่พ่อเลี้ยงเธอเต็มใจยกให้ผม และแม่ของเธอก็ไม่ได้ห้ามปรามกับเรื่องนี้ด้วย แล้วคนนอกอย่างผมทำไมต้องนึกถึงความถูกต้องนอกจากความต้องการด้วยล่ะ
แต่ถึงจะห้ามก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ คนติดหนี้คนอื่นมันก็ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกันหน่อย เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากเก็บพวกมันทิ้งเท่าไหร่ เสียดายเงินที่เสียไป สู้ได้อะไรมาแก้ขัดแล้วก็ดอกเบี้ยนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดีกว่าเสียเปล่า
“ออกรถเลย” ผมหันไปสั่งคนขับรถโดยไม่สนใจแม่ของเด็กคนนี้ที่ทำเพื่อตัวเองอยู่ดี
“ครับ” แล้วรถก็เคลื่อนออกไปจากหน้าบ้านของเธอ ก่อนผมจะหันมามองหน้าเกลี้ยงเกลาของใยบัว สาวน้อยปากเก่งที่ตอนนี้ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือของผมเสียแล้ว
“หึ! น่าสงสารจริง ๆ”
