บทที่ 21 Chapter21
หลังจากทำบุญกันจนอิ่มใจและกินอาหารจนอิ่มท้อง เถ้าแก่สันต์พร้อมคณะเดินทางได้กลับมาถึงบ้านในเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม พอมาถึงบ้านเถ้าแก่สันต์ได้เรียกพจน์ สายหยุดและกัญญาภรณ์เข้าไปคุยกันในห้องนั่งเล่น หัวข้อเรื่องที่คุยคือเรื่องหนี้สิน
“พ่อจะฉีกสัญญาเงินกู้ทิ้งต่อหน้าแพร แพรจะได้สบายใจ” เถ้าแก่สันต์หยิบสัญญาเงินกู้ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา ก่อนฉีกมันตามคำพูด “ส่วนโฉนดที่ดินพ่อจะคืนให้ในวันที่แพรตั้งท้อง ตกลงตามนี้นะ”
“ค่ะ ตามเถ้าแก่ว่ามาค่ะ”
“เรียกเถ้าแก่ได้ไง เรียกว่าพ่อสิ ตอนนี้แพรก็เป็นลูกคนนึงของพ่อแล้วนะ”
“ค่ะ พ่อ” กัญญาภรณ์ทำตามที่เถ้าแก่สันต์ต้องการ
“เอาล่ะ ไปเตรียมตัวได้แล้ว เดี๋ยวจะได้เข้าหอกัน” ทั้งสี่จึงพากันเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น มาสมทบกับปานวาดและสิงหนาทที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก
“คุยกันเสร็จแล้วใช่ไหม” ปานวาดถามสามี
“อืม เสร็จแล้ว”
“ถ้างั้นสิงห์กับแพรก็ไปอาบน้ำได้แล้วนะ ใกล้ถึงฤกษ์แล้ว”
ปานวาดบอกลูกชายกับกัญญาภรณ์ที่เวลานี้เป็นลูกสะใภ้ของนางเต็มตัว
“ทำไมต้องอาบน้ำก่อนด้วยครับ ขึ้นไปบนห้องค่อยอาบก็ได้”
สิงหนาทสงสัย
“อาบที่ห้องแกที่ไหนล่ะ แกต้องไปอาบน้ำห้องแม่ ส่วนหนูแพรไปอาบน้ำที่ห้องรับรอง แม่เตรียมชุดนอนไว้ให้แกกับแพรแล้วนะวางอยู่บนเตียงนอนในห้องนั้น”
ราวกับมีเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าสิงหนาทกับกัญญาภรณ์ว่า เหตุใดมารดาต้องการให้ทำเช่นนี้
“ทำไมต้องไปอาบน้ำห้องอื่นด้วยครับ อาบห้องผมไม่ได้หรือครับ”
“มันเป็นเคล็ด โบราณเชื่อกันว่า ถ้าใช้ห้องน้ำในห้องหอ น้ำที่ใช้คือความสุขของชีวิตคู่ พอแกใช้น้ำ น้ำก็ไหลลงท่อ นั่นก็หมายความว่า ความสุขมันก็ลงท่อไปด้วย มันไม่ดีไงแกกับแพรเลยต้องไปอาบน้ำที่อื่น”
สองคนที่ให้ไปอาบน้ำห้องอื่นถึงกับอึ้งกับเหตุผลที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน มีแต่เรื่องที่ว่า พอเข้าห้องหอแล้วห้ามออกมาจนกว่าจะถึงเช้า
“ทำไมผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ล่ะครับ” สิงหนาทถาม
“เรื่องโบราณว่าไว้มีตั้งเยอะตั้งแยะ แกได้ยินหมดหรือไง ฉันอายุหกสิบแล้วยังรู้ไม่หมดทุกเรื่องเลย” ปานวาดตอบกลับทันที
“เรื่องที่แม่บอกเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เรื่องร้ายต่อแกกับแพรเลย แค่ทำตามที่แม่บอกก็ไม่น่าเห็นยากนี่นา” เถ้าแก่สันต์พูดเสริม
“ได้ค่ะ แพรจะไปอาบน้ำที่ห้องรับรองค่ะ” กัญญาภรณ์แค่แปลกใจที่ให้ไปอาบน้ำห้องอื่น แต่พอได้ยินเหตุผลที่ชวนงงๆ ก็ไม่ได้คิดมากอะไร แต่คนที่ยังติดใจกลับมีคำถาม
“แล้วผมจะใช้ห้องน้ำในห้องได้ตอนไหนครับ ถ้าเกิดปวดหนักปวดเบาต้องไปเข้าห้องน้ำห้องอื่นหรือครับ” สิงหนาทสงสัยไม่หยุด
“แค่สองชั่วโมงหลังจากเวลาเข้าหอ แม่ใช้กุญแจแบบตั้งเวลาล็อคห้องน้ำไว้ พอถึงเวลาที่กำหนดมันก็จะคลายล็อคเอง แกกับแพรก็ใช้ห้องน้ำได้แล้ว”
สิงหนาทไม่คิดว่า มารดาจะรอบคอบเช่นนี้ เล่นล็อคประตูห้องน้ำด้วยกุญแจตั้งเวลา เขาแปลกใจว่า ปานวาดกลายเป็นคนเชื่อเรื่องโบราณกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ทำตามที่มารดาต้องการดีที่สุด ไม่เช่นนั้นหูชาแน่นอน
เมื่อสิงหนาทกับกัญญาภรณ์เดินขึ้นไปชั้นบน ปานวาดรีบเดินไปในห้องครัวพร้อมสายหยุด ปานวาดหยิบเหงือกน้ำมะลิออกมาจากตู้เย็น ก่อนเทมันใส่แก้วสองแก้ว จากนั้นก็หยิบขวดยาจิ๋วออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“ใส่เท่าไหร่เถ้าแก่เนี้ย” สายหยุดถาม
“เออจริงสิ เถ้าแก่บอกก็ลืมแล้ว” ปานวาดมองขวดจิ๋วในมือ “มันขวดนิดเดียวใส่ไปแก้วละครึ่งๆ ละกัน มันจะได้เห็นผล”
ปานวาดเทน้ำในขวดจิ๋วใส่แก้วน้ำมะลิ แก้วแรกเหมือนจะใส่น้อยกว่าแก้วที่สองที่เทพรวดเดียวจนหมด ก่อนใช้ช้อนคนให้ตัวยาละลายเข้ากับน้ำมะลิ แล้วเสร็จจึงใส่เข้าไปในตู้เย็นอีกครั้ง รอเวลาสิงหนาทกับกัญญาภรณ์อาบน้ำเสร็จ จึงยกไปให้ดื่ม
“มันจะได้ผลจริงหรอเถ้าแก่เนี้ย” สายหยุดถามอย่างไม่มั่นใจ
“ต้องได้ผลสิ ยาตัวนี้เถ้าแก่บอกว่า แรงมากและเห็นผลดีสุด ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น คนที่หามาให้เถ้าแก่ก็ไว้ใจได้ด้วย รับรองว่าลูกของเราสองคนได้เป็นผัวเมียกันแน่นอน ไม่ตบตี ไม่ทะเลาะกันด้วย” ปานวาดมั่นใจในตัวยาที่สามีหามา “เราไปรอลูกของเราที่ห้องรับแขกกันดีกว่านะ แล้วอย่าทำตัวเป็นพิรุธล่ะ”
สายหยุดพยักหน้าก่อนเดินออกจากห้องครัวไปนั่งรอสิงหนาทกับกัญญาภรณ์ในห้องรับแขก
ชั้นบน ณ ห้องรับรอง
“โห ชุดนี้เนี่ยนะ” กัญญาภรณ์มองชุดนอนที่พาดอยู่บนเตียงแล้วคิดหนัก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยใส่ชุดนอนแบบกระโปรงเลยสักครั้ง ชุดนอนของเธอคือเสื้อยืดกับกางเกงสบายๆ แถมชุดนี้เป็นแบบซีทรูยาวเหนือเข่าเล็กน้อยมองเห็นทะลุปรุโปร่ง สมกับเป็นชุดนอนไม่ได้นอนจริงๆ แต่ยังดีที่มีชุดคลุมวางอยู่ใกล้ๆ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่กล้าออกจากห้องนี้แน่ “เฮ้อ...สงสัยเตรียมพร้อมให้อีตานายหัวเผด็จศึกฉันแน่ๆ ฝันไปเถอะ ขาอ่อนก็ไม่ได้เห็น”
