บทที่ 2 2
“เพชรกล้าไม่ใช่ลูกของฉันค่ะ ฉันเป็นเพื่อนแม่ของเพชรกล้า” รัชนีกรบอกให้เขาเข้าใจ “เพชรครับ แม่มาแล้วนะลูก เรารีบกลับไปที่ห้องแต่งตัวดีกว่านะ จะได้ไปเตรียมตัวขึ้นแสดง”
“ฮะ ไปหาแม่กันฮะ” สีหน้าเพชรกล้าดีใจที่มารดามาทันตามสัญญา “ผมไปก่อนนะฮะคุณลุง”
“เพชรแสดงในงานการกุศลของสมาคมคุณหญิงลัดดาใช่ไหมครับ” ปราณปวิชถาม
“ใช่ค่ะ เพชรได้รับทุนน่ะค่ะ และเป็นตัวแทนโรงเรียนมาแสดงในงานวันนี้ค่ะ” คนที่ตอบคือรัชนีกร “ฉันกับเพชรขอตัวก่อนนะคะ ใกล้ถึงเวลาแสดงแล้ว”
ปราณปวิชไม่ได้พูดโต้ตอบ เขาส่งยิ้มให้น้าหลานที่เดินจูงมือกันไปยังห้องจัดเลี้ยง ขณะที่เพชรกล้าเดินตามรัชนีกร เด็กชายได้หันมามองหน้าปราณปวิชที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองไปยังสองน้าหลาน ทั้งสองจึงมองสบตากันแล้วยิ้มให้กัน
บนเวทีมีการแสดงของตัวแทนเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา ผลัดเปลี่ยนมาสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะกับปราณปวิชที่เฝ้ารอคอยดูการแสดงของเด็กชายที่เขาเดินชนตรงทางเข้าห้องน้ำแบบใจจดใจจ่อ ซึ่งปกติแล้วเขาจะเฉยๆ กับการแสดงเหล่านี้ที่นั่งดูตามมารยาท ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ เขาตั้งตารอเลยก็ว่าได้ ปราณปวิชอดแปลกใจไม่ได้ว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
เมื่อถึงคิวโรงเรียนวัดไผ่วัวนักเรียนจำนวนเก้าคนขึ้นมาแสดงบนเวที ปราณปวิชที่นั่งอยู่โต๊ะแถวหน้าสุดยิ้มกว้างและโบกมือให้เพชรกล้าที่ยืนอยู่แถวหน้า เพชรกล้าเห็นปราณปวิชจึงยิ้มให้และแสดงตามที่ฝึกซ้อมไว้
“เด็กผู้ชายที่อยู่แถวหน้าสุดหน้าตาเหมือนปราบตอนเด็กๆ เลยนะ” ปริญญาพูดกับภรรยาที่หันไปมองเด็กชายคนดังกล่าวตามสามมีบอก
“เหมือนจริงด้วยค่ะ” คุณหญิงนารถลดาเห็นด้วยกับสามี “คุณไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนหรือเปล่าคะ”
คนเป็นภรรยาเย้าสามี
“ผมจะไปทิ้งเชื้อที่ไหนได้ล่ะ คุณก็รู้นี่ว่า ผมทำหมันตั้งนานแล้ว นู่นลูกชายเรามากกว่า ไปทิ้งเชื้อไว้กับผู้หญิงคนไหนหรือเปล่า” นารถลดาเมื่อได้ยินสามีพูดก็หันมาทางบุตรชาย พูดยิ้มๆ
“พ่อบอกว่าเด็กผู้ชายที่อยู่แถวหน้า หน้าตาเหมือนแกตอนเด็ก แกไปทิ้งเชื้อไว้กับผู้หญิงคนไหนหรือเปล่าเนี่ย”
เป็นคำถามที่ไม่ได้มีความจริงจัง เป็นเพียงการเย้าแหย่ระหว่างแม่ลูก เพราะรู้ดีว่า ลูกชายป้องกันเรื่องนี้ดี แล้วไม่ยอมมีลูกกับหญิงสาวคนใดนอกจากสตรีคนหนึ่งที่จากลาไปเมื่อเจ็ดปีก่อน
“ผมน่ะเหรอครับจะไปทิ้งเชื้อไว้กับผู้หญิงคนไหน ผมหวงเชื้อผมจะตายไป ไม่มีทางหลุดไปอยู่ในรังไข่ของใครแน่นอนครับ” ปราณปวิชตอบอย่างมั่นใจ
“ผมว่าไม่มีใครทิ้งเชื้อ คงจะเป็นคนหน้าเหมือนทั่วๆ ไปน่ะ อย่างเช่นหน้าเหมือนดารา เหมือนนักการเมืองที่เขาเอามาล้อเลียนสนุกๆ ตามที่เราเห็นกัน”
“ถูกต้องนะครับ” คนเป็นลูกเห็นด้วยทันที ไม่ได้ติดใจอะไรกับคำพูดหยิกแกมหยอกของบิดาที่ว่า “ไปทิ้งเชื้อ” เพราะคนอย่างปราณปวิชระวังเรื่องนี้มาก ไม่มีวันผิดพลาดแน่นอน ปราณปวิชละความสนใจเรื่องที่บิดามารดาพูดหันหน้าไปมองเวทีอีกครั้ง ส่งยิ้มให้เพชรกล้าและดูการแสดงจนจบ
เด็กๆ พากันก้าวลงจากเวทีก่อนพากันเดินกลับไปยังห้องแต่งตัวที่อยู่ใกล้กัน เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่ามีผู้ปกครองคอยบุตรหลานอยู่ หนึ่งในนั้นคือพวงชมพูที่วันนี้มาให้กำลังใจลูกชายก่อนขึ้นแสดงแต่ไม่ได้เข้าไปดูหน้าขอบเวที เป็นเพราะการแสดงครั้งนี้จัดขึ้นในโรงแรม เวทีจึงถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะกิจและอยู่ในพื้นที่งานจัดเลี้ยง ไม่มีด้านหลังเวทีหรือด้านข้างเวทีให้ผู้ปกครองดูบุตรหลานแสดง หากเข้าไปคงไปยืนออดูกันหน้าเวที อีกเหตุผลหนึ่งคือ ทางทีมงานเกรงว่าหากให้ผู้ปกครองเข้าไปดูการแสดงในงานจะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย จึงไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าไป ให้ได้เฉพาะคุณครูที่มากับเด็กเท่านั้น ซึ่งผู้ปกครองก็เข้าใจในเหตุผล
แม้ว่าพวงชมพูจะไม่ได้เข้าไปดูการแสดงของบุตรชาย แต่เธอก็ไว้วานให้ครูนงเยาว์อัดวีดิโอลงในมือถือ เพื่อที่จะได้ดูการแสดงของเพชรกล้าภายหลัง
“เพชรเต้นเก่งมากเลยนะ เก่งกว่าทุกคนเลย” นงเยาว์บอกพวงชมพูขณะคืนมือถือให้
“ขอบคุณค่ะครูปิ่น” พวงชมพูกล่าวของคุณนงเยาว์ ก่อนก้มหน้ามองบุตรชาย “เพชรของแม่เก่งที่สุดเลยครับ”
พูดจบก็หอมแก้มเพชรกล้าฟอดใหญ่ด้วยความรักทั้งหมดที่มี เพชรกล้าคือของขวัญจากฟากฟ้าที่แม้นว่าจะไม่ได้เกิดมาจากความรักระหว่างพ่อกับแม่ และไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของคนเป็นพ่อ แต่เธอก็ไม่คิดฆ่าลูกน้อยเพื่อผลักไสความรับผิดชอบ พวงชมพูฟูมฟักดูแลตัวเองให้ดีที่สุด แม้ว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตก็ตาม เพราะไม่เพียงแค่ดูแลตัวเองกับลูกในครรภ์ เธอต้องดูแลมารดาที่ป่วยกระเสาะกระแสะ กว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ พวงชมพูร้องไห้ไปหลายปี๊บ ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่ากับความเหน็ดเหนื่อยและอดทน
“ฉันว่ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพชรเถอะ จะได้รีบกลับ” รัชนีกรบอกสองแม่ลูก พวงชมพูทำตามที่เพื่อนรักบอก พาลูกชายไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเดินออกจากห้องแต่งตัวหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย
“ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ เกิดปวดฉี่ขึ้นมา” พวงชมพูบอกรัชนีกรที่พยักหน้ารับรู้ ก่อนชี้บอกเพื่อนว่า ห้องน้ำไปทางไหน พวงชมพูเดินไปตามทางที่รัชนีกรชี้











































































