บทที่ 8 พรหมลิขิตบันดาลชักพา (100%)
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า อยากได้เท่าไรก็บอกมา คนอย่างฉันมีปัญญาจ่ายให้เธออยู่แล้ว” แอรอนลูบไล้หลังมือไปตามกรอบหน้าสวยอย่างถือวิสาสะ ครั้นมัลลิกาปัดมือเขาออก พ่อคนมือไวก็ฉวยมือเรียวไว้ในอุ้งมือใหญ่ แล้วจรดจมูกคมสันลงมาจุมพิตหนักๆ บนหลังมือนุ่มละมุนหนึ่งที ก่อนจะยักคิ้วยวนยั่วอย่างสบายอารมณ์
“อย่ามาฉวยโอกาสทำรุ่มร่ามกับฉันนะ ฉันบอกคุณแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คุณกล่าวหา” เสียงแหลมแว้ดใส่อย่างเหลืออด แล้วรีบสะบัดมือของตัวเองออกจากพันธนาการแกร่ง ก่อนจะกระถดร่างน้อยไปเกยกับโซฟาอีกฝั่งอย่างตื่นตระหนกสุดขีด ท่าทางราวกับกวางน้อยระวังภัยยิ่งปลุกสัญชาตญาณนักล่าในกายแอรอน มอร์แกน ให้ฮึกเหิมขึ้นจนยากจะห้ามใจ
“นี่แม่คุณทูนหัว แม่หางเครื่อง แม่โป๊งชึ่ง เธอจะเล่นตัวไปทำไมกัน หากคืนนี้เธอทำให้ฉันติดใจ ฉันอาจจะยกตำแหน่งเมียให้เธอก็ได้นะ” ในเมื่อเธอหวงชื่อของตัวเองยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ เขาก็จัดการตั้งชื่อเฉพาะให้แม่คุณซะเลย สองชื่อนี้แหละเหมาะกับการแต่งตัวของเธอมากที่สุด ชุดสาวเสิร์ฟที่นี่ก็แปลกประหลาดนักเชียว กระโปรงสั้นจู๋มองเห็นต้นขาขาวๆ ก็เพลินตาดีอยู่หรอก แต่ไอ้ชายกระโปรงนี่สิ มีขนนกติดอย่างกับชุดของหางเครื่องจากคณะคาบาเร่
“เฮอะ…แล้วใครว่าฉันอยากจะได้ตำแหน่งนั้นกันล่ะ” ทำเสียงเยาะขึ้นจมูก ไม่ได้รู้สึกยินดีกับตำแหน่งที่เขากำลังคะยั้นคะยอปนขู่เข็ญเลยสักนิด
“นี่แม่โป๊งชึ่ง เธอไม่รู้อะไรเสียแล้วว่ากำลังพูดกับใครอยู่ ฉันแอรอน มอร์แกน มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อที่ผู้หญิงทั่วทั้งสวีเดนต่างอยากจะได้ไปเป็นพ่อของลูก” ถึงแม้เขาจะเป็นเทพบุตรขี้เล่นแห่งยุค แต่ก็สามารถกวนประสาทได้อย่างน่าโมโห เหมือนที่กำลังปั่นหัวมัลลิกาอยู่ในขณะนี้
“เว้นฉันไว้คนหนึ่งเถอะย่ะ พ่อคนหลงตัวเอง!” มัลลิกาผุดลุกขึ้น แล้วตอกกลับเสียงแข็ง ไม่ได้รู้สึกยินดีไปกับความร่ำรวยที่เขาบรรจงสาธยายออกมาแม้แต่น้อย หากแต่รู้สึกสมเพชเสียมากกว่าที่อีกฝ่ายกล้ามาป่าวประกาศถึงสิ่งที่มีและเป็นอยู่
‘เดี๋ยวนี้พวกมหาเศรษฐีเขาทำกันอย่างนี้เหรอ เวลาที่อยากได้ผู้หญิงสักคนไปนอนด้วย มีเงินมากมายขนาดนั้นทำไมไม่ไปหาซื้อเอาคนที่เขาสมัครใจ มาคุกคามคนที่ไม่เต็มใจอย่างเธอทำไมกัน’
“นั่นเธอจะไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” แอรอนตะโกนไล่หลังคนที่เดินสะบัดหน้าจากไปอย่างไม่แยแส ไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนปฏิเสธและเดินจากไปโดยที่เขายังไม่อนุญาต
‘แม่ตัวแสบ เธอมันวอนโดนดีเสียแล้ว!’ คำรามกระหึ่มในใจ ทนไม่ไหว ชายหนุ่มก็วิ่งตามมากระชากร่างบอบบางเข้าไปกกกอดเต็มอ้อมแขน
“ปล่อยฉันนะ ฉันไม่เต็มใจให้บริการคนจิตเสื่อมอย่างคุณ” มัลลิกาขืนกายพร้อมตะเบ็งเสียงประณาม ส่วนกำปั้นน้อยก็ระดมทุบตีที่แผ่นอกหนั่นแน่นอย่างบ้าคลั่ง
“เธอกล้าด่าว่าฉันจิตเสื่อมเหรอ แม่โป๊งชึ่ง” วาจาไม่เข้าหูทำให้เจ้าของอ้อมแขนแข็งแรงขึ้นเสียงตะคอกอย่างเดือดดาล แล้วลดใบหน้าหล่อเหลาลงมาให้ลมหายใจฟืดฟาดรินรดใบหน้าเฉี่ยวสวยไม่ขาดสาย
“ใช่ มากกว่านี้ฉันก็จะด่า ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้ลามก ไอ้หื่นกาม ไอ้…”
แอรอนกระแทกริมฝีปากกระด้างเข้ากับปากช่างด่า แล้วลงทัณฑ์ในความปากกล้าของเธอด้วยจุมพิตดุดันระคนดิบเถื่อน ตาหวานเบิกโพลง และช็อกไปชั่วขณะ เขาจึงถือโอกาสบดเคล้ากลีบปากอิ่ม ตักตวงเอาความหอมหวานจนแทบชอกช้ำ
ฉากจูบอันแสนร้อนแรงถึงใจของเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่กับสาวเสิร์ฟคนสวย ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างพากันฮือฮา บ้างก็อ้าปากค้าง
“เป็นไง เคลิ้มกับรสจูบของฉันจนพูดไม่ออกเลยเหรอสาวน้อย” กระซิบเสียงเย็นชิดริมฝีปากบวมเป่งของคนที่ยืนตะลึงงันซบอยู่กับอกกว้าง ท่าทางไร้เดียงสากับรสจูบหวานๆ ที่เพิ่งได้รับจากกลีบปากสีกุหลาบทำให้เขาไม่อยากจะละปากออกมาแม้แต่เสี้ยววินาที เอ็นดูคนในอ้อมแขนจนต้องอมยิ้ม
“ว่าไงจ๊ะ ทูนหัว ไปต่อกับฉันเถอะนะ ฉันรู้ว่าร่างกายเธอกำลังร่ำร้องต้องการฉัน” พ่อคนหลงตัวเองหว่านล้อมเสียงแหบพร่าตามแรงอารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้น พลางลูบไล้ฝ่ามือผ่าวระอุไปตามลำแขนเรียวเสลาเบาๆ สัมผัสรุกเร้าทำให้คนเพิ่งเสียจูบแรกได้สติ
“ไม่ เชิญคุณไปคนเดียวเถอะ กรุณาปล่อยแขนฉันด้วย” มัลลิกาอยากจะชกหน้าไอ้คนปากพล่อยนัก ทว่าได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ ไม่ให้มันสำแดงฤทธิ์ออกมา ก่อนจะปฏิเสธอย่างห้วนๆ พร้อมกับสะบัดแขนเรียวให้หลุดพ้นจากพันธนาการของฝ่ามือแข็งกระด้าง
“ถ้าฉันไม่ปล่อย เธอจะทำอะไรฉัน คนสวย” แทนที่จะปล่อยตามคำร้องขอของสาวเจ้า แอรอนกลับออกแรงกระตุกข้อมือกลมกลึงเบาๆ จนร่างบางเซถลาเข้ามาซบอกกำยำ แล้วใช้ปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนขึ้นมาสบตา ยิ่งได้ใกล้ชิดร่างระหง แอรอนยิ่งคุ้นเหมือนเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน แล้วไหนจะกลิ่นกายเย้ายวนป่วนอารมณ์นี่อีกล่ะ
‘เข้าใกล้แม่ตัวดีแล้ว เขาคึกคักเป็นบ้า’
“ก็ทำอย่างนี้อย่างไรล่ะ” เมื่อความอดทนเดินทางมาถึงขีดสุด มัลลิกาก็ลอยหน้าโต้กลับด้วยน้ำเสียงหวานหยดทว่าเคลือบยาพิษ ขาดคำร่างบางก็ดิ้นรนสุดกำลังจนสามารถหลุดพ้นจากการคุกคาม แล้วง้างฝ่ามือน้อยใส่ซีกหน้าคมสุดแรงเกิด
“ไปตายซะไป๊!” เสียงกระด้างสวดส่งเจ้าของใบหน้ายียวนกวนประสาท ก่อนจะตวัดฝ่ามือประเคนลูกตบเข้าใส่แก้มสากอย่างอาจหาญอีกครั้ง
เผียะ!!!
