บทที่ 2 ตอนที่ 2
“เรื่องอื่นผมทำให้คุณพ่อได้ แต่เรื่องนี้...”
นิโคไลโกรธจนหน้าแดงก่ำ เพราะเขาเกลียด เกลียดอิงบุญยิ่งนัก ผู้หญิงสารเลว ผู้หญิงแพศยา หล่อนต้องมีแผนชั่วอยู่ในหัวแน่ๆ ถึงได้ใช้วิธีสกปรกจับเขาแบบนี้
“ผมจะไม่ทำ!”
“แต่แกต้องทำ... ถ้าแกไม่ทำฉันจะขับไล่แกออกจากอิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ แกจะไม่เหลืออะไรติดตัวเลยแม้แต่เหรียญเดียว”
เกรกอรี่ผุดลุกขึ้นยืน จ้องหน้าลูกชายอย่างไม่ยอมแพ้
“คุณพี่คะ อย่าใจร้อนค่ะ ค่อยๆ พูด...”
“คุณอยู่เฉยๆ ยูริ ผมจะจัดการกับไอ้ลูกดื้อด้านคนนี้ด้วยตัวของผมเอง”
นิโคไลอึ้งไปนานกับคำพูดของบิดา นี่พ่อของเขาหลงผู้หญิงอย่างอิงบุญมากจนยอมแม้กระทั่งจะตัดขาดจากลูกแท้ๆ อย่างเขาเชียวหรือ
ระยำ!
คนตัวโตกำหมัดแน่น ดวงตาสีเขียวมรกตลุกโชนไปด้วยกองไฟ
“ผมยังยืนยันคำเดิม ผมจะไม่มีทางแต่งงานกับอิงบุญ”
“ถ้าแกทำแบบนั้น แกจะไม่เหลืออะไรติดตัวเลยเจ้านิค”
เกรกอรี่ข่มขู่ และคิดว่าลูกชายจอมเอาแต่ใจจะต้องหวาดกลัว แต่ผิดคาด ผิดคาดถนัดตา เพราะนิโคไลกลับแสยะยิ้ม และพูดในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินออกมา
“ผมยอมเป็นยาจก ดีกว่ามีเมียเป็นผู้หญิงสำส่อน”
“เจ้านิค!”
เกรกอรี่และยูริเต็มไปด้วยความตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่คงไม่มีใครเจ็บปวด ช้ำใจเท่ากับอิงบุญอีกแล้ว ตอนนี้... ตอนนี้รู้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้เกลียดหล่อนมากแค่ไหน และไม่ว่าจะทำอะไร จะทำยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมแต่งงานด้วย ความหวังของหล่อนที่จะได้พบกับน้องชายอีกครั้งก็คงจะต้องจางหายไปชั่วนิรันดร์
ทำไมโลกใบนี้ถึงช่างโหดร้ายกับหล่อนนักหนานะ
อิงบุญร่ำไห้ออกมาเงียบๆ อย่างสุดจะกลั้น ในขณะที่เกรกอรี่ผู้เป็นพ่อก็เต็มไปด้วยความเป็นกังวลเพราะกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้จะหลุดลอย
“แกพูดจริงหรือเจ้านิค”
“มันคือความจริงที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมาเลยแหละ เพราะถ้าคุณพ่อยังยืนยันว่าจะบังคับให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงมือสองคนนี้อีกล่ะก็ ผมจะเดินออกจากที่นี่ไป และจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก ไม่ว่าจะเพราะเหตุอะไรก็ตาม”
“ไม่นะนิค อย่าทำแบบนี้นะ แม่ไม่ยอม”
ยูริโวยวายเพราะรักลูกชายมาก หล่อนหันไปขอร้องสามีเสียงสั่น
“คุณพี่คะ ในเมื่อนิคไม่อยากแต่ง เราก็อย่าไปบังคับจิตใจลูกเลยค่ะ ให้ตาคิลล์แต่งแทนก็ได้ นะคะ อย่าให้นิคต้องออกไปจากบ้านเลย”
คำว่าให้พี่ชายแต่งงานกับอิงบุญแทนเขา ทำให้นิโคไลรู้สึกหัวใจกระตุกขึ้นอย่างรุนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“พี่คิลล์ดีเกินไปที่จะมาสู้รบตบมือกับแม่นี่”
เกรกอรี่หรี่ตามองบุตรชายคนเล็ก มองอย่างรู้ทันในความคิด
“ก็ถ้าแกเลือกที่จะปฏิเสธ ฉันก็จะต้องเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเจ้าคิลล์”
นิโคไลอึ้งไปนาน เขาจ้องหน้าบิดา ก่อนจะหรี่ตาแคบมองแม่ผู้หญิงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองตักตัวเองอยู่ด้วยความแค้นใจ นี่หล่อนคิดจะกวาดพวกเขาทั้งตระกูลเลยหรือไงนะ
“พี่คิลล์ไม่มีทางยอม”
“นั่นมันเป็นเรื่องของฉันที่จะต้องจัดการ ส่วนแก... ฉันให้เวลาคิดสามวันแล้วค่อยมาให้คำตอบ ถ้ายังยืนกรานคำเดิม ฉันจะได้ติดต่อเจ้าคิลล์”
กรามแกร่งของนิโคไลขบกันจนแน่น สองมือกำเป็นกำปั้นอยู่ข้างตัว ให้ตายเถอะ ทำไมจะต้องรู้สึกอึดอัดใจแบบนี้นะ อิงบุญจะเปลี่ยนจากเขาเป็นคิริลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่ทำไมลึกๆ ภายในถึงรู้สึกกระวนกระวายแบบนี้นะ เพราะอะไร
“ผมขอตัวก่อนครับ”
เมื่อรู้ว่าความสามารถในการต่อสู้ลดลงนิโคไลจึงเลือกที่จะหนีกลับขึ้นห้องพัก เขากระแทกเท้าเดินจากไปอย่างหงุดหงิด เกรกอรี่มองตามไปด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ในขณะที่อิงบุญเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน
หรือว่าหล่อนควรจะล้มเลิกทุกอย่างลง และเดินจากตระกูลนี้ไปเสียที
หลังจากยูริตามนิโคไลขึ้นไปบนห้องพักด้วยความเป็นห่วง เกรกอรี่ก็เรียกให้หล่อนตามขึ้นไปพบที่ห้องหนังสือ
“ไหนบอกว่าเจ้านิคมันอ่อนลงเยอะแล้วไงล่ะหนูอิง”
“คือ... หนู... คือว่า...”
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ ก้มหน้านิ่ง ดวงหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด
“หนู... ขอโทษค่ะ”
เกรกอรี่กระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ
“เอาล่ะ ฉันจะไม่ต่อว่าอะไรหนูอิงอีกเพราะฉันรู้จักนิสัยของเจ้านิคมันดี แต่หลังจากนี้ต่อไป หนูมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้เจ้านิคมันยอมรับหนูให้ได้ หรือถ้าจะให้ดีหนูก็ต้องยอมนอนกับมันไปเลย เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง หนูจะไม่ต้องเสียเวลามาแต่งงาน เพราะฉันมั่นใจว่าหลานของฉันที่เป็นสายเลือดของราชวรกุลจุติอยู่ในท้องของหนูอิงอย่างแน่นอน”
คนฟังหน้าร้อนฉ่าแทบไหม้เพราะความอดสู แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดที่จะปฏิเสธ
“ค่ะ... คุณลุง...”
“ดีมาก ฉันก็จะพยายามเปิดโอกาสให้หนูอิงกับเจ้านิคอยู่ด้วยกันตามลำพังสองต่อสองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฉันก็หวังว่าหนูจะใช้โอกาสนี้ทำให้เจ้านิคมันลืมตัวสักครั้ง”
