บทที่ 3 ตอนที่ 3

ลืมตัวหรือ? คนคิดน้ำตาซึมตกในอย่างเจ็บปวด

“ค่ะ หนูจะพยายาม”

“ฉันหวังว่าหนูจะพยายามจริงๆ อย่างที่รับปากกับฉันเอาไว้ เอาล่ะออกไปได้แล้ว ห้องพักของหนูอิงอยู่ติดกับห้องเจ้านิคนั่นแหละ”

เกรกอรี่โบกมือไล่ แต่อิงบุญก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ จนเจ้าของห้องต้องเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“หนูอิงมีอะไรกับฉันอีกหรือ”

“คือหนู... หนูอยากรู้ว่า... คุณลุงตามหาน้องชายของหนูไปถึงไหนแล้วคะ”

เกรกอรี่ระบายยิ้มบางๆ ออกมา มีบางอย่างในดวงตาสีเขียวมรกตที่ทำให้อิงบุญหวาดระแวง

“ทุกอย่างจะเรียบร้อยทันที หนูอิงจะได้เจอกับน้องชายทันทีเมื่อหนูอิงตั้งครรภ์หลานของฉัน”

“จริง... จริงเหรอคะคุณลุง... งั้นก็แสดงว่าตอนนี้คุณลุงเจอน้องชายของหนูแล้ว”

ชายสูงวัยยังระบายยิ้มแบบเดิม

“ยังหรอก ฉันก็แค่ได้เบาะแสเพิ่มมากกว่าเดิมเท่านั้น แต่ฉันรับรองว่าหนูจะต้องได้เจอกับน้องชายของตัวเองแน่นอน”

ดอกไม้ของความหวังที่เบ่งบานคับแน่นอกทำให้อิงบุญระบายยิ้มออกมาทั้งน้ำตา มองผู้ชายสูงวัยตรงหน้าอย่างขอบคุณ ถึงแม้ว่าเกรกอรี่จะบีบให้หล่อนไม่เหลือทางเดินอื่นใดนอกจากทำตามความต้องการของเขา แต่เขาก็จะทำให้หล่อนได้พบกันอินทัช

“ขอบ... ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ ขอบคุณที่สุด”

“ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าเราแลกเปลี่ยนกัน”

เกรกอรี่ระบายยิ้ม มองเด็กสาวตรงหน้านิ่ง ความจริงเขาก็อดที่จะเอ็นดูอิงบุญไม่ได้ แต่เพราะเรื่องเจ็บช้ำในอดีตที่ยากจะลืมทำให้เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องลงไป

“เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว และอย่าลืมทำทุกวิถีทางเพื่อให้เจ้านิคมันเผลอตัวไปกับหนูอิงล่ะ”

แก้มนวลแดงระเรื่อ ดวงหน้างามร้อนผ่าวด้วยความอดสู

“เอ่อ ค่ะ หนูจะพยายาม งั้นหนูออกไปก่อนนะคะ”

เมื่อเกรกอรี่พยักหน้าอนุญาต หญิงสาวก็เดินออกไป แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องหนังสือออก ดวงหน้างามก็ต้องซีดเผือดราวกับกระดาษ

“คุณนิค!”

นิโคไลอึ้งไปนานเหมือนกันเมื่อเห็นอิงบุญเดินออกมาจากห้องหนังสือของบิดา เนื้อตัวของเขากระตุกขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ความเกลียดชังกระหน่ำอยู่ภายในอย่างรุนแรง

“ร่าน พ่อฉันแก่จนแทบจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว เธอยังมาอ่อยถึงห้องเชียวนะ”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”

“หุบปาก! ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของอีตัวอย่างเธอ ไสหัวไปเลย!”

แล้วคนตัวโตก็บันดาลโทสะด้วยการเหวี่ยงร่างอรชรของอิงบุญออกจากประตูห้องอย่างไม่ปรานีจนร่างเล็กเซถลาไปเสียหลักล้มลงกับพื้นห้องด้านนอกอย่างแรง หญิงสาวน้ำตาซึม แต่คนกระทำหาได้แสดงความเห็นใจไม่ เขากลับยิ่งตอกย้ำหล่อนด้วยสายตากระด้างและคำพูด

“ผู้หญิงอย่างเธอน่ะมันหนาไปทั้งตัว คงไม่เจ็บหรอกมั้งแค่นี้”

เขาเดินหายเข้าไปในห้องหนังสือที่เกรกอรี่นั่งอยู่ ในขณะที่หล่อนนั่งร้องไห้น้ำตาไหลพรากอยู่ที่เดิมนานแสนนาน

“ทำไม... คุณถึงใจร้ายกับฉันแบบนี้คะคุณนิค”

น้ำตาที่พยายามเช็ดมันไหลทะลักออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเช็ดจะปาดมันยังไงมันก็ไม่ยอมเหือดแห้งจากแก้มนวลเลย หล่อนสะอื้นไห้ปานจะขาดใจอยู่นานก็จำต้องเดินโซซัดโซเซกลับไปยังห้องพักของตัวเองด้วยดวงใจที่ทุกข์ระทม

“แกทำบ้าอะไรของแกเจ้านิค หนูอิงไม่ช้ำหมดหรือไง”

ทันทีที่ลูกชายเดินมาหยุดตรงหน้า เกรกอรี่ก็ตำหนิทันที

“ทำไมครับ คุณพ่อกลัวผิวเนียนๆ ของเมียเด็กจะเสียหรือไงครับ”

“บ๊ะ ไอ้ลูกคนนี้นี่ พ่อกับหนูอิงไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย แกไปเอาความคิดชั่วๆ แบบนี้มาใส่หัวได้ยังไง ทุเรศ”

นิโคไลไม่เชื่อเพราะเขาเคยเห็นอิงบุญเข้าไปหาเกรกอรี่บ่อยๆ ยามที่แม่ของเขาไม่อยู่บ้าน และแน่นอนว่าเขาไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าหล่อนจะเข้าไปนั่งอ่านนิทานให้บิดาของเขาฟัง

“ผมเชื่อสายตาของตัวเองครับ”

“ก็เรื่องของแก ว่าแต่แกมีอะไรถึงเข้ามากวนโมโหฉันถึงในห้องหนังสือนี่”

ผู้เป็นลูกชายทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวข้างกายบิดา

“ผมก็แค่จะมาให้คำตอบกับคุณพ่อ เรื่องอิงบุญ”

เกรกอรี่เลิกคิ้วสูง ก่อนจะเอ่ยถามออกมา ในใจก็เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เพราะเกรงกว่าบุตรชายจะปฏิเสธ

“ฉันให้เวลาแกสามวันไม่ใช่เหรอ นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงดีเลย ไม่ต้องรีบ คิดให้ดี”

นิโคไลจ้องหน้าบิดาด้วยสายตาแน่วแน่ ก่อนเสียงกระด้างจะเล็ดลอดออกไปจากริมฝีปากหยักสวยแสนเซ็กซี่แผ่วเบา

“ผมคิดดีแล้วครับ”

“ถ้าคิดดีแล้ว ก็พูดออกมาเลย แต่อย่าลืมนะว่าแกจะไม่เหลืออะไรเลย”

เพราะเกรงว่านิโคไลจะปฏิเสธเกรกอรี่จึงต้องข่มขู่ทิ้งท้าย

ไหล่กว้างของนิโคไลไหวน้อยๆ ขณะเอนกายพิงกับพนักโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย

“ผมจะแต่งงานกับอิงบุญ”

“ห๊า... ว่าไงนะ!?”

เกรกอรี่ดีใจจนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้นิโคไลดื้อดึงจนเขาคิดว่าไม่มีทางเอาชนะบุตรชายได้ แต่ตอนนี้กลับผิดคาด

“ผมจะแต่งงานกับแม่อิงบุญนั่นด้วยตัวเอง แต่ผมมีเหตุผลดังนี้ครับ”

“เหตุผลอะไรของแกเจ้านิค”

เจ้าของชื่อแค่นยิ้มหยัน หรี่ตามองบิดานิ่ง

“ข้อแรกเพราะผมไม่ต้องการให้แม่นี่แย่งคุณพ่อจากคุณแม่”

“แกบ้าไปแล้ว ฉันกับหนูอิงไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย”

ผู้เป็นพ่อปฏิเสธแต่นิโคไลไม่เชื่อ และยังพูดต่อไป

“ข้อที่สอง ผมสงสารพี่คิลล์ เพราะผมรู้ดีว่าพี่คิลล์ไม่มีทางรับมือยายผู้หญิงสำส่อนอย่างแม่อิงบุญได้ ต้องผมคนเดียว”

“แล้วไงต่อล่ะ”

เกรกอรี่กอดอกนั่งฟังบุตรชายคนเล็กสาธยายอย่างใจเย็น

“ข้อสุดท้าย ผมต้องการจะเอาคืนแม่นั่น ผมจะทำให้แม่นั่นกระอักออกมาเป็นเลือด โดยที่ใครก็ไม่สามารถช่วยแม่นั่นได้”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป