บทที่ 10 ตอนที่ 10
ยิ่งฟังทัศนคติของเขา หล่อนก็ยิ่งรู้สึกลุ่มหลงในตัวตนของผู้ชายคนนี้มากและมากขึ้นเรื่อยๆ โรสิตานั่งฟังนิ่ง มองหน้าเขาด้วยสายตาชื่นชม จนคนถูกมองรู้สึกตัว และขัดเขินจนโหนกแก้มสูงสมบูรณ์แบบมีสีเข้มขึ้น หญิงสาวอมยิ้มขบขัน
“คุณชาร์ล เหมือนนักบวชที่พึ่งออกมาเจอสตรีเลยนะคะ”
ชาริลล์เลิกคิ้วกับสิ่งที่ได้ยิน ถามกลับยิ้มๆ
“ทำไมคุณโรสถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ”
“เพราะโรสคิดว่าคุณชาร์ลเป็นคนดีมากๆ ยังไงละคะ”
เรือนกายของชาริลล์ตั้งตรงขึ้น ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักทุ้ม ในขณะที่จับจ้องมองดวงหน้าของคู่สนทนาสาวสวยไม่วางตา
“ผมน่ะห่างไกลจากนักบวชมาก ถ้าจะพูดให้ถูกต้องผมยังมีความเป็นมนุษย์อยู่เต็มตัว มีรักโลภโกรธหลง ยังตัดไม่ได้เลยครับ”
หญิงสาวหัวเราะขบขัน หัวใจมีความสุข จนลืมไปสนิทเลยว่าหล่อนก้าวมาอยู่ตรงจุดนี้ ตรงหน้าผู้ชายที่ชื่อชาริลล์ คาร์ตันเพื่ออะไร
“คุณโรสจะอยู่ที่นี่นานไหมครับ คือผม... หมายถึงว่าจะอยู่ที่ลุยเซียนาอีกนานไหม”
“ก็จนกว่าโรสจะได้ในสิ่งที่ปรารถนาน่ะค่ะ”
ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อของโรสิตาคลี่กว้างออกจากกันเป็นรูปหัวใจ และนั่นก็ทำให้คนจ้องมองอย่างชาริลล์รู้สึกไม่ต่างจากถูกมนต์สะกด ชายหนุ่มเผลอจ้องมองกลีบปากอิ่มเต็มของสตรีตรงหน้าด้วยความโหยหาที่ควบคุมไม่ได้ ในสมองจินตนาการภาพที่ตัวเองได้จุมพิตเคล้าคลอกับกลีบปากเต็มตึงของโรสิตาอย่างแนบสนิท ฉับพลันบางส่วนของร่างกายที่เคยควบคุมได้อย่างดีกลับตื่นผงาด จนเจ้าของร่างเช่นเขาต้องเปลี่ยนท่านั่งด้วยการตวัดขาขึ้นไขว่ห้างเพื่อปกปิดความตื่นตัวของตนเองเอาไว้ ชาริลล์เต็มไปด้วยความละอายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
มันไม่เคยเป็นแบบนี้... เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขารู้สึกโหยหารุนแรงแบบนี้ได้ แต่โรสิตาทำได้ แรงดึงดูดระหว่างเขากับหล่อนนั้นช่างบ้าคลั่งนัก บ้าคลั่ง... จนเขาอดที่จะรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้
“เออ... ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ คุณโรสสั่งอาหารได้เลยครับ ไม่ต้องรอผม”
แม้จะงุนงงกับท่าทางรีบร้อนของอีกฝ่าย แต่โรสิตาก็ฝืนยิ้มกว้าง
“ค่ะ โรสจะรอคุณชาร์ลนะคะ”
เขายิ้มให้กับหล่อน นัยน์ตาสีเขียวมรกตเต็มไปด้วยความพึงพอใจ หากเขาไม่ได้แสดงละคร สิ่งที่ได้เห็นจากสายตาของเขา บอกให้รู้ว่าชาริลล์เองก็กำลังรู้สึกเหมือนกับที่หล่อนกำลังเป็นอยู่นั่นเอง หล่อนควรยิ้มสิ ควรดีใจ แต่...
“เอายาออกมาจากกระเป๋าสิ ยายโรส แล้วใส่ในแก้วน้ำของหมอนั่นเลย” เสียงกระซิบของมิตาที่นั่งหันหลังอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ ดังขึ้นแผ่วเบา แต่หล่อนก็ได้ยิน
โรสิตาอึกอัก และรู้สึกสับสน ไม่กล้าพอที่จะทำ
“มิตา... ฉัน... ฉันไม่กล้า...”
“ท่องเอาไว้เพื่อครอบครัว เธออยากเห็นพ่อเธอตายหรือไง เร็วเข้า หมอนั่นไปนานแล้ว เดี๋ยวก็คงจะกลับมาแล้ว เร็วสิ...”
ไม่มีทางเลือก โรสิตาล้วงมือไปในกระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก และหยิบขวดยาขนาดจิ๋วออกมาถือเอาไว้ มือไม้สั่นเทา หัวใจของหล่อนก็เช่นกัน สั่นระรัวราวกับถูกเขย่าอยู่ในขวดแก้ว
“เร็วสิ... เดี๋ยวก็แผนแตกพอดี เร็วเข้ายายโรส...”
โรสิตาไม่สามารถประวิงเวลาได้อีกแล้ว หล่อนจำต้องเปิดขวดออก และเทยาลงไปในแก้วของชาริลล์
“หมอนั่นตัวโตหยั่งกับยักษ์ แค่นั้นไม่หลับหรอก เทให้หมดเลย”
“แต่... ฉันกลัวคุณชาร์ลจะได้รับอันตรายถ้าใช้ยาเกินขนาด”
มิตาทำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะเค้นเสียงแผ่วเบา
“ยานอนหลับไม่เคยทำให้ใครตายหรอกน่า ใส่ไปอีก ถ้าพลาดครั้งนี้แล้วฉันจะไม่ช่วยอีกแล้วนะ ยายโรส ใส่สิ เร็วเข้า นู้น หมอนั่นเดินกลับมาแล้ว”
ไม่มีเวลาแล้ว โรสิตาเทยานอนหลับลงใส่แก้วน้ำของชาริลล์จนหมดขวด จากนั้นก็รีบสอดขวดเล็กๆกลับลงไปในกระเป๋าสะพายใบเล็กของตัวเอง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เหยื่อผู้ร่ำรวยของหล่อนเดินมาถึงโต๊ะอาหาร เขายิ้มให้หล่อน ยิ้มด้วยความจริงใจ ทำเอาหล่อนถึงกับจุกไปทั้งลำคอ ความรู้สึกผิดอัดแน่นเต็มอกจนอาเจียนแทบพุ่งออกมา
“คุณโรสรอผมนานไหมครับ”
“มะ... ไม่นานค่ะ”
สีหน้าซีดๆ ของโรสิตาทำให้ชาริลล์แปลกใจ
“คุณโรสเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าซีดจังครับ หรือว่าจะเป็นลม”
ชาริลล์ยื่นมือมาจับฝ่ามือเล็กอย่างเป็นห่วง ซึ่งก็พบว่าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และเย็นเฉียบ
“มือคุณโรสเย็นมากเลยนะครับ ผมว่าคุณโรสควรจะไปหาหมอดีกว่า ผมจะพาไปนะครับ”
“เอ่อ... โรสไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่...”
หญิงสาวหยุดคิดหาเหตุผลดีๆ สักข้อที่น่าเชื่อถือ และสุดท้ายก็คิดออก
“แค่หิวน่ะค่ะ หิวมาก... เลยจะเป็นลม”
คราวนี้คนฟังถึงกับยิ้มกว้าง ในขณะที่หล่อนลอบพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างโล่งอก
“เพราะอย่างนี้นี่เอง สั่งอาหารเลยนะครับ”
แล้วเขาก็ยกมือขึ้นเรียกพนักงาน ไม่ช้าบริกรก็มาหยุดที่ข้างโต๊ะ เขาถามหล่อนว่าต้องการทานอะไร แต่พอหล่อนบอกว่าตามใจเขา หล่อนทานได้ทุกอย่าง เขาก็ทำหน้าที่ในการสั่งอาหารให้กับหล่อนด้วยท่าทางสบายๆ และเต็มไปด้วยการเป็นผู้นำ
