บทที่ 9 ดุได้ดุไป (2)
คอนโดหรู…
ทันทีที่รถจอดฉันก็รีบก้าวขาสั้น ๆ เดินตามหลังคุณเขาไปทันที ส่วนพี่เทเลอร์ขับรถออกไปไหนไม่รู้
“อะ โอ๊ย!” ฉันมัวก้มหน้าก้มตาเดินไม่ทันได้มองเลยไม่รู้ว่าคุณเขาหยุดเลยชนแผงอกคุณเขาเข้าให้จัง
“......” คุณเขาเงียบไม่พูดอะไร แต่สายตาเขามันฟ้องว่าเขากำลังหงุดหงิด
“ขอโทษค่ะ” ฉันได้แต่ก้มหน้ารับผิด แล้วเดินตามคุณเขาไปจนถึงห้อง
ตื้ด ตื้ด
แกรก!
“ลูกกูล่ะ!” พอเปิดประตูเข้าไปคุณเขาก็ถามพี่ไทเกอร์ทันที
“อยู่กับพยาบาลครับนาย” พี่ไทเกอร์พูดแล้วหันมายิ้มให้ฉัน ฉันก็ยิ้มตอบตามมารยาท
“ไปบอกพยาบาลให้กลับไปก่อน” คุณเขาพูดเรียบ ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้อง
“ครับนาย!”
“มาได้ไงเราอะ” พี่ไทเกอร์พูดกับคุณเขาแล้วหันมาถามฉัน
“คุณเขาให้มาหาน้องพาร์ทได้ค่ะ” ฉันฉีกยิ้มกว้าง
“งั้นพี่พาไปหานายน้อย ดีเหมือนกันพี่กับพยาบาลกำลังจะตายแล้ว นายน้อยร้องไห้งอแงทั้งวัน”
พี่ไทเกอร์พูดอย่างหนักใจ แล้วพาฉันเดินเข้าไปหาน้องพาร์ทที่กำลังอาละวาดร้องไห้อยู่กับพยาบาล
“น้องพาร์ทครับ!” ฉันส่งเสียงเรียกน้องพาร์ทเบา ๆ
“อึก ฮือ! อึก อึก” เสียงสะอื้นเล็ก ๆ ใบหน้ามีแต่คราบน้ำตา มันทำให้หัวใจฉันแทบสลาย
“เป็นอะไรครับทำไมร้องไห้งอแงแบบนี้”
คุณเขาที่พูดพร้อมอุ้มน้องพาร์ทเดินมาหาฉัน สีหน้าแววตาคุณเขามันอ่อนโยนมากเวลาเขาอยู่กับลูก
“หม่ำ ๆ หม่ำ ๆ” พอน้องพาร์ทเห็นฉันก็ยิ้มดีใจใหญ่
“นะ...หนูขออุ้มน้องได้ไหม!” ฉันเดินเข้าไปจับมือเล็ก ๆ
“......” คุณเขาไม่พูดอะไรและส่งน้องพาร์ทให้ฉัน
“คนเก่งของพี่แนนตัวร้อนเหรอครับ!”
“ไหนพี่แนนดูหน่อยสิ” ฉันเอามือแตะที่หน้าผากเล็ก ๆ ดีที่ไข้ไม่สูงเท่าไร
“น้องไม่ยอมทานข้าวเลยค่ะ” เป็นคุณพยาบาลที่พูดขึ้น ส่วนตัวเล็กตอนนี้เงียบนิ่งเอาหน้าแนบอกแต่ยังคงมีเสียงสะอื้นเป็นพัก ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะแนนนี่ดูน้องเอง”
ฉันก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกแต่เพราะแนตตี้กับนนท์ไม่สบายบ่อย ๆ แล้วแม่ก็ไม่ค่อยสนใจหน้าที่ดูแลน้องทุกอย่างเลยตกอยู่ที่ฉัน
ไม่นึกเลยว่าวันนี้ฉันจะได้มีโอกาสได้ดูแลน้องพาร์ท อย่างที่ฉันเคยฝันไว้
“งั้นดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” คุณพยาบาลพูดและยิ้มพร้อมเอามือลูบหัวน้องพาร์ท อย่างเอ็นดู
“เชิญครับเดี๋ยวผมไปส่ง” พี่ไทเกอร์รีบเดินไปเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องทันที
ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันที่ยืนอุ้มน้องพาร์ทพร้อมสายตาเย็นชาของคุณที่กำลังจ้องมาที่ฉันอยู่
“ทำไมไม่ทานข้าวล่ะครับคนเก่ง”
แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรคุณเขาพูดกับน้องพาร์ทที่อยู่ในอ้อมกอด เด็กวัยนี้ก็แบบนี้แหละเวลาไม่สบายก็จะไม่ค่อยทานข้าว
“งั้นเดี๋ยวป๊ะป๋าไปทำอาหารให้เอาไหม”
คุณเขาเดินเข้ามาหาฉัน น้ำเสียงเขาที่พูดกับน้องพาร์ทมันอ่อนโยนมือใหญ่ลูบที่หัวน้องเบา ๆ ฉันสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของคุณเขาที่มีต่อน้องเอามาก ๆ
“......” เด็กน้อยขี้งอแงได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ
“หนูไปทำให้ดีกว่าค่ะ คุณอยู่กับน้องเถอะ”
“ฮื้อ!! แอ้!!” แต่เด็กน้อยขี้งอแงกลับไม่ยอมออกจากอ้อมกอด พอฉันจะส่งตัวให้คุณน้องพาร์ทก็กอดฉันไว้แน่น
“ไม่ต้องรออยู่นี่แหละฉันไปทำเอง”
คุณเขามองฉันดุ ๆ แล้วหอมที่หัวน้องพาร์ทก่อนจะเดินเข้าครัว ฉันได้แต่มองตามหลังคุณเขาไป เวลาเขาอยู่กับลูกเขาคงจะอบอุ่นน่าดูเพราะฟังจากที่เบบี๋เล่าว่าป๊ะป๋าห่วงใยเอาใจใส่เธอทุกอย่าง
“หนูโชคดีมากรู้ไหมที่ป๊ะป๋าเขารักหนูมากขนาดนี้”
ฉันพูดกับตัวเล็กที่ยังคงอ้อนกอดฉันไม่ยอมปล่อย พอเห็นคุณเขารักและห่วงน้องแบบนี้ ฉันเองก็สบายใจเพราะฉันคงไม่มีโอกาสได้ดูแลและอยู่ใกล้ ๆ น้องแบบนี้บ่อย ๆ
วันนี้ถือว่าคุณเขาใจดีให้ฉันได้ดูแลน้องสำหรับฉันแค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว
20 นาทีผ่านไป
“หลับซะแล้ว!”
ระหว่างที่รอคุณเขาทำอาหารฉันก็อุ้มน้องเดินไปเดินมารอบ ๆ ห้อง พอดูอีกทีเด็กน้อยกลับหลับอ้าปากหวอน่ารักเชียว
“ทำไมน่ารักแบบนี้นะ”
ฉันก้มลงจูบที่หัวน้องพาร์ทเบา ๆ กลัวน้องจะตื่น เห็นตัวแค่นี้ก็หนักเอาการอยู่นะเมื่อยแขนและเหมือนมันจะเริ่มชาขยับไม่ได้แล้ว
“หลับแล้วทำไมไม่เอาเข้าไปนอนในห้อง?” คุณเขาเดินออกมาจากในครัว พร้อมจ้องมาที่น้องพาร์ท
“...เอามาฉันพาไปนอนเอง” คุณเขาถอนหายใจแล้วตรงเข้ามาจะอุ้มน้องพาร์ทเข้าไปนอน
“ดะ...เดี๋ยวค่ะ” ฉันพูดห้ามเขาทันที
“อะไรของเธอ?” เขาพูดอย่างรำคาญ
“คะ...คือตะคริว” แขนฉันมันขยับไม่ได้
“แขนหนูเป็นตะคริว!” ฉันพูดเสียงเบา
พรึบ!!
“ทะ...ทำอะไรคะ?”
“......” คุณเขาเงียบแล้วอุ้มฉันที่อุ้มน้องพาร์ทอยู่เดินเข้าไปในห้องนอน แต่...จากที่ดู ๆ ห้องที่เขาพาฉันเข้ามาไม่น่าจะเป็นห้องนอนน้องพาร์ท!
คุณเขายังคงเงียบและค่อย ๆ วางฉันลงกับเตียงอย่างเบามือ คงจะกลัวน้องพาร์ทตื่น
“...เธอนี่โง่หรือเปล่า เมื่อยแขนแล้วยังจะอุ้มไว้อีก!” คุณเขาพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ พร้อมดึงผ้าห่มมาห่มตัวให้น้องพาร์ทที่นอนหันหน้ากอดฉันอยู่ แล้วนวดที่มือฉันเบา ๆ
“ก็หนูกลัวน้องตื่น” ฉันค่อย ๆ ผลักตัวเอาน้องพาร์ทนอนลงกับที่นอน เพราะตอนนี้มันมืดแล้ว เฮ้อ...จะมีรถกลับบ้านไหมล่ะเนี่ยแนนนี่
“...แอ้! ฮื่อ!...” แต่พอฉันจะขยับเอามือออกน้องพาร์ท กลับงอแง
“ไม่ร้องนะครับ”
ฉันเอามือลูบที่อกน้องพาร์ทเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบไม่นานน้องก็นิ่งและหลับไป
“แล้วจะไปไหน!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเมื่อฉันลุกจากเตียงเตรียมตัวจะกลับบ้าน
