บทที่ 3 บทที่ 3

บทที่ 3

ผู้ชายทั้งสองคนยอมกลับไป แต่ทิ้งความเดือดเนื้อร้อนใจอันมหาศาลไว้ให้กับกวินอีกรอบ กลิ่นจันทร์ได้แต่แอบมองพี่ชายเงียบๆ ด้วยความสงสารจับใจ ตั้งแต่เล็กจนโต กวินเป็นคนที่เข้มแข็งและยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคมาโดยตลอด ทว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ ดูเหมือนจะสั่นคลอนความเข้มแข็งของพี่ชายเธอมากพอสมควร เธอไม่รู้ว่ากวินกำลังมีปัญหากับใคร แต่ชื่อที่ถูกเอ่ยถึงเมื่อครู่นี้คือ ‘ไนท์’ ซึ่งเธอจำเขาได้แม่น เพราะเคยเจอกันแล้วในวันที่เธอมาหาพี่ชายที่นี่

ร่างบางกลับเข้าห้องไปเงียบๆ อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาชุดเดิมที่ตัวเองใส่มา โดยไม่รู้สักนิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้ใส่ชุดนี้โดยที่ทั้งกายและใจยังบริสุทธิ์

“จะกลับแล้วเหรอไผ่” กวินพยายามจะยิ้มและปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติต่อหน้าน้องสาว หากแววตากลับทิ้งร่องรอยแห่งความกังวลไว้มากมาย

“ไผ่จะกลับแล้ว พี่ป้องกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอ ไผ่ขอติดรถไปด้วยนะ”

“เอาสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

กลิ่นจันทร์เดินไปเกาะแขนพี่ชาย ไม่ใช่อ้อนเหมือนทุกครั้ง แต่มันคือการให้กำลังใจเงียบๆ ผ่านทางสัมผัส ซึ่งในยามนี้เธอรู้ว่ากวินต้องการมันมากที่สุด

สาวน้อยนั่งหน้าคู่กับพี่ชาย ขณะที่กวินขับรถเงียบๆ แบบคนกำลังมีเรื่องให้ขบคิด ทั้งที่ปกติคนเป็นพี่จะชวนคุยและถามนั่นถามนี่เสมอเวลาที่ได้อยู่กันตามลำพังแบบนี้

“พี่ป้องแวะทำธุระก่อนก็ได้นะ ไผ่เรียนบ่าย ไผ่รอได้” กลิ่นจันทร์เอ่ยขึ้นอย่างพอจะรู้ว่ากวินคงอยากไปเจรจาเรื่องคอนโดมิเนียมให้จบก่อน

“พี่ไปส่งไผ่ก่อนดีกว่า”

“มหาวิทยาลัยอยู่ตั้งไกล กว่าจะย้อนไปย้อนมาอีกนะ”

“งั้นพี่ขอเวลาแป๊บหนึ่งนะ”

“ได้ค่ะ” กลิ่นจันทร์พยักหน้า ก่อนที่กวินจะหักพวงมาลัยรถเข้าสู่ถนนอีกเส้นออกไปทางชานเมือง และไม่นานรถก็แล่นเข้ามาในอาณาจักรแห่งหนึ่ง ซึ่งกินพื้นที่น่าจะเกือบๆ ร้อยไร่ โดยบรรยากาศนั้นช่างต่างกันลิบลับจนแทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีอยู่จริงในกรุงเทพฯ

รถของกวินแล่นมาจอดรถหน้าอาคารรูปทรงแปลกตา ความสูงไม่น่าจะเกินสี่ชั้น แต่ความโอ่อ่าหรูหราและความมีเอกลักษณ์บ่งบอกชัดว่าตึกแห่งนี้คือแลนด์มาร์กของที่นี่ และคนที่เป็นเจ้าของตึก น่าจะเป็นเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้ด้วย

กวินลงจากรถโดยบอกน้องสาวให้ไปรอในร้านกาแฟก่อน กลิ่นจันทร์รับปากแต่พอคล้อยหลัง เธอกลับแอบตามพี่ชายเข้าไปข้างในแทบจะทันที

ร่างบางหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้จะไปต่อทางไหน จึงตัดสินใจเดินตรงไปยังหน้าเคาน์เตอร์ที่เขียนว่าประชาสัมพันธ์

“พี่คะ พอดีพี่ชายหนูมาหาพี่ไนท์ค่ะ แล้วเมื่อกี้เขาลืมแฟลชไดรฟ์ไว้ ก็เลยโทร.มาบอกให้หนูเอาขึ้นไปให้” กลิ่นจันทร์จำต้องโกหก ทั้งที่เธอเกลียดการกระทำแบบนี้มากที่สุด แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้น เธอเชื่อว่าประชาสัมพันธ์คนนี้คงไม่มีทางบอกห้องหรืออนุญาตให้ขึ้นไปชั้นบนแน่ๆ

“อ๋อ...น้องสาวของเพื่อนคุณไนท์เหรอคะ เพื่อนคุณไนท์ชื่ออะไรคะ”

“ชื่อพี่ป้องค่ะ ชื่อจริงชื่อกวิน”

ประชาสัมพันธ์สาวเหมือนจะคุ้นและรู้จักชื่อนั้น ทำให้กลิ่นจันทร์แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่เธอจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปหา ‘นภัทร’ หรือ ‘ไนท์’ ก็มากขึ้นด้วย

“งั้นพี่ขอบัตรหน่อยค่ะ ตามกฎของที่นี่ต้องแลกบัตรก่อนนะคะ”

“ได้ค่ะ นี่ค่ะ” กลิ่นจันทร์เกือบจะหลุดยิ้มอย่างดีใจตอนที่ส่งบัตรให้กับประชาสัมพันธ์สาว ครู่หนึ่งพี่สาวคนสวยผู้นั้นก็ส่งบัตรที่เขียนว่า ‘VISITOR’ กลับคืนมาให้ แล้วบอกเธอติดบัตร ก่อนจะบอกว่าห้องทำงานของนภัทรอยู่ชั้นไหน

ในห้องทำงานสุดหรูของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทที่นำเข้าและส่งออกด้านสื่อบันเทิงอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งตอนนี้ก้าวกระโดดขึ้นมายืนแถวหน้าของเอเชีย เพราะได้คนรุ่นใหม่ไฟแรงมาช่วยบริหาร นภัทรถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในตอนนี้ เรียกได้ว่าเขาประสบความสำเร็จไปซะทุกอย่างจนน่าอิจฉา ทว่าคนอย่างเขานี่แหละ ที่เพิ่งจะถูกแฟนกับเพื่อนสนิทหักหลังด้วยการสวมเขา และตอนนี้ไอ้อดีตเพื่อนที่มันกล้าทรยศความไว้ใจของเขา ก็กำลังมาอยู่ตรงหน้าอย่างหมาจนตรอก แต่เท่านี้มันยังไม่พอหรอกกับความรู้สึกดีๆ ที่เขาสูญเสียไป!

“กูขอร้องล่ะนะไนท์ กูรู้ว่ากูผิด แต่มึงเลิกเล่นสกปรกแบบนี้สักที กูสงสารบีม”

“แล้วไม่ใช่มึงกับเมียมึงเหรอที่เล่นสกปรกกับกูก่อน กูถามจริงๆ เถอะ มึงไม่กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวมเขาให้มึง เหมือนที่สวมเขาให้กูเหรอวะ ผู้หญิงเคยร่านยังไงก็จะยังร่านอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ” นภัทรถามอย่างเหยียดหยามแกมดูถูก ซึ่งทั้งหมดนั้นมันถูกผลักดันมาจากความผิดหวังที่ยังกรุ่นอัดแน่นอยู่ในหัวใจของเขานั่นเอง

“มึงหยุดดูถูกบีมสักทีเถอะ ถ้าจะมีใครสักคนที่เชี่ยมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ...กูเอง”

“เรื่องนี้มันไม่มีใครเชี่ยกว่าใครทั้งนั้นแหละ อย่างมึงสองคนน่ะ ต้องเรียกว่าผู้หญิงร้ายผู้ชายเลว ถ้าไม่ร่านกับไม่ระยำจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นคงไม่กล้าเอากับมึงบนเตียงเดียวกับที่เคยเอากับกูหรอก เพราะฉะนั้นก็ตกนรกทั้งเป็นไปด้วยกันนี่แหละถึงจะสาสม”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป