บทที่ 10 ติดใจต้องเก็บไว้ใกล้ตัว

“ก็เริ่มวันจันทร์หน้านี่แหละ ไปฝึกงานที่บริษัทของพี่เดียวจำได้ไหม” สุจิราทวนความจำของปองรัก เธอเอ่ยถึงลูกชายเพื่อนสนิทของคุณพ่อของสุจิรา ซึ่งเขาอายุห่างกับพวกเธอเจ็ดแปดปี

“อ๋อ คนที่เราไปงานวันเกิดของคุณพ่อพี่เดียวใช่ไหม เขาก็ทำส่งออกเหมือนกันนี่”

“ใช่ ๆ เสียดาย จิลไม่น่าเล่นตัวเลยนะ ตอนนั้นพี่เดียวสนใจเธอมาก” สุจิราแซวเพื่อน

“บ้า เล่นตัวที่ไหน พี่เขาทั้งหล่อทั้งรวย ตอนนั้นพี่เขาก็แสดงหนังด้วย ใครจะมาจริงจังกับคนอย่างเรา” ปองรักนึกไปถึงภาพยนตร์ที่เขาแสดงแล้ว ตอนนี้ถือว่าดังมาก ๆ

“พี่เดียวเป็นคนน่ารักนะ เมื่อวันก่อนเจอกันยังถามถึงจิลอยู่เลย ปากหวานฝากมาด้วยว่า ฝากความคิดถึงให้น้องจิลด้วยนะ” สุจิราทำเสียงเล็กเสียงน้อย

“ไม่จริงแน่ ๆ ประโยคหลังเนี่ย จิราเสริมมาหรือเปล่า” ปองรักส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ

“จริง ๆ พี่เดียวพูดแบบนั้นจริง ๆ ว่าแต่ว่า จิลไปทำงานกับคุณฟาเบียน ตัวจริงกับในทีวี คนไหนหล่อกว่ากัน” สุจิราถาม เพราะเธอก็ได้ยินชื่อเสียงของชายหนุ่มมาบ้าง

“ถามอะไรก็ไม่รู้ คนหน้าตาดีตอนไหนก็หน้าตาดี” ปองรักเอ่ยถึงเขา ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ

“ฮั่นแน่... อย่าหลงเสน่ห์เจ้านายเชียวนะ” สุจิรายังแซวไม่เลิก

“ไปกันได้หรือยัง” เจ้านายทำเสียงเข้มอยู่ด้านหลัง

“คะ” เธอหันหน้าไปหาเขาด้วยความตกใจแก้มของเธอเกือบชนปลายจมูกของเขาที่จงใจชิดใบหน้าลงมาใกล้ ๆ

“จิราแค่นี้ก่อนนะ ไว้ว่าง ๆ จะโทรหา”

“โอเคจ้า” สุจิราได้ยินเสียงทุ้ม ๆ เข้ามาในสาย เธอรีบวางทันที

ปองรักรีบเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย เขาดึงมือเธอขึ้นมาและเดินจับมือกันไป หญิงสาวเขินจนหน้าแดง เดินแทบขาขวิด

ฟาเบียนพาปองรักไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำกลางกรุง เขาดันหลังเธอให้เดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ดัง

“รบกวนจัดเสื้อผ้าสวย ๆ ให้คุณผู้หญิงเธอด้วยนะครับ” เขาพูดขึ้นน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ปองรักหันมามองใบหน้าของเขา ชายหนุ่มไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้าและยักคิ้วให้ เขาเดินไปนั่งรอที่โซฟาเล็ก ๆ ที่ให้แขกนั่งรอ ตรงหน้าห้องทดลองเสื้อของร้าน

“ใส่แล้วเดินออกมาให้ดูด้วยนะ” เขาออกคำสั่งด้วยความคุ้นเคย ปองรักถอนหายใจเสียงดัง แต่หันหน้าไปยิ้มให้กับพนักงานสาวสองคนที่กำลังมองหาไซส์ของเสื้อผ้าให้เธออยู่

ปองรักเดินเข้าเดินออกห้องลองเสื้อผ้านั้นไม่รู้กี่รอบ ฟาเบียนได้แต่ยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้นกับคว่ำลง เล่นเอางานนี้บอกได้คำเดียวว่าหญิงสาวเหนื่อย เพราะเขาพาเดินไปทั่วไม่รู้กี่ร้านต่อกี่ร้าน แถมด้วยกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าถือ ชุดชั้นในยังไม่เว้น และรองเท้าอีกสี่คู่

เธอกลืนน้ำลายลงคอทุกครั้งที่ได้ยินพนักงานเอ่ยถึงราคาที่เขาจะต้องเป็นคนจ่าย

สองคนเดินหิ้วของพะรุงพะรัง ได้ยินเสียงผู้เป็นนายจ้างสั่ง

“กลับสัตหีบกันเลยนะ ค่อยสั่งของไปกินที่บ้าน” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง

เมื่อถึงรถเขาก็ขับบึ่งออกไปจากลานจอดของห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว

ปองรักเหลือบมองใบหน้าของเขาอยู่หลายครั้ง เธอไม่สามารถจะอ่านใจของเขาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร

“มีอะไรติดอยู่ที่ใบหน้า หรือข้างแก้มของผมหรือ” เขาพูดขึ้นมาเสียงดัง และหันมาสบตา

“เปล่าค่ะ” เธอรีบตอบด้วยความตกใจ

“อือ...” ฟาเบียนยิ้มอย่างมีเลศนัย และส่งเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ

‘ขายหน้าเขาแล้วไหมละ’ ปองรักบ่นว่าตัวเอง

เสียงโทรศัพท์ของฟาเบียนเข้ามาไม่หยุด บางครั้งเขาก็คุยออกไปเป็นภาษาอังกฤษ บางทีก็สนทนาเป็นภาษาฝรั่งเศส และสายล่าสุดเขาคุยเป็นภาษาจีน

ปองรักมองหน้าเขาแบบทึ่ง ๆ ‘คนอะไรเก่งเป็นบ้าเลย’

“เธอยังไม่ได้รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าออกเลยใช่ไหม เดี๋ยวไปยกลงมาให้หมด”

เขาออกคำสั่งเหมือนเช่นเดิม เมื่อรถยนต์ของเขาจอดสนิทอยู่ที่หน้าหอพักพนักงาน

“เอ่อ...” ปองรักมีลังเล

“ผมสั่ง...” เขาทำเสียงเข้ม เธอมองใบหน้าของเขาก็เห็นคำตอบ

‘ใช่สิ เขาจ่ายแกเป็นล้านยายจิล อย่ามาทำเป็นอ้อยอิ่ง’ เธอบอกกับตัวเอง รีบเปิดประตูลงรถ หยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่วางเอาไว้ แล้วรวบเอาชุดนักศึกษาที่มีไม่กี่ตัวลงกระเป๋า และหยิบเอาถุงผ้าที่ใส่ชุดชั้นในยัดลงไป รีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ของใช้เพียงไม่กี่ชิ้นที่พอจะยัดมาในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ๆ นี้ได้

“ช้าจัง” เสียงฟาเบียนดังอยู่ที่หน้าประตูห้อง

“เสร็จแล้วค่ะ” เธอรีบหันหน้ามาตอบ เดินหิ้วกระเป๋าออกมาจากห้อง ชายหนุ่มคว้ามันมาถือไว้ ก่อนจะเดินนำลิ่วกลับลงไปตามทางเดิน

แม่บ้านคนดูแลหอพักรีบวิ่งออกมายกมือไหว้เจ้านาย เธอส่งยิ้มให้ปองรักอย่างเป็นมิตร แต่สายตาก็มองออกว่ามีคำถามที่ข้องใจอยู่ในสายตานั้นมากมาย ปองรักยกมือไหว้ลา และรีบเดินตามฟาเบียนไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

ณ บ้านหลังใหญ่ของ ฟาเบียน ฟรองซัว

“เอากระเป๋า และถุงนั้นไปเก็บไว้ที่ห้องที่เตรียมเอาไว้ แล้วก็ตั้งโต๊ะอาหารที่ระเบียงชั้นลอยของห้องทำงานนะ” เขาพูดโดยไม่มองหน้าของคนรับใช้เลย

“ค่ะ” นางรีบรับคำ และมีหญิงสาวรุ่น ๆ อีกคนมาคอยช่วยหยิบจับข้าวของ

เขาหันมาหาปองรักทั้งตัว

“ต่อไปให้เรียกคุณจิลนะ คุณจิลจะมาอยู่ที่นี่เป็นเวลาหกเดือน” ก่อนที่เขาจะปรายตามองไปยังคนรับใช้ที่ยืนรอรับคำสั่งอื่น ๆ เพิ่ม

“ป้าสายหยุดกับลัดดา” เขาเอ่ยแนะนำสาวใช้สองคน ปองรักรีบยกมือไหว้ผู้หญิงที่แก่กว่า และหันไปส่งยิ้มให้กับเด็กสาวรุ่น ที่นายบอกว่าชื่อ ลัดดา

บทก่อนหน้า
บทถัดไป