บทที่ 7 ทำไมทำกับฉันแบบนี้คะ

ความรู้สึกของช่องทางภายในเต้นยิบ ๆ ขมิบตอดตัวเองจนตัวเธอเกร็งเขาประชิดท่อนแกร่งไปบนกลีบพรูที่เพิ่งถูกเขาประเดิม ฟาเบียนสังเกตเห็นมีทั้งเมือกขาว ๆ และสีแดงปะปนกันอยู่ เธอคงเจ็บมาก แต่เกมนี้เขายังไม่จบง่าย ๆ ชายหนุ่มบดแทรกตัวใหญ่เข้าไปอย่างรวดเร็ว

‘จะทำยังไงได้ แม่สาวน้อยเอ๋ย ไม่รู้เสียแล้วว่า ฟาเบียนรักความรุนแรง’

เขากระทุ้งเข้าไปอย่างสุดแรง สองมือของปองรักยึดขอบโต๊ะเอาไว้แน่น ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากหยัดตัวรอรับการกระแทกจากเขาจนกว่าเขาจะหนำใจ

เสียงเนื้อกระทบกันดังปับ ๆ ๆ ๆ และเสียงร้องครางครวญที่ออกมาจากปากหญิงสาวไม่ขาด เธอร้องออกมาอย่างลืมอาย ไม่รู้คนที่อยู่นอกห้องนี้ไปจะได้ยินเสียงสัมภาษณ์งานแบบใหม่ของฟาเบียนกับนักศึกษาฝึกงานคนใหม่หรือเปล่า

เธอกรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า หัวสมองขาวโพลนไปหมด น้ำตาที่เต็มไปด้วยความซ่านเสียวแบบสุดใจไหลริน เขายังกระชั้นกระแทกท่อนแข็งใหญ่โตจนร่างเล็ก ๆ สะท้านสะเทือน ฟาเบียนดึงตัวเองออก รั้งรวบเอวของเธอ แล้วผลักร่างเล็ก ๆ ให้นั่งลงไปบนเก้าอี้ที่เธอนั่งเมื่อครู่ ส่งปลายหัวมนยัดเข้าไปในปากที่เผยอร้องออกมาด้วยความรัญจวน กดท่อนลำเข้าไปจนลึกสุด แล้วพ่นพิษเข้าไปในลำคอของหญิงสาว เธอแทบสำลัก

“กลืนมันลงไปเดี๋ยวนี้ปองรัก” เขาทำเสียงเข้ม สีหน้าพอใจ และสูดปากส่งเสียงออกมาอยู่ตลอดเวลา

เธอสบตาเขาด้วยน้ำตาคลอหน่วย รีบกลืนสิ่งที่เขายัดเยียดเข้าไปในคอเธอแบบพะอืดพะอม พอเขาชักมันออกเธอก็ทำเหมือนจะอ้วก ชายหนุ่มรั้งร่างเธอขึ้น และประกบริมฝีปากของเขาลงไปในทันที ปลายลิ้นตวัดรัดรึงปลายลิ้นของเธอแบบพัวพันสองมือของเขายังบีบเค้นสะโพกแน่น ๆ ของเธออย่างไม่รามือ

“เก่งมากแม่สาวน้อย” เขาชมเธอเปาะ เมื่อผละริมฝีปากออกมา ก่อนจะยกนิ้วกรีดเช็ดน้ำตาให้

“ฉันถูกใจเธอนะ เธอได้ทำงานที่นี่ ฉันให้เธอเป็นเลขา เดี๋ยวจะให้คนมาตั้งโต๊ะของเธอเอาไว้ที่ในห้องนี้ และหน้าที่ของเธอคือทำให้ฉันมีความสุข” เขาบอกเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ปองรักหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เธอทั้งเจ็บและก็อาย ตอนนี้อยากจะร้องไห้สุด ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เขาปล่อยร่างเธอเป็นอิสระ หญิงสาวรีบจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้อยู่ในสภาพปกติ ไม่ลืมไปหยิบกางเกงในและกระโปรงที่หล่นลงไปอยู่ที่พื้น ด้วยหญิงสาวรู้สึกร่องรักของเธอยังตอดขมิบไม่หยุด เจ็บร้าวจนยืนแทบไม่อยู่ ขาสั่นไปหมด เธอหันหลังให้เขา แล้วใส่กางเกงใน และกระโปรงอย่างรวดเร็ว

ฟาเบียนหยิบกางเกงของตัวเองไปพาดที่เก้าอี้ แล้วบรรจงสวมมันอย่างช้า ๆ สายตาของเขาก็ยังจับจ้องอยู่ที่ร่างบางที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

“นั่งลง” เขาออกคำสั่งกับเธออีกครั้ง

ปองรักยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง เธอค่อย ๆ นั่งลงต่อหน้าเขา พลางยกมือขึ้นจัดผมเผ้าที่ตอนนี้กระเซิงไม่เป็นทรง

“เอาเท่าไร” เขาถามเธอออกมาตรง ๆ หยิบเช็คที่อยู่ในลิ้นชักออกมาวางไว้ตรงหน้า

“หนึ่งล้าน” เธอพูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา พยายามบังคับตัวเองไม่ให้น้ำเสียงแกว่ง

“เธอคิดว่าฉันจะจ่ายให้ค่าพรหมจรรย์ของผู้หญิงมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ปองรักรู้สึกเจ็บไปถึงขั้วหัวใจ เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะของเขา เธอก็อยากจะกรีดร้องออกมา

ฟาเบียนเขียนเช็คให้ปองรักหนึ่งล้านจริง ๆ เขายื่นมันมาตรงหน้าของเธอ

“ปกติฉันจ่ายไม่ถึงล้านนะ แต่เที่ยวนี้ฉันบอกได้เลยว่าประทับใจ แต่...” เขาเว้นระยะการพูด เธอถอนหายใจออกมาเสียงดัง ช้อนสายตามองเขาอย่างเจ็บใจในตัวเอง

“นี่เป็นค่าจ้างตลอดการฝึกงานอยู่ที่นี่ และเธอต้องขึ้นเตียงกับฉันทุกเวลาที่ฉันต้องการ” ปองรักเหมือนโดนตบหน้าแรง ๆ เธอหน้าชาไปหมด เอื้อมมืออันสั่นเทาไปรับเช็คที่เขาโยนมันมาไว้ตรงหน้า

“กลับบ้านได้แล้ว กลับมาทำงานอาทิตย์หน้า เริ่มงานวันจันทร์ นั่นห้องน้ำ เข้าไปเช็กสภาพตัวเองก่อนจะออกจากห้องของผมไป”

หญิงสาวรู้สึกตัวเองไม่มีค่าอะไรเลยตอนนี้ พอขาก้าวพ้นเข้าประตูห้องน้ำไป และปิดประตูสนิท ทำนบน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างรวดเร็ว เธอปิดปากตัวเองร้องสะอึกสะอื้นอยู่ในนั้น

ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... เสียงประตูห้องน้ำถูกเคาะถี่

“อย่าพิรี้พิไรอยู่ในนั้นนะ ผมให้เวลาคุณอีกแค่ห้านาที” เขาส่งเสียงดุเข้ามา

ปองรักรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว ล้างหน้าล้างตา และบ้วนปาก เธอหยิบแป้งพัพขึ้นมาตบ ๆ และหาลิปแท่งเดิมขึ้นมาทา เธอนั่งลงไปที่โถชักโครก ฉีดน้ำชำระคราบคาวโลกีย์ของชายหนุ่มออกไปให้หมดพอเธอเปิดประตูออกมาก็ไม่เห็นเขาอยู่ตรงนั้นแล้ว

“น้องปองรักคะ เดี๋ยวรถของที่นี่จะไปส่งให้ดูหอพัก แล้วจะไปส่งที่คิวรถตู้นะคะ อย่างที่บอสบอก เริ่มงานวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่ไปดูหอพักแล้วรับกุญแจที่แม่บ้านคนคุมหอพักได้เลยนะจ๊ะ”

“ขอบคุณค่ะ” ปองรักยกมือไหว้ขอบคุณเลขานุการสาว แต่ก็ไม่กล้าสบสายตากับเธอเลยสักนิดเดียว

หญิงสาวเดินกลับออกไปด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว มันเหมือนตายทั้งเป็นเลย

‘พ่อจ๋า แม่จ๋า จิลรักพ่อกับแม่นะ จิลจะทำทุกอย่างเพื่อพ่อกับแม่ค่ะ’ เธอบอกรักพ่อแม่ ท่านทั้งสองเหมือนกับเป็นยาชูกำลัง และเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะปลอบใจตัวเองได้ดีที่สุดในขณะนี้

สายตาคู่นั้นของฟาเบียนมองตามหลังปองรักไปด้วยความอาวรณ์ เขาน่าจะได้กระแทกเธอต่ออีกทั้งคืน แต่ไม่เป็นไร อดเปรี้ยวเอาไว้กินหวาน เขายิ้มยกอย่างยินดีมากมาย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป