บทที่ 7 บทที่ 7
ปราณต์หงุดหงิดตัวเองที่ความคิดนั้นทำให้เขาเกิดอาการร้อนรุ่มในใจแปลกๆ
‘เป็นบ้าอะไรวะปราณต์หยุดคิดเดี๋ยวนี้ นัสรินก็แค่ผู้หญิงมากเล่ห์ที่เคยร่วมมือกับปรัชญ์ล่อลวงเขาให้แต่งงานด้วยเท่านั้น ความรู้สึกเดียวที่เขามีให้เธอ นั่นก็คือรังเกียจการกระทำ ความรู้สึกอย่างอื่นมันไม่เคยเกิดขึ้น และจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ๆ’
“สวัสดีค่ะหมอปราณต์” นัสรินเอ่ยทักทายเสียงติดจะสั่นๆ แม้จะเริ่มตั้งสติได้บ้างแล้วก็ตาม ทำไมเธอจะต้องตื่นเต้นในเมื่อเขาออกจะมองมาอย่างเย็นชาและดูเหมือนจะหงุดหงิดมากด้วยซ้ำที่เห็นเธอปรากฏตัวที่นี่ แต่เธอไม่ได้ตั้งใจมาพบเขา คนที่อยากพบมากที่สุดตอนนี้ก็คือหมอชัชวาลต่างหาก
“ผมอนุญาตให้เรียกผมว่าหมอปราณต์ได้ เฉพาะคนไข้ของผมเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่ใช่คนไข้ ผมไม่อนุญาตให้เรียก” ปราณต์พูดเสียงแข็งกระด้าง
“ขอโทษค่ะ...คุณปราณต์” นัสรินจำต้องกล่าวขอโทษ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก้อนแข็งๆ แล่นขึ้นมาจุกในคอจนแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ปราณต์ก็ยังใจร้ายกับเธอไม่เคยเปลี่ยน คำว่า ‘หมอปราณต์’ ที่เธอเรียกเขานั้นออกจะเป็นคำพูดที่ให้เกียรติด้วยซ้ำ คนที่บ้านของเขาบางคนก็เรียกเขาแบบนี้ แต่คงจำเพาะแต่เป็นเธอกระมังที่ไม่ว่าพูดหรือทำอะไร ก็ดูผิดและไม่ถูกใจเขาไปเสียหมด
“มาทำอะไรที่นี่” ปราณต์ถามต่อเสียงห้วนๆ แม้จะพอเดาออก ว่าตัวแทนจากบริษัทยาที่นัดกับหมอชัชวาลเอาไว้ ก็คือนัสรินเมียเก่าของเขานั่นเอง
“นัสมาพบอาจารย์หมอชัชวาล เพื่อคุยเกี่ยวกับยาตัวใหม่ที่จะเสนอขายให้โรงพยาบาลค่ะ” นัสรินบอกออกไปด้วยเสียงที่ยังสั่นอยู่เช่นเดิม เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองเลยสักนิด แม้ว่าจะผ่านชีวิตมาจนตอนนี้อยู่ในฐานะแม่หม้ายแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะยามที่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่มีอิทธิพลกับหัวใจตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งตัวเช่นนี้
“แต่แต่งตัวเหมือนจะมาขายอย่างอื่นด้วยนะ”
“นัสมาขายยาค่ะ ไม่ได้มาขายตัว” นัสรินเผลอตอบโต้เมื่อรู้ดีว่าความหมายของปราณต์คืออะไร
“ก็ลองเสนอขายทั้งตัวขายทั้งยาสิ เผื่อว่าจะขายดีกว่าเดิม”
“คุณปราณต์! นัสขอร้องละนะคะเลิกพูดจาดูถูกนัสเสียที หากคุณไม่พอใจที่เจอนัส นัสก็ขอโทษด้วย แต่นัสเองก็ไม่ได้อยากจะเจอคุณ นัสมาพบอาจารย์หมอชัชวาลค่ะ” หญิงสาวเน้นย้ำวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน แต่นั่นยิ่งไม่ถูกใจคนฟังมากกว่าเดิม โดยเฉพาะที่เธอบอกว่า เธอเองก็ไม่ได้อยากพบเขา
“อาจารย์หมอไม่ว่าง ให้ผมมาคุยแทน”
“ถ้าคุณปราณต์ไม่สะดวกจะคุยกับนัสก็ไม่เป็นไร นัสจะรออาจารย์หมอว่าง แล้วค่อยมาคุยใหม่กับท่านเองค่ะ” นัสรินเสนอทางออก แล้วขยับไปหยิบเอาโทรศัพท์และกระเป๋าสะพายของตัวเองเพื่อจะกลับไปตั้งหลักใหม่
“อาจารย์ให้ผมมาคุยและตัดสินใจแทนแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคุณ ‘อยากขาย’ ก็ต้องทำให้ผมพอใจ”
นัสรินหน้าแดงกับบางคำพูดที่เขาจงใจเน้นเพื่อเย้ยหยันเธอในเรื่องเก่าๆ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปราณต์ถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก ทั้งๆ ที่ในช่วงที่เข้าพิธีแต่งงานกันตอนเช้า เขาก็ยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองหรือไม่พอใจใดๆ ออกจะมองเธอเหมือนเห็นใจด้วยซ้ำ แต่เขาคงคิดได้ทีหลังว่าเธอไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลยกระมัง ที่ยอมตกลงแต่งงานกับลูกชายเจ้าหนี้ถึงสองคน พอพลาดจากคนน้องก็แต่งกับคนพี่แบบแทบจะไม่คิดอะไร
“แล้วนัสต้องทำยังไงล่ะคะคุณถึงจะพอใจ”
“ผมหิวแล้ว”
คำตอบของเขาทำให้นัสรินถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะดูว่าปราณต์จะรวนเธอไปเสียทุกทาง หญิงสาวพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงาน เธอเดินทางมาไกลจากกรุงเทพฯ อยากปิดจ็อบให้ได้ในวันนี้วันเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางมาที่เชียงใหม่และเจอปราณต์อีก
“งั้นนัสจะรออยู่ที่นี่นะคะ คุณปราณต์ทานข้าวเสร็จ ค่อยกลับมาคุยก็ได้ค่ะ”
“ผมไม่ชอบให้ใครรอ เพราะมันจะทำให้ผมทานข้าวไม่อร่อย”
“คุณปราณต์จะให้นัสทำยังไงคะ”
“ก็ไปกับผมสิ”
“แต่นัสไม่หิวค่ะ”
“ไม่หิวหรือไม่กล้าไปกับผัวเก่าสองต่อสองกันแน่” ปราณต์ทำเสียงหมิ่นๆ พร้อมก้มลงจ้องมองหน้าอดีตภรรยาอย่างท้าทายแกมรู้ทัน
นัสรินหน้าร้อนซ่านเมื่อได้ยินคำว่า ‘ผัวเก่า’ จากปากของปราณต์ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นสีหน้าและแววตาของเขาก็เหมือนกับท้าให้เธอพิสูจน์ตัวเอง ว่าเธอไม่ได้มีเยื่อใยอะไรกับเขาแล้ว หากเป็นคนอื่นที่มั่นใจในตัวเองมากกว่าเธอ คงรับคำท้าของเขาไปแล้ว แต่นัสรินรู้ดีว่าปราณต์พูดเฉียดความจริงแค่ไหน
“นัสก็แค่...”
“กลัวผัวใหม่จะว่าเอา” ปราณต์รีบเอ่ยดักคอ
“นัสยังไม่มีผัวใหม่ค่ะ” หลุดปากไปแล้วนัสรินก็นึกอยากกัดลิ้นตัวเอง เพราะปราณต์อาจจะนึกหัวเราะเยาะเอาได้ว่าเธอไม่มีปัญญาหาผู้ชายอื่นมาแทนที่เขา นัสรินคิดในทางร้ายๆ โดยไม่รู้หรอกว่า คำพูดนั้นทำให้คนฟังแอบโล่งใจแค่ไหน
“อ้อ...ยังไม่มีปัญญาหาผัวเองเหมือนเดิมสินะ”
คำพูดดังกล่าวติดจะหยันๆ ทั้งๆ ที่ในใจนั้นลิงโลดอย่างบอกไม่ถูก ปราณต์ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขากลายเป็นผู้ชายปากจัดตั้งแต่เมื่อไหร่ หรืออาจจะเพิ่งเป็นตั้งแต่ตอนที่เห็นนัสรินเดินเข้ามา หรือเป็นตั้งแต่ที่ได้ล่วงรู้ถึงแผนการของน้องชายกับอดีตภรรยาอย่างนัสรินในวันแต่งงานของเขากับเธอ
“ค่ะ นัสรอคุณพ่อกับคุณแม่หาคนใหม่ให้อยู่ค่ะ” นัสรินยอมรับง่ายๆ ในลักษณะเหมือนประชดกลับไป ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มาปะทะคารมกับคนที่ตัวเองไม่เคยตัดใจจากเขาได้เลย
“ว่านอนสอนง่ายดีนี่ ไปเถอะผมหิวแล้ว”
จบคำร่างสูงก็ก้าวยาวๆ นำหน้าไปยังประตู ทำให้นัสรินจำต้องเดินตาม ไหนๆ ก็เผชิญหน้ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว อดทนต่ออีกสักชั่วโมงจะเป็นไรไป
