บทที่ 4 ฉันชอบเขาแหละ

"อากาศมันหนาวเย็นนะชมพู ชมพูเข้ามานอนกับพี่....มา" น้ำเสียงแหบพร่าก็จริง แต่มีแววจริงจัง

"ไม่เป็นไรค่ะ"

"ไม่เป็นไรได้ไง ชมพู....เข้ามานอนเดี๋ยวนี้ พี่สั่ง" เขาทำเสียงเขียวดัง

เธอนิ่งอึ้ง แต่ภารันย์กระตุกข้อเท้าของเธออีกที

"อย่าดื้อกับพี่" เขาพูดเสียงเบาลง เธอรู้ว่าเขาอ่อนแรงมาก ๆ เช่นกัน

ชมพูพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง

ฟ้าฝนช่างไม่เป็นใจ คำรามลั่น ตอนนี้อึกทึกลั่น มีแสงฟ้าแลบแปล๊บ ๆ ชวนตกใจ ฟ้าผ่าลงมาดังสนั่น

ชมพูผวาเฮือก ใจร่วงไปอยู่ไหนไม่รู้ เอื้อมมือที่สั่นเทาจับยึดมือของภารันย์ก่อนจะสอดตัวแทรกกายเข้าไปนอนลงในถุงนอนกับเขา

ร่างใหญ่สั่นสะท้าน แขนที่หักเริ่มบ่งบอกอาการ พิษไข้สร้างความปั่นป่วนให้กับร่างกายของภารันย์จนเพ้อ

"แม่ครับ...แม่...อย่าไปจากผมนะครับ แม่...แม่..." เขาออกปากเรียกแม่ น้ำตาไหลอาบแก้ม

พิมพ์เพชรสะดุ้งตื่น เธอกอดกระชับเขาเอาไว้แน่น

ภารันย์ซุกหน้าไปในอ้อมอกของเธออย่างโหยหา ตอนนี้ร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

"พี่เล็ก พี่เล็กขา ชมพูเองค่ะ" เธอบอกเขาเมื่อเห็นแขนข้างที่ไม่เจ็บกอดรัดร่างของเธอเอาไว้แน่น

เสียงสะอึกสะอื้นเหมือนเพ้อทำให้เธอพยายามเอื้อมมือไปหยิบโคมไฟเล็ก ๆ ก่อนจะเปิดมัน แสงสว่างพอจะทำให้เห็นใบหน้าของภารันย์เริ่มมีสี และน้ำตาซึม

"อย่าทิ้งเล็กนะครับแม่" เขายังเอื้อนเอ่ยออกมาแบบไม่รู้ตัว

"ค่ะ ชมพูจะอยู่กับพี่ เธอกอดปลอบประโลมเขา ภารันย์มีท่าทีสงบลง และลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ

พิมพ์เพชรถอนหายใจออกมา เธอรีบขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างแผ่วเบา ๆ ภารันย์ขยับตัวนอนหงาย เม็ดเหงื่อยังเต็มใบหน้า หญิงสาวคว้าผ้าได้ก็เริ่มเช็ดตัวให้เขาอีกครั้ง

"เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทาง ลูกเป็นคนดีนะคะ พี่เล็กก็เป็นคนน่ารัก ช่วยปกปักรักษาเราสองคนด้วยนะคะ" เธอพนมมือขึ้นเหนือหัวก่อนจะก้มลงกราบพื้นกระท่อม

หญิงสาวปลุกเขาให้ลุกขึ้นมากินยาอีกครั้ง

ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีที่ชมพูเช็ดเนื้อตัวให้เขา ภารันย์ตัวเริ่มเย็นและมีอาการสั่นสะท้านอีกครั้ง

"หนาวจังครับ ทำไมหนาวอย่างนี้" ปากที่ซีดสั่นกระทบกันดังกึก ๆ ชมพูมองเขาด้วยความสงสาร

"โธ่... ชมพูจะทำยังไงดี" หญิงสาวเริ่มกังวล มือของเธอประสานจับมือของเขาเอาไว้แน่น

เสียงป่าตอนดึกสงัดก็ทำให้เธอหวั่นในหัวใจลึก ๆ กลัวไปเสียหมด ดีที่ว่าฝนหยุดตกแล้วจึงทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง

"พี่เล็กอดทนนะคะ เมื่อฟ้ามีแสงส่อง ชมพูจะรีบไปตามคนมาช่วยพี่เล็กเลยค่ะ พี่เล็กต้องอดทนนะคะ" หญิงสาวน้ำตาซึม รู้สึกสงสารเขาจับหัวใจ

"ชมพูพี่หนาว" เขาเรียกชื่อเธอ

พิมพ์เพชรรีบเช็ดน้ำตา ในนาทีนั้นเธอตัดสินใจถอดเสื้อของเขาออก และถอดเสื้อผ้าของตัวเองเหลือเพียงแต่ชุดชั้นใน หนาวกายความอบอุ่นจากผิวกายเท่านั้นที่จะทำให้คลายหนาวได้ หญิงสาวสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าผืนเดียวกับเขา

ชมพูกอดพี่เล็กเอาไว้แน่น ปรารถนาให้ความอุ่นในตัวเธออาจจะพอทำให้ภารันย์ทุเลาอาการหนาวสั่นลงได้ภารันย์ซุกหน้าแนบไปกับลำตัวขาวนวลและหน้าอกอ่อนนุ่ม เขาพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะหยุดขยับเมื่อได้ท่า ความรู้สึกอุ่นใจและทุกอย่างสงบลง เขาก็หลับลงไปด้วยพิษไข้  แต่ตัวหญิงสาวกลับใจเต้นแรง

'นี่เธอกำลังทำอะไร' ชมพูถามตัวเอง

"ช่วยพี่เล็กไง เธอกำลังช่วยให้พี่เล็กอบอุ่น พี่เล็กคะ พี่เล็กได้โปรดอย่าเป็นอะไรนะคะ"

กว่าใจจะสงบหยุดเต้นดังก็จวนเวลาดึก เธอเป็นห่วงภารันย์จนไม่กล้านอน แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อน  ชมพูเพลียหนักจนผล็อยหลับไปตอนหกโมงเช้า

เสียงอึกทึกจากนอกกระท่อม ทำให้หญิงสาวตื่นจากการหลับใหลแต่ยังคงลืมตาไม่ขึ้น ในหัวของเธอก็รู้สึกหนักอึ้งไปหมด เพราะร่างกายพักผ่อนไม่พอ และตามเนื้อตัวของเธอก็บอบช้ำไม่ต่างกับภารันย์ อีกทั้งโดนเม็ดฝนไปเต็ม ๆ จนเปียกปอน

"ภารันย์..."

"ชมพู..."

"พิมพ์เพชร..."

"ไอ้เล็ก..."

ชื่อของทั้งสองคนถูกเรียกออกมาจากปากของคนที่เดินตามหา พวกเขาก็วางแผนกันและเริ่มออกเดินมาตั้งแต่ตีห้า เห็นร่องรอยปรากฏตามที่เดือนเด่นบอก จึงพากันไต่เขาลงมา แล้วก็เห็นร่องรอยการเหยียบย่ำของทั้งสองคนเป็นทางห่างจากที่ทั้งสองคนตกมาไม่ไกลนัก

"อยู่นั่นไงครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้น ชี้ไปยังกระท่อมที่มีเสื้อผ้าของทั้งสองคนตากอยู่เต็มไปหมด

ฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวขึ้นมาบนกระท่อม ก่อนจะจัดการสิ่งที่กีดขวาง และเข้ามาถึงตัวทั้งสองคน

พิมพ์เพชรลืมตาขึ้นมองทุกคน เธอได้ยินเหมือนเสียงกดชัตเตอร์ และความโกลาหลก็เกิดขึ้น

ทั้งภารันย์และพิมพ์เพชรได้รับความช่วยเหลือจากผู้นำหมู่บ้านละฮู อาสาสมัครป้องกันดินแดน ทหารที่ประจำแถว ๆ นั้น และรุ่นพี่ พร้อมเพื่อนผู้ชายที่ออกกันตามหาเธอ

ข่าวลือหนาหู ว่าสภาพที่เจอทั้งสองคน คือ พิมพ์เพชรและภารันย์ต่างเนื้อตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อนนอนก่ายกอดกันทั้งคืน

ทั้งสองคนถูกลำเลียงขึ้นจากก้นเหวนั้น และพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอำเภอ แต่ภารันย์อาการหนัก เขาตกลงมาโดยกระแทกลำตัวลงไปกับของแข็ง ที่ไข้ขึ้นจนเพ้อ เพราะภารันย์มีอาการเลือดซึมจากบาดแผลภายในช่องท้อง โชคดีที่ยังไม่มาก แต่อาการก็ยังน่าเป็นห่วง เขาจึงถูกส่งให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองเชียงใหม่อย่างด่วน ข่าวของภารันย์และพิมพ์เพชรจึงกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในมหาวิทยาลัยตลอดทั้งสัปดาห์แห่งการเปิดภาคเรียน

ภารันย์มีอาการหลอดเลือดแตกซึมในช่องท้อง ครอบครัวจึงส่งตัวเขาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้เขาได้รับการรักษาโดยด่วน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป