บทที่ 2 บทที่ 2
“เก็บเงินไว้ในกระเป๋าเสี่ยเถอะค่ะ หนูอยากแก่ตายมากกว่าอยากถูกเมียเสี่ยฉีกอกหรือไม่ก็เอาปืนไล่ยิงจนตาย” พีรกานต์ตอบ
“เมียเมออะไรที่ไหนมี เสี่ยยังโสดไม่มีเมียให้ปวดหมองหรอกจ้ะ”
“เหรอคะ แต่ถึงยังไง ก็ไม่ดีกว่าค่ะ เชิญเสี่ยหาคนอื่นแทนล่ะกัน” หญิงสาวตอบอย่างสุภาพเพราะไม่อยากเสียลูกค้า ก่อนจะรีบเดินเลี่ยงมา แต่ก็ยังไม่วายมีมือหนาของใครบางคนมาจับก้นงอนงามของเธออีก
พีรกานต์หันขวับไปมองไอ้แขกชีกอคนนั้นอย่างฉุนกึก
“ไง น้องสาว มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะคนสวย” คนพูดท่าทางเมามายกลิ่นเหลาฉุนกึก แถมยังเดินเซแซดๆ แทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ
พีรกานต์ไม่อยากมีเรื่องกับคนเมา เธอจึงสะบัดหน้าพรืดจะเดินหนีไป แต่มือหนาๆ นั้นก็ยังมาฉุดแขนเรียวเอาไว้อีก
“ปล่อยค่ะ”
“ไม่ปล่อย มีอะไรมั้ยจ๊ะคนสวย” คนเมาไม่พูดเปล่ายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนหญิงสาวต้องเบนหน้าหนีเพราะขยะแขยงและเหม็นกลิ่นเหล้าที่คละฟุ้ง
“ทำเป็นรังเกียจ พี่มีเงินเยอะนะ ไม่สนหน่อยเหรอ”
“ไม่ค่ะ แล้วก็กรุณาปล่อยมือออกจากแขนของฉันได้แล้ว” พีรกานต์บอก ข่มความโกรธเอาไว้ในใจ
“อย่าเล่นตัวนักเลย ต้องการเท่าไหร่ พี่ให้ได้ทั้งนั้น” คนเมาบอก คราวนี้หญิงสาวสะบัดแขนแรงจนหลุดออกจากการเกาะกุม ในขณะที่คนเมาเซถลาไปอีกทาง ก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าข้างในไป
พีรกานต์กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ยุพาสาวเสิร์ฟที่อายุมากกว่าก็เข้ามาตาม
“น้ำหวาน เสี่ยเรียกให้เข้าไปพบที่ห้องน่ะ”
“จ้ะ เดี๋ยวไป” พีรกานต์บอก เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินค่าจ้างที่ตกลงกันเอาไว้
หญิงสาวจึงรีบเปลี่ยนชุด และเดินเข้าไปพบเสี่ยมานพในห้องทำงานทันที แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป กลับพบว่าเสี่ยมานพไม่ได้อยู่คนเดียว แต่มีชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มรูปร่างสูงใหญ่ใส่สูทสีดำสนิทนั่งอยู่ด้วย
“เสี่ยเรียกน้ำหวานหรือคะ” หญิงสาวเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ที่ชายหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่
“ใช่ คือว่ามีคนต้องการพบน้ำหวานน่ะ” เสี่ยมานพบอก สีหน้ากระอักกระอ่วนใจ
“ใครคะ” พีรกานต์ถาม
เสี่ยมานพลุกขึ้นยืนเดินมาหาหญิงสาว และกระซิบบอกเธอ
“แขกคนพิเศษ เขาบอกด้วยว่าถ้าน้ำหวานไม่ออกไปพบเขา เขาจะปิดร้านนี้”
“อะไรนะคะ!” หญิงสาวถามเสียงดัง ตวัดตาคมดุมายังชายหนุ่มที่นั่งเฉยอยู่ทันควัน “นี่คุณ...คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ คุณมีสิทธิ์อะไรจะมาปิดร้านนี้ บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะคุณ ไม่ใช่นึกอะไรก็ทำแบบนี้” เธอโวยวายใส่เขา
“นี่...หนูน้ำหวานอย่ามีเรื่องกันเลยนะ เขาแค่มาเชิญหนูไปพบคนๆ หนึ่งเท่านั้นจ้ะ” เสี่ยมานพบอก เขาอาจจะเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากเสียลูกค้ากระเป๋าหนักแบบนี้ไป แต่เพื่อความอยู่รอดของร้านและทุกชีวิตที่ทำงานอยู่ในนี้แล้ว เขาจำเป็นต้องทำ
พีรกานต์มองหน้าเสี่ยมานพ และได้เห็นความกังวลเต็มเปี่ยมในดวงตาคู่นั้น เธอก็ใจอ่อน แม้ว่าหญิงสาวจะทำงานที่นี่มาไม่กี่เดือน แต่เธอก็รู้สึกรักและเคารพเสี่ยมานพเหมือนญาติผู้ใหญ่คนนึง รวมถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ทำงานด้วยกัน เธอก็รักและผูกพันกับทุกคน
พีรกานต์ถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าให้เสี่ยมานพ
“ก็ได้ค่ะ เห็นแก่เสี่ยที่น้ำหวานเคารพรักหรอกนะ ถ้าไม่ใช่เสี่ยขอร้องอย่าหวังเลยว่าน้ำหวานจะยอม” พีรกานต์บอก
ไฮซานที่นั่งรอท่าอยู่ลุกขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบรับ ก่อนจะเดินนำหน้าหญิงสาวไป เขาแอบซ่อนรอยยิ้มเอาไว้บนใบหน้า เมื่อคิดว่าชีคหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะเจอคู่ปรับที่มีท่าว่าจะแรงพอกันเสียแล้ว
พีรกานต์เดินตามร่างสูงของไฮซานไปจนถึงโต๊ะที่อยู่มุมสุด ตรงนั้นมีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ เขาแต่งกายแบบเดียวกับคนที่เดินนำเธอ และรูปร่างที่คงใกล้เคียงกัน ทว่าใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั้นที่แตกต่างกัน รวมถึงดวงตาคมกริบของเขาที่สวยสะดุดตา สองคนนี้ไม่ใช่คนไทย พีรกานต์สรุปในใจเงียบๆ
จาฟาร์มองร่างบางที่เดินตามไฮซานมาจนถึงโต๊ะที่เขานั่งอยู่ ดวงตาคมฉายแววปรารถนาออกมาเต็มเปี่ยมอย่างไม่ปิดบัง เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ มือใหญ่ของคนที่นั่งอยู่ก็กระตุกมือบางจนร่างบางเซถลาลงบนตักแข็งๆ ของเขา
“อุ๊ย! นี่คุณ จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ” พีรกานต์ร้องโวยวาย ดิ้นรนลงจากตักแข็งๆ
ร่างบางที่ดิ้นส่ายไปมาเบียดเสียดสะโพกงอนงามกับแก่นกายแข็งชันอยู่ใต้กางเกงสแล็คที่สวมอยู่ เพราะภาพของร่างบางที่เต้นยั่วยวนบนเวทีนั้น ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ จาฟาร์นั้นแทบทนไม่ไหวอยากร่วมรักกับเธอเสียเดี๋ยวนี้และตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มรวบร่างบางแน่นขึ้น ก่อนเอนร่างบางลงกับโซฟาสีดำที่ตนนั่งอยู่ โดยที่สะโพกมนยังอยู่บนตักแข็ง จาฟาร์ใช้แรงที่มีมากกว่ากดจุมพิตบนเรียวปากนุ่ม เพื่อควานหาความหวานที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน เมื่อริมฝีปากนุ่มเผยอออกและเขาสอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นเข้าไป หญิงสาวก็งับเรียวลิ้นนั้นแรงๆ ทันที
“โอ้ย” จาฟาร์ร้องลั่น และถอนเรียวลิ้นอุ่นออกมาทันควัน เขาใช้มือใหญ่บีบแก้มนุ่มไว้ ก่อนกระแทกริมฝีปากลงไปอย่างรุนแรงอีกครั้ง
พีรกานต์ยกมือไล่ทุบไปตามอกกว้างและบ่าแข็งแรงของเขา ทว่าเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับแรงเท่ามดของเธอ หญิงสาวได้แต่ดิ้นขลุกขลักไปมาอยู่บนตักกว้าง
“ถ้าเธอไม่หยุดดิ้น ฉันจะปล้ำเธอซะที่นี่ตอนนี้เลย” จาฟาร์บอกออกมาด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งปร่า ทำให้หญิงสาวหยุดดิ้นทันที
“ปล่อย” พีรกานต์บอก เธอทำตาดุเขียวปั๊ดใส่คนที่เธอไม่รู้ว่าเป็นชีคผู้ครองนครบาร์ยาเนีย จาฟาร์อยากหัวเราะออกมาให้ดังสุดๆ เลยจริงๆ เกิดมายังไม่มีผู้หญิงคนไหนทำตาดุใส่เขาเลยสักคน
