บทที่ 8 8
ลีลาทำสีหน้าเหมือนทั้งตกใจและแปลกประหลาดใจทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นล้วนมาจากข้อตกลงระหว่างเธอกับทศรัสมิ์ อณัศยายืนนิ่งเหมือนรูปปั้น หญิงสาวรู้สึกผะอืดผะอมเต็มทนหากก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เธอมองหน้ามารดาและอยากบอกลีลาเหลือเกินว่าทุกอย่างล้วนเป็นกับดักอันน่าสะพรึง หากแต่กลับเห็นรอยยิ้มระบายเต็มหน้ามารดา ลีลาเดินเข้าไปกอดบุตรสาวไว้และยิ่งประหลาดใจเมื่อทศรัสมิ์ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนสถานะเป็นลูกเขยของเธอยื่นบางสิ่งบางอย่างมาให้
“นี่เป็นใบทะเบียนสมรส...เพื่อเป็นการยืนยันว่าผมรับอณัศยาเป็นเมียจริง ๆ อย่างที่คุณน้าลีลาต้องการยังไงล่ะครับ”
อณัศยาทำหน้าแทบไม่ถูก เขาเน้นย้ำคำนั้นเหลือเกิน เป็นสามีถูกต้องตามกฎหมายอย่างที่แม่ของเธอต้องการ ฟังดูมันน่าเจ็บช้ำเพราะทุกอย่างที่เขาทำล้วนไม่ได้มาจากความรักทั้งสิ้น ลีลารับซองเอกสารและเปิดออกดู สีหน้าของสาวใหญ่แช่มชื่นขึ้นทันที ดูลีลาจะพออกพอใจเป็นอย่างมากโดยไม่รู้ถึงความเจ็บช้ำล้นอกของลูกสาว
“ตายจริง...แยมจ๋า...ดูคุณทศสิ...เขาทำแบบนี้ก็เพื่อจะยืนยันว่าแยมน่ะเป็นภรรยาของเขาถูกต้องตามกฎหมายจริง ๆ นะจ๊ะ”
คนฟังเหลือบมองสีหน้าของทศรัสมิ์ เธอมองเห็นแววตาหยามหยันนั้นแต่ลีลากลับมองเห็นแค่ความพึงพอใจของตัวเอง
“แม่คะ...หนู...”
“แยม...แม่ต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้บอกลูกล่วงหน้าเรื่องนี้ ก็คุณทศน่ะสิ...เขาตั้งใจที่จะกลับมาดูแลลูกจริง ๆ ตอนนี้แม่ก็ไม่เหลือใครแล้วและคุณทศก็ยินดีจะให้เราอยู่บ้านหลังนี้ แต่...เอ้อ...คุณทศคะ”
ลีลาหันไปทางทศรัสมิ์โดยไม่ได้จับสังเกตแววตาคมคู่นั้นที่แอบซ่อนความเกลียดชังไว้เป็นล้นพ้น
“มีอะไรหรือครับคุณน้า?”
“น้าขอบคุณมากนะคะที่คุณทศอุตส่าห์แสดงความจริงใจกับแยมด้วยการพาลูกสาวของน้าไปจดทะเบียนสมรส เอ้อ...แต่น้าก็อยากให้สังคมได้รับรู้ด้วยน่ะค่ะ”
คำพูดนั้นทำให้แววตาของทศรัสมิ์หม่นแสงลง “คุณน้าหมายถึงการจัดงานแต่งงานอย่างนั้นหรือครับ?”
ลีลาแสร้งอึกอักแต่ก็ยิ้มรับคำกล่าวนั้น “ค่ะ...ก็...จริง ๆ แล้วคุณธนาดลเป็นคนมีชื่อเสียงในวงสังคม ลูกชายของเขามีภรรยาทั้งทีก็ควรจะบอกกล่าวให้ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ของคุณธนาดลได้รับทราบด้วย”
“เมื่อไหร่ล่ะครับ?”
คำตอบรับทุกคำของทศรัสมิ์ยิ่งตอกย้ำความเจ็บซ้ำ ๆ ลงในอกของอณัศยา เขาทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ไม่มีผิด ไร้หัวใจและทำตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ นั่นคือล้างแค้นและทำลายโดยที่มารดาของเธอไม่ได้เฉลียวใจสักนิด
“เอาอย่างนี้แล้วกันนะคะ...วันนี้น้าจะไปที่วัดและขอฤกษ์แต่งมาให้คุณทศกับแยม ส่วนเรื่องการจัดงานเลี้ยงกับเชิญแขกน้าจะเป็นคนจัดการทั้งหมดเองค่ะ...แยมจ๋า”
ลีลาหันมาโอบไหล่บุตรสาวที่ยืนนิ่งโดยแทบไม่มีโอกาสได้แสดงออกซึ่งความเห็นใด ๆ เลย
“เดี๋ยวแม่จะออกไปข้างนอกนะ แยมอยู่กับคุณทศที่บ้านก็แล้วกันเพราะพึ่งกลับมาจากข้างนอกคงจะเหนื่อยนะจ๊ะ แม่จะไปดูฤกษ์แต่งงาน...แยมอยู่ที่นี่ล่ะ จะได้คอยดูแลคุณทศเพราะตอนนี้หนูกับคุณทศก็เป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะจ๊ะ”
ลีลากล่าวอย่างอารมณ์ดีก่อนหยิบกระเป๋าถือบนโต๊ะและเดินออกไปจากห้องรับแขกด้วยสีหน้าระรื่นปล่อยให้ชายหนุ่มหญิงสาวยืนมองหน้ากัน แต่ก่อนที่อณัศยาจะเป็นฝ่ายเดินออกไปก็ถูกทศรัสมิ์คว้าข้อมือไว้เสียก่อน
“คุณจะไปไหน...อณัศยา”
“แยมจะกลับไปที่ห้อง...ปล่อยนะคะ”
หญิงสาวบิดข้อมือแต่กลับถูกเขาบีบแน่นขึ้น
“จะรีบไปไหนล่ะ...ไม่ดีใจเหรอที่ได้เป็นเมียผม เห็นมั้ยว่าแม่ของคุณน่ะดีใจจนเนื้อเต้นที่ลูกสาวจะมีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาซะที!”
“คุณทศ!”
อณัศยาสะบัดข้อมือจนหลุดจากมือหนา เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บและไม่สามารถตอบโต้อะไรให้เขาเจ็บอย่างเธอได้ สุดท้ายแล้วหญิงสาวก็เลือกที่จะกลืนความรวดร้าวกลับเข้าไปในอกและเป็นฝ่ายหลีกห่างจากคนหยาบร้ายด้วยการวิ่งขึ้นบันไดเพื่อกลับไปที่ห้อง ทศรัสมิ์ไม่ยอมลดละ เขาวิ่งตามขึ้นไปและไม่ทันที่อณัศยาจะปิดบานประตูก็ถูกคนตัวใหญ่เอามือค้ำยันมันไว้เสียก่อน
“อณัศยา...กล้าดียังไงถึงวิ่งหนีผมมาแบบนี้”
“คุณทศ...ออกไปนะคะแยมอยากพักผ่อนค่ะ...โอ๊ย!”
หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อทศรัสมิ์กระชากมือเธอเข้าไปในห้องและปิดประตูลงดังปัง อณัศยากำลังจะขยับหนีแต่ไม่ทันแขนทรงพลังที่กอดกระหวัดร่างแน่งน้อยเข้าไปแนบอกกว้าง ชายหนุ่มขบกรามเสียงดัง
“จำไว้อณัศยา...คุณไม่มีสิทธิ์ไล่ผมซึ่งเป็นเจ้าของบ้านในทุกกรณี!”
“แยมไม่ได้ไล่คุณทศนะคะ แค่อยากพักผ่อนเพราะแยมเหนื่อยมากก็เท่านั้น”
“คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรถ้าผมไม่พอใจจะให้ทำ”
“อะไรนะคะ!” อณัศยาเบิกตากว้าง “แต่ว่า...”
“คุณเป็นเมียผมแล้วนะ ผัวสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำตามใจทุกอย่าง”
“แม้แต่เวลาจะพักผ่อนก็ทำไม่ได้อย่างนั้นเหรอคะ แยมว่ามันเกินไปแล้วนะคะคุณทศ”
“ไม่เลยสักนิด” ชายหนุ่มบีบไหล่บางทั้งสองและจ้องหน้าหญิงสาว “อย่าลืมว่าการแต่งงานระหว่างผมกับคุณมันเป็นเรื่องของข้อตกลง คุณเป็นแค่เงื่อนไขที่ถูกดึงเข้ามาในเกมแก้แค้นของผมเท่านั้น”
“คุณทศ...”
