บทที่ 4 Chapter .2 **มหาอำนาจตัวเอ้** 1
Chapter .2 มหาอำนาจตัวเอ้
“ลาออกไปซะ!! อย่าสะเออะมาให้ฉันเห็นหน้าอีกครั้ง... สิ่งที่แกทำลงไปฉันฝืนใจให้อภัยไม่ได้จริงๆ ว่ะ” เสียงตวาดก้อง ฝ่ามือหนาๆ กระแทกปังบนผิวโต๊ะดังปัง!! เมื่อลูกน้องในบริษัทริอ่านเอาความลับของบริษัทไปขายให้ฝ่ายตรงข้าม แต่ทีมงานของเขาจับได้เสียก่อน
“ได้โปรดเห็นใจผมเถอะครับ ผมจำเป็นต้องใช้เงิน” เสียงวิงวอนร้องขอความเห็นใจจากคนทรยศ ชายหนุ่มเบ้ปากกรอกตามองบน!! เขาอยากกระแทกหน้าไอ้หมอนี่เต็มทน หนอยๆ ทำเป็นอ้างความจำเป็น ใครๆ ก็มีเรื่องเดือดร้อนกันทั้งนั้นแหละ แต่ไม่มีใครกล้าทรยศเขา ไม่มีใครกล้าสร้างความสูญเสียให้กับอู่ข้าวอู่น้ำของตัวเอง
“ที่ฉันให้แกลาออก นี่ยังไม่ใช่ความเมตตาอีกรึ!!” เสียงเย็นเฉียบตอบกลับไป เขาผินตัวมองไปทางอื่น กลัวจะกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่ เดี๋ยวไอ้หมอนี่จะกลายเป็นที่รองมือรองตีนของเขาเสียเปล่าๆ
“แต่ผมไม่มีที่ไป... ผมอยู่กับโรเรนโซ่มาตั้งแต่สมัยคุณท่าน...ผมอายุมากแล้ว จะไปหางานที่ไหนทำได้ล่ะครับ”
“ถามหน่อย...ฉันต้องใส่ใจคนที่คิดร้ายกับฉันด้วยรึ? อย่างนี้ฉันไม่ต้องวิ่งแล่ไปขอบคุณพวกมันหรือไง ที่รับซื้อข้อมูลบริษัทจากแกน่ะห่ะ!!”
แองเจลโร่ตวาดสุดเสียง เขาหมดความอดทนกับไอ้คนหน้าด้านนี่แล้วนะ
“แค่นี้ไม่ทำให้โรเรนโซ่ล้มคลืนลงมานี่ครับ...ผมรู้ผมถึงทำ”
ดูมันเถ!! มันยังมีหน้ามาเถียง ในสิ่งที่มันทำ ทำให้ภาพพจน์บริษัทดูแย่ลงมา ความศรัทธาเสื่อมถอย ถึงจะไม่สูญเสีย แต่มันก็เสียหน้าคู่แข่ง...ที่คนในของเขา เอาข่าวไปขายให้กับพวกมัน
“เอามันออกไป!!... ถ้าใครยื่นมือเข้าช่วย ลาออกไปพร้อมมันเลย ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวอีก!!”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นเท้าที่เอว และตวาดเสียงก้อง บัญชาการลงไปทันที ไม่ฟังคำแก้ตัวใดใดอีก เมื่อมันไม่ได้ช่วยให้อะไรเปลี่ยนแปลง...มีแต่แย่ลง จะให้ไว้ใจคนที่ทรยศต่อองค์กรได้อย่างไร...ถึงจะเป็นคนเก่าคนแก่...แต่คนทรยศก็คือคนทรยศ
“คุณแองเจลโร่ครับ ได้โปรด?” สเตฟาโน่ร้องเสียงหลง เขาผิดจริง แต่ความผิดของเขาร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกเชียวหรือ?
“ออกไป!!” ชายหนุ่มตะโกนสุดเสียง ไม่เอาลูกปืนยัดปากให้เป็นของแถมก็บุญเท่าไรแล้ว
“คุณจะเสียใจที่ไล่ผมออก...”
ชายสูงวัยลุกขึ้นยืน ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดงฉาน เขาเค้นเสียงออกมาจาก้นบึ้งของหัวใจ วันหนึ่งข้างหน้าหากมีโอกาสเขาจะตอบแทนแองเจลโร่ให้สาสม...
“ฉันกลับดีใจเสียอีก สเตฟาโน่... ดีใจด้วยซ้ำที่สามารถกำจัดเห็บ ไร ที่อาศัยเกาะสูบเลือดสูญเนื้อโรเรนโซ่มานานออกไปได้สำเร็จ” ชายหนุ่มยิ้มเย็นๆ เขาตอกหน้าชายสูงวัยอย่างไม่ไว้หน้า เมื่อคิดถี่ถ้วนดี ไม่ต้องมาคอยระแวงกลัวว่าเขาจะโดนหักหลังซ้ำ...
เสียงโวยวายดังก้อง เคล้าบอดี้การ์ดหุ่นนักมวยปล้ำ รีบเข้ามาหิ้วปีกสเตฟาโน่ออกไป โดยที่แองเจลโร่ยืนกัดฟันกรอดๆ ป่านนี้ไอ้ห่าคริสเตียนมันคงหัวเราะเขาจนฟันโยก เมื่อสามารถเจาะคนของเขา เข้ามาล้วงความลับภายในออกไปได้ แม้เขาจะรู้ตัวก่อนก็เถอะ!! แต่มันเป็นการเสียหน้าครั้งแรก...
“ไอ้ลูกหมาคริสเตียน เล่นสกปรก!! สักวันพ่อจะลากมันมาเหยียบซ้ำ ให้จมตีน...” ชายหนุ่มกระแทกเสียงก้อง เดินกลับไปกระแทกตัวนั่งหลังโต๊ะบัญชาการตัวใหญ่ เพื่อลงมือทำงานที่ค้างคาต่อ สารพันปัญหารุมเร้ามีมากมาย จนเขาจมอยู่กับงานและงาน จนไม่ได้เจอะเจอลูกชายวัย5 ปีมาร่วมเดือน
ตื้ดๆ...
เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวกระพริบดังเตือน มันสั่นอยู่เป็นนานสองนาน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ เมื่อเครื่องนี้มีแต่ลูกชายของเขาเท่านั้นที่รู้เบอร์ และวินเซ้นต์โทรศัพท์เข้ามาวันๆ หนึ่งนับครั้งไม่ถ้วน และหากมันเป็นเรื่องด่วน!! เรื่องสำคัญจริงๆ ลูก้าบอดี้การ์ดที่เขาส่งไปคอยอารักขา คงส่งข่าวมาบอกเอง แต่นี่ไร้วี่แวว... แสดงว่าเป็นการโทร. มาอ้อนเหมือนเดิม
“พ่อของวินเซ้นต์ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์นะ!!? งานยุ่งมากเลยเหรอไง? เขาทำงานอะไรน่ะ?” มณีรินกดโทรศัพท์จนมือแทบหงิก ไร้วี่แววการตอบกลับหรือรับสาย ปลายสายเงียบฉี่...
เธอกดปลายนิ้วที่แป้นคีบอร์ด...พิมพ์ชื่อเสียงเรียงนามของแองเจลโร่ โรเรนโซ่ลงไป ก่อนจะกดEnterเพื่อสืบข่าวความเป็นไปของบิดาวินเซ้นต์คร่าวๆ ในการเริ่มต้นเชื่อมความสัมพันธ์ของเด็กชาย ตามที่รับปากเอาไว้ ดวงตาของเขาไว้ใจและเชื่อฟังเธอ เพราะฉะนั้นมณีรินจึงทุ่มเต็มที่ เพื่อจะพูดคุยกับอีกฝ่ายให้เข้าใจ...เด็กต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพ่อแม่ และหากเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลย อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรล่ะ...โตมาแบบแห้งแล้ง...ไร้ความอบอุ่น จิตใจของเด็กก็จะกร้าวกระด้าง...แข็งแกร้าวและใช้แต่อารมณ์
โห๊ะ!! เธออ้าปากค้างเมื่อกดEnter รูปของแองเจลโร่เด้งขึ้นมาเต็มหน้าจอ เขาเปรียบประหนึ่งเทพบุตรชัดๆ หล่อเหลาสมกับเป็นหนุ่มอิตาเลี่ยน นัยน์ตาคมกริบสีน้ำตาลเหลือบทอง ผมสีดำสนิทยักโศกนิด ล้อมกรอบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาหยักได้รูป ไรเคราจางๆ ที่ปลายคางส่งให้ใบหน้าของแองเจลโร่คมเข้มยิ่งขึ้น
