บทที่ 3 สไนเปอร์(1)

“ส่วนมึง!” ชายหนุ่มชี้หน้าด่าหญิงสาวที่ยังคงนั่งลอยหน้าลอยตา ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเปลื้องผ้าอย่างไม่อาย สายตาเขาที่มองเธอมันเต็มไปด้วยโทสะ ความเคียดแค้นเกลียดชัง

“ถ้าหม่าม้ากูเป็นอะไรไปมึงคนแรกที่กูจะฆ่า!” เขาตะเบ็งเสียงใส่เธออย่างเหี้ยมโหด ยิ่งเห็นท่าทียั่วยวนของหญิงสาวมันยิ่งทำให้เขานึกรังเกียจผู้หญิงตรงหน้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เธอมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือเสียอีก!

“ไอ้สไนเปอร์!!”

“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับหนูนับดาว เพราะหม่าม้ามึงมันบ้า!!”

เมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อพูดแบบนั้นไฟแค้นในกายยิ่งลุกโชน สายตาเย็นชาเปลี่ยนเป็นดุดันและเลือดเย็นขึ้นมาทันที

“หึ...ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่ปืนกับพี่กันต์สองคนนั้นเขาถึงเกลียดพ่อ” เขาหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน

เพียะ!!!

“กูเลี้ยงมึงมาให้มึงมายืนด่ากูแบบนี้หรือไง! ไอ้ลูกสารเลว!!”

ยิ่งเห็นอารมณ์ผู้เป็นพ่อเดือดดาลขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งสะใจ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาตัวเขากับแม่ได้รับผลกระทบจากนิสัยและสันดานชั่ว ๆ ของพ่ออยู่ไม่น้อย

แม่กลายเป็นคนซึมเศร้าวัน ๆ เอาแต่นั่งเหม่อร้องไห้อยู่คนเดียว

ส่วนเขาที่เห็นสภาพแม่แบบนั้นแต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งมองแม่ด้วยความเจ็บปวดใจ

เขากลายเป็นคนเก็บกด มีพฤติกรรมรุนแรงแต่ปกปิดซ่อนมันไว้ไม่ให้ใครรู้ มีเพียงเพื่อนรักอย่าง อชิ อชิระ ที่คอยช่วยปลอบใจหาที่ให้เพื่อนได้ระบายความเจ็บปวดลงไปได้บ้าง

“ออกไปได้แล้ว!”

“ไว้กูเสร็จธุระ กูจะไปดูหม่าม้ามึงเอง!” เมื่อเห็นลูกชายโกรธจัด ผู้เป็นพ่อก็พยายามใจเย็นลง ขบกรามแน่นกัดฟันพูด

“เชิญเอากันให้สะใจก่อนที่อีผู้หญิงคนนี้จะกลายเป็นศพ!”

สไนเปอร์หันไปมองหญิงสาวด้วยสายตาเลือดเย็น แต่ถึงจะอย่างนั้นหญิงสาวกลับไม่มีท่าทีนึกกลัวกับคำขู่ของลูกเลี้ยงหนุ่มแม้แต่น้อย

แต่ทว่ากลับยิ่งยั่วยวนอารมณ์โทสะเขาให้เพิ่มขึ้นมากกว่า โดยที่ร่างอรชรลุกขึ้นเดินตรงมาหาผู้เป็นพ่อ

“หรือป๊านิยมนอนกับศพ! เพราะจากเท่าที่ดู อีนี่มันก็ซากศพเน่า ๆ ดี ๆ นี่เอง”

“หึ...” สไนเปอร์มองร่างกายเปลือยเปล่าอีกครั้งแล้วนึกสมเพชพ่อ หน้าตาที่โทรมเหมือนซากศพดูก็รู้ว่าผ่านการใช้ชีวิตมาแบบไหน

คงจะทั้งดื่ม เที่ยวและมั่วผู้ชาย ถึงตัวเองจะไม่ใช่คนดีอะไรมากมายแต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อ นับดาวเธอช่างน่ารังเกียจ รังเกียจกว่าอะไรบนโลกที่เขาเคยรังเกียจ

“หุบปากมึง! แล้วออกไป! ก่อนที่กูจะหมดความอดทน!” ผู้เป็นพ่อได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งโมโหแต่ด้วยความเป็นพ่อลูกไม่อยากลงไม้ลงมืออะไรไปมากกว่านี้เพราะที่ลูกชายก้าวร้าว เจ้าอารมณ์แบบนี้ตัวเองก็มีส่วน

ด้วยความที่เป็นคนเจ้าชู้มักมากมาแต่ไหน ทำให้แม่ ๆ ของลูกต้องเสียใจคนแล้วคนเล่า

แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิดและสำนึกกับการกระทำ

มันผิดต่างกันตรงที่แม่ของปืนและกันต์ ที่เด็ดเดี่ยวและจริงจังกว่าแม่ของสไนเปอร์ ที่รักและเทิดทูนสามีเพราะเชื่อในลมปาก คำหวานหู

แต่แม่ของลูกชายคนโตและคนกลางเธอกลับเลือกที่จะเจ็บครั้งเดียว จับได้ว่าสามีนอกใจเล่นชู้กับผู้ช่วยสาว

ด้วยความที่โตมาในครอบครัวนักธุรกิจเธอเด็ดเดี่ยวขอหย่าขาดจากสามี ฟ้องศาลขอสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกคนเดียว

และฟ้องผู้ช่วยสาวแทบหมดเนื้อประดาตัว ก่อนจะตัดสินใจหอบลูกชายทั้งสองกลับไปอยู่กับอากงต่อธุรกิจครอบครัวที่จีน

โดยมีปรเมศวร์หรือปืนเป็นตัวแทนของแม่สู้ทนทำงานตั้งแต่เด็กจนแม่จากไป ส่วนกันต์พอแม่เสียก็ทำตามฝันไป ๆ มาไทยจีน

แต่สามพี่น้องก็ไม่เคยขาดการติดต่อ เพราะรู้ว่าสันดานพ่อเป็นยังไงก็มีความเป็นห่วงน้องชายถึงจะคนละแม่แต่เลือดก็ข้นกว่าน้ำ

แต่ก็ไม่ได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของพ่อ ว่าทำอะไรกับน้องชายไว้บ้าง

“จำไว้ถ้าหม่าม้าเป็นอะไรคนที่จะตายตามหม่าม้าไปคือมึง!” สไนเปอร์ชี้หน้าด่าหญิงสาวอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว

เพราะตอนนี้ถึงแม่จะพ้นขีดอันตรายแต่ก็ไม่รู้จะฟื้นคืนกลับมาเป็นแม่คนเดิมของเขาหรือเปล่า...

โรงพยาบาล

“ขอบคุณมากนะซอนบี ที่ช่วยดูแลแม่ให้เปอร์” ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาแฟนสาวที่คบกันมาได้สักระยะ เขาพูดและยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น

แต่กว่าเขาจะสงบสติอารมณ์ทำตัวให้เป็นปกติได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร

“เจ็บไหมเราทำแผลให้” แฟนสาวพอเห็นเลือดที่มุมปากแฟนหนุ่มก็จูงมือเขาเดินไปที่ห้องพยาบาลจัดแจงทำแผลให้เองด้วยที่เธอเรียนด้านนี้มาโดยเฉพาะ

“เปอร์รักซอนบีมากรู้ไหม อยู่กับเปอร์อย่าทิ้งเปอร์ได้ไหม!” ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดดึงเธอเข้ามากอด น้ำเสียงสั่นเครือจนคนในอ้อมกอดถึงกับตกใจเพราะแฟนหนุ่มกำลังร้องไห้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป