บทที่ 8 เข้าหา
“ดาวเป็นอะไร?”
“แล้วปากไปโดนอะไรมาทำไมถึงบวมขนาดนั้น?”
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องมะเหมี่ยวก็ถามเพื่อนสาวคนสนิทที่ทำหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ แถมริมฝีปากบางยังบวมเป่งจนเห็นได้ชัด
“ปะ...เปล่า! มดกัดน่ะ”
นับดาวตอบยิ้ม ๆ ถ้าบอกว่าโดนขโมยจูบมีหวังได้อายเพื่อนตายเลย
“ฮึ...มดอะไรคงจะตัวใหญ่น่าดูถึงได้เจ่อขนาดนี้!”
ขวับ!!
ร่างบางหันขวับคอแทบเคล็ดเมื่อได้ยินเสียงยียวนกวนประสาท เสียงนั้นเธอจำได้ดีว่าเป็น ชายโรคจิตที่ขโมยจูบแรกเธอไป!
“นาย!! ไอ้โรคจิต!”
หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มตาขวาง
“ทำไม! อยากโดนมดกัดอีกหรือไง!”
ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้จนปลายจมูกโด่งชนกับแก้มใส พูดด้วยน้ำเสียงยียวน
...ไอ้บ้า! นายมันโรคจิตที่สุด...
แต่เธอก็ได้แต่ด่าเขา ทางสายตา ก่อนจะเดินหนี
หมับ!!
ทว่ามือสากกลับรวบเอวคอดดึงเข้าหาตัว เป็นเหตุให้ใบหน้าหวานชนเข้ากับแผงอกแกร่งอย่างจัง
“นี่นาย!!”
สองมือเรียวดันแผงอกแกร่ง พยายามดันตัวออกจากท่อนแขน แต่ร่างหนากลับยิ่งออกแรงดึงเธอเข้ามาแนบชิด
“ทำอะไรวะ!” เตโชที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เดินเข้าห้องเห็นภาพบาดตา กระชากสไนเปอร์ออกจากนับดาวทันที
“หึ...”
แต่สไนเปอร์กลับเบ้ปากมองหญิงสาวอย่างเย้ยหยันแล้วเดินไปนั่งโต๊ะว่างหลังห้อง
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” เตโชจ้องหน้าสไนเปอร์อย่างเอาเรื่อง ก่อนจะถามเพื่อนสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความห่วงใย
ส่วนคนต้นเรื่องก็เอาแต่จ้องหญิงสาวอย่างพิจารณา ถึงจะแปลกใจอยู่บ้างที่เธอทำเป็นจำตัวเองไม่ได้
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังอยากได้เขาจนตัวสั่น คงเพราะกลัวเขาเอาเรื่องที่ทำกับลูกกับเมีย
แล้วยังหอบเงินจำนวนหลายสิบล้านหนีกลับประเทศไทย แต่เรื่องเงินชายหนุ่มไม่ได้สนใจแต่เขาสนใจเรื่องที่แฟนสาวต้องตาย
ถึงตำรวจจะจับคนร้ายได้แต่คนขับได้บอกว่านับดาวหญิงสาวที่นั่งมาด้วยเป็นคนทำ และที่น่าแค้นใจคือพ่อของตัวเองที่ช่วยเมีย
เพราะแบบนี้เขาเลยต้องจัดการเรื่องนี้เอง ทันทีที่เท้าแตะพื้นประเทศไทย เขาได้จ้างนักสืบโดยให้ภาพถ่ายและชื่อ แต่ไม่คิดว่าโชคจะเข้าข้างเพียงไม่กี่วันข้อมูลหญิงสาวก็มาอยู่ในมือ
และด้วยเส้นสายพี่ชาย ตัวเขาเองก็สามารถเข้าเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องยื่นใบสมัคร และเลือกที่จะอยู่ห้องเดียวกันกับหญิงสาว
...ฉันจะทำให้เธอตายทั้งเป็นนับดาว!!...
สไนเปอร์มองนับดาวด้วยความคับแค้นใจ สองมึงกำหมัดแน่น ยิ่งเห็นเธอทำตัวใสซื่อเขายิ่งเกลียด! เกลียดผู้หญิงไร้ยางอาย ผู้หญิงหน้าด้านคนนี้!
.
.
“สวัสดีครับ นักศึกษาทุกคนวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก อาจารย์อยากให้นักศึกษาทุกคนช่วยอะไรทางมหาวิทยาลัยหน่อยได้ไหมครับ!”
ทุกคนต่างทำหน้าเบื่อโลกที่ได้ยินอาจารย์ที่ปรึกษา ประจำคณะและประจำห้องพูดแบบนั้น
โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่แทบจะอยากเดินหนีออกจากห้อง
ส่วนสาว ๆ ในห้องก็เอาแต่จ้องหนุ่มหล่อ ผู้มีหน้าตาเป็นอาวุธเขาหล่อเข้ม เคร่งขรึมดุดัน ยิ่งท่าทีเฉยชา ไม่สนใจใครยิ่งทำให้เป็นจุดเด่นและเป็นที่หมายปองของสาว ๆ
โดยเฉพาะ น้ำตาล ที่ถูกชะตาชายหนุ่มตั้งแต่แว็บแรก
“โห่......” นักศึกษาหนุ่มโห่ร้องอย่างโอดครวญ
“อาจารย์ให้คนละ 2 คะแนนไปเจอกันที่สนามบาส!” อาจารย์หนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี
“แบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย!” เตโชเอ่ยขึ้น
“ปะดาว!” ก่อนจะหันไปยิ้มให้นับดาวที่รู้สึกถึงรังสีอะไรบางอย่างที่จ้องมองมาที่เธอ
พรึบ!
“ถ้าไม่มีคะแนนให้หนูไม่ไปบอกเลย!” มะเหมี่ยวยิ้ม ๆ ตามประสาเด็กสาวร่าเริงผู้มองโลกในแง่ดี
“ดะ...เดี๋ยว” แต่ไม่ทันที่นับดาวจะลุกเดินตามเพื่อนอาจารย์หนุ่มกลับเรียกเธอไว้
“เธออยู่ก่อนพอดีมีเพื่อนใหม่” อาจารย์หนุ่มมองไปที่สไนเปอร์ ที่นั่งทำหน้าตาเฉยไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว ยิ่งท่าทางเย็นชาไม่สนโลกของเขา ยิ่งทำให้อาจารย์หนุ่มเหนื่อยใจ ถ้าไม่เพราะอธิการบดีเป็นคนรับและสั่งให้ดูแลเขาไม่มีทางรับนักศึกษานิสัยแบบนี้เด็ดขาด!
“เขามาจากต่างประเทศเราเป็นหัวหน้าห้องและรองประธานคณะ ช่วยแนะนำสถานที่ให้เพื่อนหน่อยแล้วกัน”
“ส่วนที่เหลือตามอาจารย์มาใครมาช้าหักคะแนน!”
ทุกคนเดินตามอาจารย์ไปอย่างโอ้เอ้ มีเพียงเตโชที่สังเกตเห็นความไม่ปกติและคิดจะอยู่เป็นเพื่อนนับดาว
“เต!! ไปได้แล้ว!!” แต่ทว่ามะเหมี่ยว กลับลากเขาออกจากห้องไปเสียก่อน
...แล้วจะทำยังไงดี! เฮ้อ!...
นับดาวได้แต่ถอนหายใจไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองอีกฝ่าย ขนาดนั่งห่างกันตั้งหลายเมตรยังรู้สึกถึงความเย็นชา สายตาเขาที่มองเธอมันมีลับลมคมในมันดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก!
พรึบ!!
ตึก ตึก ตึก
เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่นั่งนิ่งสไนเปอร์เลยเป็นฝ่ายเข้าหาเธอเอง จากที่เป็นคนถูกล่าครั้งนี้เขาจะเป็นนักล่า และจะทำให้หญิงสาวสยบแทบเท้า เขาจะทำให้เธออ้อนวอนร้องขอชีวิต! สมกับความแค้นในใจที่สุมอก!
“นะ...นายเข้ามาทะ...ทำไม!” นับดาวพูดเสียงตะกุกตะกักเมื่อชายหนุ่มเดินตรงเข้ามาหาเธอ สายตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น ที่มองเธอมันเลือดเย็นเหลือเกิน
หมับ!!
“ปะ...ปล่อย!”
มือสากคว้าจับแขนเรียวไว้แน่นเมื่อคนตัวเล็กคิดจะลุกหนี เพราะดูทรงแล้วจะไม่ปลอดภัย
ขนาดไม่เคยเจอหน้ากันเขายังจูบเธอเสียปากเจ่อแล้วตอนนี้อยู่ในห้องกันสองต่อสอง แล้ววันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกนักศึกษาส่วนใหญ่ก็อยู่หอประชุม
ตึกคณะแทบจะไม่มีใครอยู่เลย
“ไม่อยากได้ฉันแล้วหรือไง!”
สไนเปอร์พูดเสียงเย็น แต่แฝงไปด้วยความดุดัน ดวงตาคู่ดำสนิทจ้องหน้าคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย
“พูดบ้าอะไร! ฉันอยากได้นายตอนไหน!”
“หน้าก็ไม่เคยเจอ! ชื่ออะไรก็ยังไม่รู้จัก!” นับดาวตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ฮึ!”
“เล่นละครเก่งนิ!” แต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน
พรึบ!!
“อึก!!” กระชากแขนเรียวเล็กให้ลุกขึ้นจนร่างบางปลิวตามแรงกระชาก ส่งผลให้ใบหน้าหวานแนบชิดติดแผงอกแกร่ง
“วันนั้นเธอยังแก้ผ้าต่อหน้าฉันอยู่เลย”
เสียงกระซิบแผ่วเบา ทำเอาคนตัวเล็กในอ้อมแขนถึงกับตาเบิกกว้าง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น
“พูดบ้าอะไร!”
“ปล่อย!!” เธอพูดเสียงแข็งและคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ ๆ
...หรือจะเป็นคนบ้าหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้า ถึงได้พูดอะไรบ้า ๆ แบบนี้ ฉันไม่เคยเจอเขามาก่อนแล้วเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร?...
แต่เธอก็ได้แต่มองหน้าเขาด้วยความสงสัย!
