บทที่ 6 น่ากลัว(1)

หลายวันผ่านไป

“ข้าว เลิกเรียนแล้วไปดูหนังกันมั้ย”

“ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ข้าวมีนัดทานข้าวกับพ่อ”

“ว้า เสียดายจัง” ทอฝันทำหน้าเศร้าทันที

“ไว้วันเสาร์เราไปดูหนังกันนะ ข้าวเลี้ยงเอง” ฉันเดินไปนั่งข้าง ๆ ทอฝัน

“จริงนะ” ทอฝันยิ้มดีใจใหญ่ คือตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ออกไปไหนเพราะกลัวเจอผู้ชายคนนั้นอีก แต่ก็ยังดีที่ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีก และตอนนี้ฉันก็เปลี่ยนรหัสห้องเปลี่ยนคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้ว

เลิกเรียนฉันเดินออกมาพร้อมทอฝัน ก่อนจะเดินไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปหาพ่อ ทีแรกฝันจะไปส่งแต่มันอยู่คนละทางกับทางไปคอนโด เกรงใจทอฝันเลยนั่งแท็กซี่ไปเอง

“สวัสดีครับ คุณใบข้าวใช่มั้ยครับ” ทันทีที่ถึงร้านพนักงานในร้านก็เดินเข้ามาหาทันที

“ใช่ค่ะ” ฉันตอบสั้น ๆ

“เชิญทางนี้ครับ คุณภูษิตรอคุณอยู่” วันนี้พ่อทำตัวแปลก ๆ เพราะปกติเวลานัดทานข้าวพ่อต้องให้ฉันเลือกร้านเอง แต่วันนี้พ่อเลือกร้าน และร้านนี้ก็ดูดีดูหรูมาก

ฉันเดินตามพนักงานเข้าไปในร้าน ระหว่างที่เดิน ๆ อยู่ฉันรู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองอยู่ตลอด แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นใคร

“ถึงแล้วครับ”

“ห้องนี้เหรอคะ?” ฉันจ้องหน้าถามพนักงาน

“ครับ ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวนะครับ” พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที แต่ฉันยังไม่เดินเข้าไปในห้อง ไม่รู้สิมันรู้สึกไม่ค่อยดีลึก ๆ ยังไงไม่รู้

“ถ้าโทรบอกพ่อว่าวันนี้คงทานข้าวกับพ่อไม่ได้ พ่อจะโกรธมั้ยนะ” ฉันบ่นพึมพำพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรบอกพ่อ

“ใบข้าว!! มาแล้วก็เข้ามาสิลูก” แต่ไม่ทันที่จะได้กดโทรออก พ่อก็เปิดประตูออกมาพอดี

“ค่ะ” ทำไงได้ ถ้าจะบอกว่าจะกลับก็ไม่ได้ เลยได้แต่ถอนหายใจเดินเข้าไปในห้อง

“........” ฉันอึ้งนิดหน่อยเมื่อเห็นใครบางคนนั่งส่งยิ้มหวานให้ฉันอยู่ที่โต๊ะ!

“ไม่เจอกันหลายปี โตเป็นสาวแล้วสวยจนแทบจำไม่ได้นะหนูใบข้าว” เธอพูดและยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่ดูก็รู้ว่าแสร้งทำ ต่อหน้าพ่อเธอก็เป็นแบบนี้แหละ พอลับหลังพ่อก็เป็นอีกอย่าง ถึงหลายปีมานี้ฉันไม่เคยได้เจอเธอ แต่ก็จำได้ไม่มีวันลืมว่าเธอทำอะไรฉันกับแม่ไว้บ้าง

“ข้าวสวัสดีแม่สิลูก” พ่อเดินเข้ามาหาก่อนจะพาฉันเดินไปที่โต๊ะ

แม่งั้นเหรอ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรใช้คำนี้

“สวัสดีค่ะ น้าพาริสา” ฉันยกมือไหว้เพราะเห็นแก่พ่อ แต่อย่าหวังว่าจะเรียกผู้หญิงที่แย่งสามีคนอื่นว่าแม่

“ไม่เจอกันนาน แม่คิดถึงหนูจังเลย” เธอลุกขึ้นเดินเข้ามากอดฉัน

“หนูมีแม่คนเดียวค่ะ และแม่หนูก็ตายไปแล้ว” ฉันดันเธอออกห่างจากตัว

“ข้าว!!” พ่อเค้นเสียงดุ

“ขอโทษค่ะ แต่ข้าวพูดความจริง จะไม่มีใครแทนที่แม่ข้าวได้” ฉันหันไปยกมือขอโทษพ่อที่เสียมารยาท ก่อนจะหันไปมองหน้าผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นอย่างไม่พอใจ และเธอเองก็ดูไม่พอใจมากเหมือนกัน

“คุณคะ อย่าดุลูกสิ” เธอเดินทำหน้าเศร้าเข้าไปหาพ่อ

“วันนี้เป็นวันแรกที่ริสาได้ทานข้าวกับลูก คุณอย่าโมโหทำให้บรรยากาศเสียสิคะ” เธอพูดให้พ่อใจเย็นลง แต่สีหน้าเธอกำลังสะใจที่เห็นพ่อดุฉัน

“เอาล่ะ ๆ พ่อขอโทษ ช่วงนี้พ่อเครียด ๆ นั่งก่อน วันนี้พ่อสั่งของโปรดข้าวไว้ให้ด้วย” พ่อเดินเข้ามาหาก่อนจะโอบไหล่พาเดินไปนั่งที่โต๊ะ

ทุกการกระทำของพ่อ ผู้หญิงคนนั้นมองและแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาทันที แต่พอพ่อหันไปมอง เธอก็แสร้งทำเป็นยิ้มเอ็นดู

ถ้าไม่เห็นแก่พ่อ ใบข้าวคนนี้จะไม่มีทางร่วมโต๊ะอาหารกับคนแบบนี้หรอก หน้าไหว้หลังหลอกน่ารังเกียจที่สุด

“เรียนเป็นไงบ้าง” พ่อเอ่ยถาม

“ก็ดีค่ะ มีเพื่อนใหม่เยอะเลย” ฉันพูดและยิ้มให้พ่อตามปกติ ทำเหมือนอยู่กับพ่อแค่สองคนพ่อลูก

“สวย ๆ แบบนี้ คงมีหนุ่ม ๆ รุมจีบเยอะสินะจ๊ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นพร้อมแสยะยิ้มใส่ทันทีที่พ่อละสายตาไปทางอื่น

“ไม่มีหรอกค่ะ ข้าวยังไม่คิดเรื่องนี้ ข้าวอยากตั้งใจเรียนจะได้รีบจบแล้วไปบริหารบริษัทแทนพ่อ!!” ฉันพูดและแสร้งยิ้มให้เธอเหมือนที่เธอทำ และมันก็ได้ผล สีหน้าเธอเปลี่ยนทันทีที่ได้ยินว่าฉันจะไปบริหารบริษัท

“ลูกพูดจริงใช่มั้ยข้าว” พ่อทำเสียงตื่นเต้นดีใจที่ได้ยินแบบนั้น

“ค่ะ ข้าวมาคิด ๆ ดูแล้ว พ่อก็มีข้าวเป็นลูกแค่คนเดียว ถ้าข้าวไม่ทำแล้วจะให้ใครทำล่ะคะ” ฉันพูดและยิ้มให้พ่อตามปกติ ก่อนจะหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้น ที่ตอนนี้เธอดูจะไม่พอใจจนกำหมัดแน่นเชียว

ถึงจะยังเด็กแต่ก็ไม่ได้โง่นะ

ฉันนั่งพูดคุยกับพ่อตามปกติจนทานอาหารเสร็จ

“ดึกแล้วข้าวว่าข้าวกลับก่อนดีกว่าค่ะ” ฉันพูดบอกพ่อ

“เดี๋ยวก่อนข้าวลูก พ่อมีคนจะแนะนำให้ข้าวรู้จัก เผื่ออนาคตเวลาลูกมีปัญหาเกี่ยวกับงาน พี่เขาจะได้ให้คำปรึกษาข้าวได้”

ฉันมองหน้าพ่ออย่างสงสัย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป