บทที่ 9 เริ่มต้นกันใหม่

บทที่ 9

เริ่มต้นกันใหม่

จิ่งฝานกระตือรือร้นช่วยจางไคเฮ่อหิ้วของกลับบ้านจาง พอมาถึงลานหลังบ้าน จิ่งฝานยกซึ้งไปวางไว้ตรงที่ล้างจาน ตักน้ำเทใส่กะละมัง ล้างอุปกรณ์ด้วยความคล่องแคล่วและรู้งานอย่างยิ่ง

“พี่จิ่งฝาน คนพวกนั้นเป็นใคร ท่านไปมีเรื่องอะไรกับพวกเขาหรือ” ตงตงถามชายหนุ่ม

จิ่งฝานทำหน้าครุ่นคิด สักครู่ก็ส่ายหัว

“ข้าก็ไม่รู้จัก ไม่รู้ด้วยว่าไปมีเรื่องกับคนพวกนั้นตอนไหน”

“อะไรกัน?” ตงตงร้องอย่างไม่เข้าใจ

ระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกัน จางไคเฮ่อเข้าบ้านไปหยิบยามาให้จิ่งฝาน ตอนเดินออกมา เขาโบกมือไล่ให้จิ่งฝานไปนั่งทายาที่โต๊ะ

ในขณะถือยามานั่งกับตงตง จิ่งฝานกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนแรกเริ่ม พวกเขาถามข้าว่ามีเงินหรือไม่ พอข้าตอบไปว่าไม่มี พวกเขาก็หาว่าข้าโกหก แล้วก็เข้ามารุมทำร้ายข้าทันที”

“ปล้นกันชัดๆ เลยนี่”

ตงตงพูดด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ พลางคว้ายาจากมือจิ่งฝาน ช่วยทายาให้เขา

“รอยช้ำเก่านี้ก็ด้วยหรือ”

“อ๋อ รอยช้ำเก่าเป็นฝีมือเจ้าของเถ้าแก่โรงเตี๊ยมแห่งใหม่ พอดีข้าทำงานไม่ถูกใจเขาน่ะ”

จิ่งฝานพูดพลางเกาแก้ม สีหน้าของชายหนุ่มแสดงออกเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติ

แต่ตงตงฟังแล้วกลับรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง ถึงจะเป็นผู้ว่าจ้าง แต่มีสิทธิ์อะไรมาซ้องลูกจ้าง

ไม่เพียงคิด ใบหน้าเล็กๆ ของเด็กสาวยังแสดงออกว่าโกรธจัด

“ท่านต้องรู้สึกโกรธเถ้าแก่คนใหม่สิ ยังจะยิ้มทำไม!”

“เขาสั่งสอนข้าก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือ”

“ไม่ถูกสักหน่อย!” ตงตงโพล่งด้วยน้ำเสียงและสีหน้าฉุนเฉียว อาจเพราะว่านางมองจิ่งฝานเป็นเหมือนพี่ชายจึงรู้สึกโกรธแทน “พี่จิ่งฝาน ท่านกลับมาทำงานกับข้าดีกว่า”

ทันทีที่ตงตงพูดออกไป เสียงของจางไคเฮ่อก็ดังมาจากตรงที่ล้างจาน

“บ้านเรามีเงินจ้างคนด้วยหรือ”

ถูกต้อง ฐานะการเงินบ้านจางตอนนี้กำลังร่อแร ตงตงต้องขายซาลาเปาเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ

ทว่า...นั่นคือสถานการณ์ที่คนนอกเห็น

“การทำอาหารเป็นไม่ได้หมายความจะบริหารเรื่องเงินเป็นด้วย” จางไคเฮ่อเตือนสติ

“ข้ารู้” ตงตงตอบ “แต่ว่า...ข้าก็อยากจ้างพี่จิ่งฝาน”

หากเป็นตงตงคนเก่าอาจทำไม่ได้ แต่ตงตงตอนนี้มีระบบกับเงินทุนติดตัว นางรู้สึกว่าตนน่าจะทำอะไรสักอย่างได้

อันที่จริง หากนางจะหาเงินก้อนใหญ่จริงๆ ก็สามารถทำได้ แค่ซื้อเกลือหรือพริกไทยในช่วงที่ระบบจัดโปรโมชั่นลดราคา เอามาแบ่งขายก็สร้างกำไรได้แล้ว

วัตถุดิบดีๆ ในยุคนี้หายาก เกลือ พริกไทย น้ำตาลทรายขาว ขายวัตถุดิบ 3 อย่างนี้ตงตงก็เปลี่ยนฐานะจากแม่ค้ามาเป็นเศรษฐีได้แล้ว แต่ที่ไม่ทำอย่างนั้น เพราะไม่อยากให้คนอื่นสงสัย

อย่างไรก็ตาม ตงตงบอกเรื่องระบบร้านค้ากับท่านพ่อไม่ได้ แต่ไม่ช้าก็เร็วยังไงสักวันต้องขยายกิจการอยู่แล้ว

“ท่านพ่อ บอกตรงๆ ข้าไม่คิดจะขายซาลาเปาอย่างเดียวไปตลอดหรอกเจ้าค่ะ”

ได้ยินลูกสาวพูดอย่างนั้น จางไคเฮ่อวางมือจากจานชามที่กำลังล้างแล้วยืนขึ้น ดวงตาคมกล้ามองเด็กสาวอย่างจริงจัง

“แล้วเจ้ามั่นใจหรือ ว่าสามารถรับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้”

“มั่นใจเจ้าค่ะ” เด็กสาวตอบอย่างจริงจังและแน่วแน่

ท่านพ่อจ้องหน้านางเงียบๆ

บรรยากาศรอบตัวของสองพ่อลูกค่อยๆ ตึงเครียดขึ้น จิ่งฝานรู้สึกผิดที่ตนทำอะไรไม่คิด มาของานเด็กสาวทำ ทั้งๆ ที่บ้างจางตอนนี้ก็กำลังลำบาก

“ตงตง น้าไคเฮ่อ ข้าคงทำให้พวกท่านลำบากใจ ขอโทษนะ ช่วยลืมๆ คำพูดข้าไปเสียเถิด”

ตงตงดึงสายตากลับมา ก่อนจะหันมาบอกกับจิ่งฝาน

“พี่จิ่งฝานไม่ผิดหรอก ไม่ช้าก็เร็ว ข้าตั้งใจจะกลับมาเปิดโรงเตี๊ยมอยู่แล้ว และคนแรกที่ข้าจะจ้างก็คือท่าน”

จิ่งฝานมองเด็กสาวด้วยดวงตาเป็นประกายเลื่อมใส ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างที่ใจคิด

“ตงตง เจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้เจ้าเหมือนน้ากุ้ยฉินเลย”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป