บทที่ 2 รู้สึกเจ็บ

“ปล่อย!”

“.......” เขายังคงเงียบและกอดไม่ยอมปล่อย

“เป็นบ้าอะไร ปล่อยสิ!”

“......” และเขายังคงเงียบเหมือนเดิม จะเล่นสงครามประสาทกันใช่ไหม ได้!

“ไม่ปล่อยใช่ไหมได้!” ร่างเล็กจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เกรง ก่อนจะตีเข่าเข้าตรงส่วนนั้นเขาจัง ๆ แต่ทว่า...

พรึบ!

“ฮึ......” เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ดันร่างบางติดกำแพง

“ปล่อย!” ฉันพยายามใจเย็นสุด ๆ ทำไมต้องมาเจอเขาอีกด้วย กรุงเทพฯ มันเล็กมากหรือไง บ้าชะมัด

“คิดว่าฉันอยากอยู่ใกล้เธอหรือไง” น้ำเสียงและสายตาเขาที่มองมามันยังคงเย็นชาเหมือนเดิม

“ใครจะไปรู้ ก็ไม่ปล่อยสักที ก็นึกว่าอยากกอด ทำไมญี่ปุ่นสวยขึ้นเหรอ พี่เลยอยากอยู่ใกล้ หรือว่าอยากมากกว่านั้น ได้นะ ไปต่อที่ไหนดี!” ฉันพูดจายั่วยวน ทำทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ

“ฮึ...ผู้หญิงอย่างเธอใครจะไปอยากอยู่ใกล้ แค่จะบอกว่า” สายตาคู่นั้นมองฉันอย่างดูถูก

“อย่ามามองญี่ปุ่นด้วยสายตาแบบนั้น ถ้าพี่ไม่รู้จักญี่ปุ่นดีพอ ไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่!” สองมือดันแผงอกแกร่งอย่างแรงแต่เขากลับไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว

“จะเอายังไง ถ้าไม่ปล่อยญี่ปุ่นจะถือว่าพี่อยากอยู่ใกล้ ๆ หรือเวลาหลายปีที่ไม่เจอกัน ใจพี่มันเปลี่ยนไป” จากที่ผลักไส มือเล็กก็ลูบวนหน้าอกแกร่งเขาไปมา มองหน้าเขาแล้วก็ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ เพราะรู้ว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้

หมับ!

“อย่าหลงตัวเองให้มันมาก ฉันไม่หน้ามืดถึงขนาดคิดอะไรกับผู้หญิงอย่างเธอ!”

“ผู้หญิงแบบญี่ปุ่น มันเป็นไงคะ” ฉันจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรง ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี เขาก็ยังคงเหมือนเดิม

“.....” เขาเงียบเอาแต่จ้องหน้าและออกแรงบีบข้อมืออย่างแรง

“ญี่ปุ่นมันก็แค่ ผู้หญิงไร้ค่า ทำตัวไม่มีค่าชอบวิ่งตามผู้ชาย ไม่น่ารัก ไม่อ่อนหวานเหมือนน้ำอุ่นสินะ อ้อ พูดถึงน้ำอุ่นเป็นไงบ้างคะ ยังรักกันดีไหม” ฉันพูดยิ้ม ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าน้ำอุ่นกับภูผาเขารักกัน ในเมื่อเขาหาเรื่องก่อน ก็แค่เอาคืน ดูสิพูดแทงใจดำไปแบบนี้จะทำหน้ายังไง ก็คงหนีไม่พ้นทำหน้าดุ โกรธเกรี้ยวใส่เหมือนที่เคยทำ

“แล้วมีลูกกันยังคะ ผู้หญิงหรือผู้ชายเผื่อว่าง ๆ จะได้ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าสักหน่อย”

“แล้วบ้านพี่อยู่ไหน ที่เดิมไหม เผื่อแวะเอาของไปฝาก ว่าแต่ลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย แล้ว...อุ๊บ”

“ฮื่อ ปะ...ปล่อยนะ” ร่างเล็กดิ้น สองมือผลักคนตัวโตออกจากตัว เมื่ออยู่ ๆ เขาก็ประกบปากจูบดูดเม้มริมฝีปากบางอย่างไม่ทันให้ฉันตั้งตัว แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งบดขยี้แรงกว่าเดิม แรงจนรู้สึกเจ็บบวมไปทั่วทั้งบริเวณ

“ฮื่อ ปะ...” แต่ก็ทำได้เพียงร้องท้วงในลำคอ เขาไม่สนใจฟังยังคงจูบดูดเม้มมันอย่างเมามัน

“อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน น่ารำคาญ!” เขาเอ่ยเสียงดุ ก่อนจะยกนิ้วเช็ดริมฝีปากตัวเองที่มันเลอะด้วยลิปสติก

เพียะ!!

“......” ฉันตบเขาอย่างแรง ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น เป็นบ้าอะไรอยู่ ๆ ก็มาจูบ

หมับ!!

“ฮื่อ...ปะ...” แต่เดินไปยังไม่ถึงก้าว มือหนาก็คว้าข้อมือเล็ก ดึงร่างเล็กเข้าไปกอดแล้วประกบปากจูบอีกครั้ง และครั้งนี้มันแรงกว่าเดิม แรงจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มไปทั่วทั้งปาก

พรึบ!! ร่างเล็กรวบรวมแรงที่มีทั้งหมด ผลักเขาจนเกือบล้ม ก่อนจะเดินเข้าไปตบเขาอย่างแรง

เพียะ!!

“…….” เขาเงียบ ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น และมองมาที่ฉันอย่างเอาเรื่อง

“ทำไมคะติดใจอยากจูบอีกเหรอ อยากจูบก็บอกดี ๆ สิ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย” ทั้ง ๆ ที่ในใจมันโกรธจนควันออกหู แต่ก็ต้องยิ้มยั่ว ไม่อยากทำตัวอ่อนแอให้ใครเห็น เพราะที่ผ่านมาฉันอ่อนแอมามากพอแล้ว

“ทีหลังอยากจูบก็บอกกันดี ๆ สำหรับพี่ คนเคยรักขอดี ๆ ญี่ปุ่นคนนี้ก็พร้อมที่จะนอนถ่างขาให้แล้วค่ะ”

“บาย แล้วเจอกันนะคะ พอดีวันนี้มีนัด” ฉันเดินเข้าไปหอมแก้มเขา ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น พร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้ง ๆ ที่ทำใจได้แล้ว แต่ทำไมมันยังรู้สึกเจ็บ ที่เขาทำแบบนั้น...

...แบงค์ได้แต่ยืนกำหมัดแน่น อย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าทำแบบนั้นไปทำไม ทั้ง ๆ ที่ปากก็บอกว่าเกลียดผู้หญิงคนนี้มาตลอด

ผับ…

เปลี่ยนไปเยอะเลย ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน เลยแวะมาหาโมจิ แต่เห็นใครบางคนกำลังทำอะไรอยู่ไม่รู้อยู่ที่หน้าประตูทางเข้า ไปแกล้งให้ตกใจเสียหน่อย เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้น

“คุณหนู”

“ทำหน้าอย่างกับเห็นผี สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ลุงเทวา ก่อนจะเดินเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง

“คิดถึงจัง ไม่เจอตั้งนาน ยังหล่อเหมือนเดิมนะคะ”

“ไม่ต้องมาพูดหวาน ทำอะไรผิดมาใช่ไหม ถึงได้อ้อนลุงแบบนี้แล้วนี่ไอ้กันต์มันรู้หรือเปล่าว่าลูกสาวกลับมา เห็นมันบอกคุณหนูจะกลับมาอาทิตย์หน้า”

“แฮ่...แดดดี้ไม่รู้ พอดีญี่ปุ่นกลับมาก่อนกำหนด ว่าจะแอบหนีเที่ยวแต่เจอคนบ้าเลยอารมณ์เสีย เลยแวะมาหาโมจิ ว่าแต่น้องอยู่นี่ไหม ญี่ปุ่นอยากดื่มกับน้อง”

“ห้องทำงาน กำลังเคลียร์เอกสาร พอดีพรุ่งนี้ต้องสั่งของ”

“งั้นหนูไม่กวนแล้ว ไปหาน้องดีกว่า” แล้วร่างบางก็เดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสาม มุ่งหน้าไปที่ห้องทำงาน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ว่างเปล่า” มือเล็กเคาะประตู พร้อมค่อย ๆ ยื่นหน้าเข้าไป

“พี่ญี่ปุ่น!!!” ทันทีที่โมจิเห็นพี่สาว น้องรีบวางปากกาแล้ววิ่งเข้ามากอดพี่ทันที

“ฮื่อ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอก”

“โมจิ พี่หายใจไม่ออก”

“ขอโทษค่ะ ก็โมจิดีใจไปหน่อย” น้องค่อย ๆ ปล่อยกอด

“ว่าแต่ปากพี่” นิ้วเรียวเล็กยื่นมาจับที่ริมฝีปาก ที่บวมเป่ง

“อ๊ะ เจ็บ” ฉันถึงกับสะดุ้ง

“ไปโดนอะไรกัดมาคะ? บวมขนาดนี้” โมจิมองมันอย่างพิจารณา

“ไม่รู้พี่แวะซื้อของกินข้างทาง มันคงจะมีอะไรอยู่ในนั้นมั้ง ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย ว่าแต่ทำงานเสร็จยังเราไปดื่มกันไหม” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้น้องสงสัยอะไรไปมากกว่านี้

“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว พี่รอสัก 10 นาทีนะ แต่โมจิว่าปากพี่มันเหมือนโดนใครกัดมานะ”

ตัวเล็กนี่ยังไงยังสงสัยไม่เลิก

“พูดอย่างกับเคยโดนใครกัดมา!” ฉันจ้องหน้าน้องอย่างจับผิด

“ปะ...เปล่า วัน ๆ ก็มีแต่เรียน แล้วก็ทำขนม ตกกลางคืนก็ต้องมาดูผับ ใครจะมากัดได้ พี่พูดอะไร ไปนั่งรอตรงโน้นเลยค่ะ” โมจิพูดเสียงกระอึกกระอัก ก่อนจะรีบเดินกลับไปทำงานต่อ

“ทำตัวมีพิรุธ” ฉันมองตามคนตัวเล็ก ๆ คนอะไรจะตัวเล็กตัวน้อยขนาดนั้น ขนาดว่าตัวเองเล็กแล้ว โมจิยิ่งตัวเล็ก เล็กนิดเดียว แต่น้องเป็นคนน่ารักยิ่งมองก็ยิ่งหลง มองได้เรื่อย ๆ ไม่น่าเบื่อ

“ยิ้มอะไรคะ” ตัวเล็กเงยหน้ามามองพี่สาวแล้วก้มลงทำงานต่อ

“ก็มองคนน่ารักไง รู้ตัวไหมว่าตัวเล็กของพี่น่ารักขนาดไหน ว่าแต่น่ารักแบบนี้มีแฟนยัง” ร่างบางเดินเข้าไปหาน้อง พร้อมหย่อนก้นนั่งลงบนโต๊ะทำงาน

“ไม่ค่ะ ตัวเล็กยังไม่อยากปวดหัว ขออยู่คนเดียวสบาย ๆ แบบนี้นะดีแล้วเสร็จแล้วเราไปกันค่ะ”

“ก็ดีนะ จะได้โสดเป็นเพื่อนพี่ ไว้พี่จะพาไปเที่ยวไปจีบผู้ชายเล่น ๆ กัน สวยรวยเก่งแบบพวกเรา แค่เดินเข้าไปในร้านผู้ชายก็พร้อมที่จะมอบกายถวายหัวให้แล้ว” ฉันพูดจริงจัง

“ฮึ...ค่ะ พี่พาไปไหนโมจิพร้อมไปด้วย”

“น่ารักที่สุด ตัวเล็กของพี่ ว่าแต่วันนี้ใครเมาก่อนแพ้!” ฉันหอมแก้มน้องหนักอย่างมันเขี้ยว

“แน่ใจนะ พี่พูดเองนะ!” โมจิพูดยิ้ม ๆ เวลาไม่สบายใจได้เห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ที่สดใสของน้องมันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก...

“แน่ใจ! วันนี้พี่จะชนะให้ได้คอยดู!”

“.....” โมจิ มองหน้าพี่แล้วยิ้ม ก่อนเราสองพี่น้องจะเดินกอดเอวกันลงไปดื่มที่ชั้น VIP ที่บอกว่าจะชนะให้ได้ ก็พูดไปงั้นแหละ ตั้งแต่โมจิอายุ 15 พอแดดดี้สอนน้องให้ดื่มเป็นฉันก็แพ้น้องมาตลอด บอกใคร ใครจะไปเชื่อ แต่งตัวหวาน ๆ ท่าทางเรียบร้อย แต่ดื่มเหล้าเก่งจนแดดดี้ยังเอ่ยปากชม...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป