บทที่ 6 บทที่ 3 กานต์รัก 50%
บทที่ 3 กานต์รัก
“ไอ้จิณณะ!”
ใบหน้ากลมพองที่ห่างไปแค่คืบต้องห่างไกลออกไปอีกมากโข เมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวฉับๆ เข้ามาแย่งร่างน้อยในอ้อมอกของเขาไป ใบหน้าของพี่ชายข้างบ้านถมึงทึงดุดันราวกับจงอางหวงไข่ ชายหนุ่มก้าวถอยหลังด้วยเกรงใจในตัวเพื่อนพี่ชายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก่อนยกมือไหว้ด้วยใบหน้าเจื่อนสี
“สวัสดีครับพี่กี้”
“กองไว้ตรงนั้น” กีรติขุ่นเคืองใจในภาพเมื่อสักครู่จนไม่แม้กระทั่งยกมือรับไหว้น้องชายเพื่อน ยิ่งนับรวมความขุ่นใจในอดีตที่อีกฝ่ายเคยรังแกกลั่นแกล้งแม่ของหลานยิ่งพาลให้อารมณ์หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“มาทำไม” ถามเสียงห้วนด้วยใบหน้าไม่ต้อนรับเต็มที่
“เอ่อ” จิณณวัตรยิ้มเจื่อนปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำถามของคนไม่ต้อนรับเข้าบ้านตรงๆ ชายหนุ่มฝืนยิ้ม ก่อนอธิบายสาเหตุการมาพร้อมยื่นเอกสารที่พี่ชายใช้ให้มาส่งทันที “พี่เจตให้ผมเอาเอกสารการเซ็นสัญญาของสโมสรมาให้พี่ครับ”
กีรติเหลือบตามองเอกสารในมือของน้องเพื่อน ก่อนปรายตามองใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อหยั่งเชิงแล้วออกคำสั่งให้อีกฝ่ายวางเอกสารไว้ที่โต๊ะรับแขกใกล้ๆ
“วางไว้ตรงนั้น”
ร่างสูงเดินไปวางเอกสารตามคำสั่ง ก่อนกลับมายืนยิ้มเจื่อนที่เดิมอีกครั้ง
“มีธุระแค่นี้ใช่ไหม?”
“เอ่อ คะ ครับ” แม้จะรู้สึกว่าถูกไล่แบบตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อม แต่ก็รู้ดีว่านับตั้งแต่ลิลลาหายตัวไปที่นี่ก็ไม่ต้อนรับเขาอีกเลย โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่ทำหน้าถมึงทึงเมื่อเห็นเขาตั้งแต่ไกล จิณณวัตรเข้าใจว่าเพราะอดีตเขาร้ายกาจกับน้องสาวของกีรติมาก และกลั่นแกล้งจนอีกฝ่ายร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง ที่สำคัญเขาคือสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวเก็บตัวจนอ่อนต่อโลกทำให้ถูกคนอื่นใช้เป็นเหยื่อได้ง่าย ซึ่งเขายอมรับผิดทุกอย่าง แต่มันคงสายเกินกว่าที่ใครจะสามารถให้อภัยได้
ทว่า… หากเขายังพอมีโอกาสแก้ตัวสักครั้ง แค่เพียงสักครั้ง เขาจะไม่ลังเลที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะต้องแลกกับสิ่งใด เผชิญหน้ากับอะไร เขายินดี
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนเลยนะครับพี่กี้”
กีรติไม่ตอบทำเพียงพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ เขายังขุ่นเคืองกับการมาของอีกฝ่าย ไหนจะการที่จิณณวัตรแตะเนื้อต้องตัวหลานรักของเขาอีกล่ะ คนเป็นลุงผู้หวงหลานเท่าชีวิตคิดอย่างหัวเสีย ทว่าพอเห็นแผ่นหลังกว้างเดินไกลออกไปคนเป็นผู้ใหญ่ที่รู้ตัวว่าเสียมารยาทจึงขยับปากเอ่ยเรียก
“จิณณะ”
จิณณวัตรหันกลับมายิ้มแย้มตอบรับพร้อมค้อมศีรษะให้พี่ชายข้างบ้านอย่างไร้ข้อกังขา “ครับพี่กี้”
“เอ่อ ขอบใจที่เอาเอกสารมาให้นะ”
คำพูดธรรมดาแต่สามารถทำให้ชายหนุ่มเผยยิ้มกว้าง อย่างน้อยวันนี้พี่ชายของลิลลาก็ยังไม่ได้รังเกียจเขา แต่หาก… ชายหนุ่มนึกคิดไปอย่างหวาดหวั่นว่าถ้าหากความลับของเขาเปิดเผยกีรติจะแสดงออกเช่นไร และจะทำอย่างไรกับผู้ชายเลวๆ ที่ทำลายน้องสาวสุดที่รักของอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรครับ” ใบหน้าหล่อร้ายยิ้มแย้มก่อนหันไปหาใบหน้ากลมป่องแก้มชมพูระเรื่อในอ้อมแขนของกีรติ หัวใจเต้นรัวสั่นไหวราวกับพบเจอบางสิ่งที่ตามหามานาน ดวงตากลมหวานเชื่อมเหมือนตากวางที่คุ้นแสนคุ้นให้ความรู้สึกพิเศษอย่างประหลาด
ใครกันนะ เด็กน้อยในอ้อมแขนของกีรติ เขาอยากถาม อยากพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กแต่ก็ไม่กล้า
“งั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ” แม้จะพูดกับกีรติ แต่สายกลับมองใบหน้ากลมแก้มชมพูอ่อนไม่ละไปไหน ความรู้สึกหวิวโหวงที่ช่วงอกกับอาการใจสั่นเต้นผิดจังหวะทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา
“แอ๊” เสียงใสบ่นงำงึมคล้ายตอบรับรอยยิ้มนั้นสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาจับหัวใจ จิณณวัตรรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดจากเสียงนั้น ดวงตาคู่นั้น และรอยยิ้มจากริมฝีปากเล็กๆ นั้นจนกระทั่งเขาเผลอขยับขาก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ไอ้จิณ!” ร่างสูงสะดุ้งโหยงกะพริบตาปริบๆ มองใบหน้าถมึงทึงของพี่ชายข้างบ้านที่อยู่ๆ ก็เรืองรองขึ้นมา มือข้างขวาที่โอบอุ้มร่างเล็กแนบแน่นพร้อมแสดงออกถึงความหวงแหนอย่างชัดเจน จิณณวัตรหัวเราะลงคอ นึกขบขันตัวเองที่เห็นคนตาคล้ายลิลลาแล้วสติแตกจึงค้อมศีรษะขอโทษกีรติก่อนถอนสายตาจากร่างเล็กในอ้อมแขนอีกฝ่ายแล้วจากมา
“สงสัยจะเพี้ยนแน่ๆ เลย” ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองพลางหันกลับไปมองสองหนุ่มต่างวัยที่กำลังมองส่งเขาอยู่ในบ้านด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งโหยหา ทั้งเอ็นดู แต่ก็มีความหวั่นเกรงบางสิ่งแปลกๆ
บางสิ่งที่เขาเองก็ไม่อาจเข้าใจได้…
หลังจากร่างสูงสง่าจากไปแล้วคนที่ยืนใบหน้าถมึงทึงจึงค่อยคลายสีหน้าลงหันมาถามหลานรักด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างแปลกใจ
“ทำไมอยู่ๆ วิ่งไปหามันล่ะฮึไอ้แสบของลุง ปกติกลัวคนแปลกหน้าหนิเรา”
เจ้าตัวแสบหัวเราะเอิ้กอ้ากแทนการตอบคำถามสร้างความแปลกใจให้กีรติมากขึ้นไปอีก โดยปกติแล้วกานต์รักเป็นเด็กที่กลัวคนแปลกหน้ามากทีเดียว แต่อีกเหตุผลที่ทำเขาแปลกใจจนถึงขั้นไม่พอใจก็คือภาพที่หลานชายอยู่ในอ้อมกอดของจิณณวัตรซึ่งมันขัดกับคำสั่งของมารดาเจ้าตัวแสบ
“ถ้าพี่กี้จะกรุณา ลินขอร้อง อย่าให้คุณจิณณวัตรเห็นรักนะคะ”
กีรติเคยสงสัย หากเมื่อลองทบทวนจากอดีตที่ผ่านมาก็เริ่มเข้าใจ เมื่อก่อนตอนที่ลิลลายังเด็กๆ จิณณวัตรมักรังแก กลั่นแกล้ง ทำตัวร้ายกาจกับน้องสาวของเขาจนร้องไห้กลับบ้านทุกวันจึงไม่แปลกหากหญิงสาวจะฝังใจในความร้ายกาจของชายหนุ่ม
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะทูนหัวของป้า” ป้าสายใจเดินเข้ามารับร่างกลมป้อมไปอุ้ม หันซ้ายหันขวามองหาพี่เลี้ยงจำเป็นของอีกฝ่ายก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้กล่อมกันท่าไหนหลับทั้งนายทั้งบ่าว “สงสัยนังน้อยมันจะหลับค่ะคุณกี้”
“ช่างเถอะครับ แต่หลังจากนี้ถ้าจิณณะมาที่บ้านอีก ต้องพารักขึ้นข้างบน”
ป้าสายใจพยักหน้ารับทราบ ด้วยรู้ดีถึงคำสั่งของลิลลาเมื่อครั้งพาบุตรชายมาฝากเลี้ยงครั้งแรก
“คุณลินเธอคงโกรธคุณจิณณะมาก” ผู้สูงวัยเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวลพร้อมก้มมองใบหน้ากลมพองที่กำลังเอนซบไหล่อย่างน่าเอ็นดู “แต่ป้าเข้าใจเธอนะคะ คุณจิณณะเคยร้ายกับคุณลินไว้มาก คุณลินคงกลัวเธอจะมาร้ายกับคุณรักอีกคน”
“ผมก็คิดแบบนั้นครับ ลินเป็นคนเจ็บแล้วจำ เกลียดใครแล้วเกลียดจนตาย”
ทั้งสองมองหน้าสบตากันด้วยความหวั่นใจ อดีตที่เลวร้ายยังคงฝังจมอยู่กับตัวของลิลลาทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็เหมือนคนที่ยังฝังใจจะไม่อาจสลัดมันพ้น ยิ่งนานความทุกข์ตรมของหญิงสาวยิ่งทบเท่าทวีคูณ กีรติได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างดีขึ้นในเร็ววัน ซึ่งเขาเอาแต่เฝ้าภาวนามาแล้วร่วมสามปี!
“เอ๋ แต่เมื่อกี้ป้าได้ยินเสียงใครบางคนพูดน๊า” ป้าสายใจกล่าวพลางโยกตัวเมื่อคนตัวเล็กหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ
“นั่นสิครับ ปกติเจ้าแสบไม่ยอมพูดง่ายๆ ขนาดเรียกลุงยังไม่ค่อยจะเรียกเลย”
ปกติแล้วเจ้าตัวแสบของเขาไม่ยอมพูดง่ายๆ ไม่ว่าจะหลอกล่อยังไง แม้กระทั่งใช้ของโปรดเข้าล่อก็ไม่ยอมเรียกเขาว่าลุงสักที จะมีก็แค่คำว่า ‘แม่’ กับคำว่า ‘หมา’ เท่านั้นที่เจ้าตัวพูดออกมาบ่อยๆ ส่วนคำว่าลุงนั้นแทบนับครั้งได้เพราะถ้ากานต์รักจะเรียกเขาจริงๆ จังๆ ขึ้นมาก็มักเรียกว่า ‘กี้’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของเขาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ลิลลากังวลเรื่องพัฒนาการด้านการพูดของลูกชายมากจนต้องพาเจ้าตัวแสบไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ แต่คำตอบที่ได้ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะพัฒนาการด้านอื่นเจ้าตัวแสบปกติ แถมยังมากกว่าเด็กทั่วไปด้วยซ้ำ จะมีก็แค่เรื่องการพูดที่ยังมีปัญหาให้ลุงกับแม่ต้องกังวลใจอยู่ตลอด
“ทีคนอื่นล่ะวิ่งใส่ อ้อแอ้หาเขา ทีกับลุงล่ะไม่ยอมพูดด้วย” ใบหน้ายามเอ่ยของคุณลุงแง่งอนอยู่พักเดียวก็แย้มแย้มอย่างเคย เมื่อเจ้าตัวแสบผงกหัวขึ้นมองตาแป๋วส่งยิ้มแฉ่งเห็นฟันซี่เล็กๆ มาให้ก่อนอ้าปากเรียกคนขี้น้อยใจเสียงดังฟังชัดพร้อมอ้าแขนจะกลับมาหาอ้อมอกของเขาอีกครั้ง
“ยุง”
กีรติถึงกับหัวเราะชอบใจก่อนรับร่างกลมป้อมมาโอบอุ้มด้วยความเอ็นดู
“จากลุงกลายเป็นยุงซะแล้ว แต่เอาเถอะยุงก็ยุง”
สองลุงหลานหยอกล้อกันพลางเดินกลับเข้าไปในห้องรับแขกเพื่อเตรียมตัวทานมื้อกลางวันสำหรับหลานชายของบ้านเอื้ออรัญวัฒน์โดยที่สายตาของเจ้าตัวแสบที่กำลังก่ายเกยใบหน้าบนไหล่หนาของคุณลุงยังคงมองตามเส้นทางที่ใครอีกคนเพิ่งจากไปด้วยรอยยิ้มพร้อมคำพูดสั้นๆ แต่มีความหมาย
“พ่อ”
จิณณวัตรขับรถออกมาจากบ้านเอื้ออรัญวัฒน์ด้วยความรู้สึกหน่วงในอก ชายหนุ่มเหม่อลอยอย่างไร้สาเหตุ ไม่รู้ตัวเลยว่าขับเคลื่อนรถออกจากบ้านของกีรติจนเลยมาจอดที่หน้าบ้านของตนตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมคนของพี่ชายที่ออกมายืนรอต้อนรับเขาแล้ว
“สวัสดีครับคุณจิณณะ คุณจักรให้ผมออกมารอรับครับ” ‘อินทัช’ บอดี้การ์ดส่วนตัวของจักรภพยืนค้อมกายทักทายเขาทันทีที่เปิดกระจกลง
ชายหนุ่มจึงถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ คาดการณ์ได้ว่าคนจากบ้านเอื้ออรัญวัฒน์หรือคนที่บริษัทคงโทรมารายงาน “ข่าวไวมากนะครับพี่ทัช”
บอดี้การ์ดหนุ่มทำเพียงยิ้มรับบางๆ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
ในเมื่อไม่มีทางหนี จิณณวัตรจึงทำใจแล้วเคลื่อนรถเข้าสู่ตัวบ้านอย่างจำยอม เขาพอจะเดาออกว่าพี่ชายต้องการพูดคุยเรื่องใดถึงได้ให้คนสนิทออกมายืนรอต้อนรับถึงหน้าบ้านขนาดนี้
‘พ่ออยากให้แกมาช่วยงานฉันเต็มตัว’
สายของพี่ชายคนโตเมื่อสองสัปดาห์ก่อนทำให้เขานอนไม่หลับไปหลายวัน ไม่ใช่กังวล แต่เป็นความสับสนกับความต้องการลึกๆ ของตนเองมากกว่า หรือเขาจะวางมือจากกิจการสถานบันเทิงที่ดูแลแล้วกลับมาช่วยพี่ชายบริหารงานในส่วนของบริษัทจิวเวลลี่อีกแรง หลายวันที่ผ่านมาเขาครุ่นคิดอย่างหนักด้วยหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นมาตลอดสามปีโดยเฉพาะปัจจัยหลักอย่างลิลลา หากวันใดวันหนึ่งเขาพบเธอ เขาคิดว่าตนเองควรจะต้องดีกว่าวันวานในอดีตมากพอที่จะทำให้หญิงสาวหันมองเขาได้อย่างผู้ชายคนอื่น ไม่ต้องดีราวพระเอกละคร ขอแค่ไม่ร้ายกาจน่าหวาดกลัวก็พอ
“คุณจักรรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นนะครับ” อินทัชค้อมกายกล่าวคำสั่งของเจ้านายตนเองเสร็จก็ล่าถอยจากไปทำตามหน้าที่ดั่งเคย จิณณวัตรจึงลอบถอนหายใจแล้วเดินไปพบพี่ชายตามคำสั่งอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
บางทีเขาควรต้องเลือกสิ่งที่บิดาต้องการ…
ชายหนุ่มครุ่นคิดพลางเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นของบ้าน สายตาคมกล้ามองเห็นแผ่นหลังของพี่ชายกำลังก้มๆ เงยๆ ที่ชั้นหนังสือจึงร้องทักทาย
“หาอะไรอ่านอีกแล้วเหรอพี่จักร”
