บทที่ 10 เรามีกฎข้อเดียวคือ...ห้ามเผลอใจ
“แต่พูดตามตรงนะเจ๊ ฉันรู้สึกกลัวยังไงก็ไม่รู้” ไอวาพูดต่อ
“กลัว? กลัวอะไรของแก?” ไอวาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ดวงตาเหม่อมองไปยังม่านที่พลิ้วไหวจากแอร์เบาๆ ริมฝีปากเธอขยับช้าๆ แต่หนักแน่นในคำตอบ
“ก็กลัวว่าจะเผลอใจไปคิดอะไรกับเขาน่ะสิ เวลาที่อยู่กับเขา... ทุกอย่างที่เขาทำมันเหมือนถูกคำนวณมาแล้วทั้งหมด เขาไม่ต้องพยายามเลย แต่กลับทำให้เรา...รู้สึกว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น เป็นผู้หญิงคนเดียวในห้อง ทั้งที่รู้ว่าเขาทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนแน่ๆ ฉันพยายามบอกตัวเองว่าเขาทำแบบนี้กับทุกคน แต่สมองมันก็คอยแต่จะแอบคิดว่า...ตัวเองอาจจะพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นก็ได้” บอสตี้ถอนหายใจเสียงยาว หัวคิ้วขมวดจนเป็นร่อง เขาพยักหน้าเบาๆ อย่างคนเข้าใจ แต่ก็ไม่คิดจะปล่อยให้ไอวาตกไปอยู่ในเกมของเจเดน
“นี่แหละไม้ตายของคุณเจเดนที่ฉันกำลังจะเตือนแกอยู่!” เขาชี้นิ้วใส่ไอวา
“เขามีความสามารถพิเศษบางอย่าง...ที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่า ‘ฉันคือคนพิเศษของเขา’ ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้พูดอะไรไว้บ้าง” ไอวาได้ยินแบบนั้นก็เม้มปากแน่น หัวใจเธอไหวยวบเพราะคำพูดนั้น เธอเองก็คิดแบบเดียวกัน...แต่ไม่อยากยอมรับออกมาดังๆ
“ฉันรู้เจ๊ ฉันรู้อยู่เต็มอกว่าเขาชอบพราวฟ้า แล้วก็เข้าใจดีด้วยว่าเขาจะจริงจังแค่ไหนกับเธอคนนั้น” ไอวากล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ในแววตามีความเปราะบางซ่อนอยู่
“แต่อะไรบางอย่างในวิธีที่เขาทำกับฉัน กับผู้หญิงคนอื่น...มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเขาต้อง ‘ทำเหมือนพวกเราพิเศษ’ ฉันด้วย ในเมื่อเขารู้อยู่แล้วว่า...ยังไงเขาก็ได้ในสิ่งที่อยากได้อยู่แล้ว”
“หึ!” บอสตี้หลุดเสียงในลำคอ คล้ายจะขำปนเหนื่อยหน่าย
“เพราะการให้ด้วยใจน่ะสิยะ เพราะการได้อะไรสักอย่างจากใครโดยที่เขา ‘เต็มใจ’ ให้...มันมีค่ามากกว่าการเอามาเพราะต้องแลก เพราะถูกบังคับ เพราะมีข้อตกลง เขาอาจจะมองว่าการที่ทำให้ผู้หญิงพวกนั้น รวมทั้งแก ตกหลุมรักเขาได้เป็นเรื่องสนุกละมั้ง” ไอวานิ่ง ฟังทุกคำ แล้วพยักหน้าเบาๆ ราวกับรู้ทันในสิ่งที่บอสตี้เพิ่งเฉลย ใช่...เจเดนอยากได้เธอในแบบที่เธอยินดีให้และนั่นแหละที่น่ากลัวที่สุด
“ถ้าแกรู้อยู่แก่ใจแล้วมันก็ดี” บอสตี้ลดเสียงลง ก่อนจะกลับมาใช้น้ำเสียงจริงจังพูดต่อ
“แต่จำไว้ให้ขึ้นใจด้วยนะว่า อย่าถลำตัว อย่าเผลอเอา ‘ใจ’ ไปลงเล่น เราไม่ได้เข้าไปเพื่อรักใคร เราแค่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน เข้าใจใช่มั้ย?”
“รู้แล้วน่า...” ไอวาวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟา เธอหลับตาลง พูดต่อด้วยเสียงเบาแทบเป็นกระซิบ
“ก็แค่บอกว่า...กลัว”
“ถ้าแกได้นอนกับเขาแล้วเนี่ย แกจะกลัวกว่านี้อีก เพราะเคยมีเคสที่มันหลงคิดว่าเขารักมันจริงๆ จนไม่เอาอะไรเลย สุดท้ายก็โดนอำนาจของคุณเจเดนเอามันออกจากวงการไปแบบกลับมาไม่ได้อีกเลย” บอสตี้ยังจำเคสนั้นได้ดี และหลังจากนั้นมาเขาก็พยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก และถือเป็นโชคดีที่เขาควบคุมได้อย่างที่ต้องการ
จะห่วงก็แต่ไอวา ดูทรงแล้วเหมือนจะไขว้เขวได้ง่ายๆ และเธอไม่สามารถยอมให้เกิดขึ้นได้ เพราะไอวาเป็นหมากตัวสำคัญของเธอ ที่ถ้าหลุดจากกระดานไปแล้ว จะหาหมากตัวใหม่มาแทนได้ยากมาก
หลังจากบอสตี้เดินออกจากห้องของไอวา เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเลย แค่ส่งสายตาเตือนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดประตูแล้วเดินออกมา ทิ้งหญิงสาวไว้กับความคิดของตัวเอง
ขาทั้งสองข้างพาเขาเดินอย่างไร้จุดหมายไปตามโถงคอนโดฯ เขาไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกยังไงในตอนนี้ โล่งใจที่ไอวารู้ทันเกมของเจเดน หรือกังวลที่แม้ไอวาจะรู้ทันแต่ก็ยังพร้อมจะพลาดได้ทุกเมื่อ
และเจเดนก็ทำเกือบจะสำเร็จทุกครั้งเสียด้วย
บอสตี้เดินมาถึงที่จอดรถพอดี มือกำลังควานหากุญแจในกระเป๋า ทันใดนั้น...มือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมาพอดิบพอดี
ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เขาหยุดนิ่ง
“JADEN”
หัวใจของเขากระตุกเล็กน้อยแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะโทรมาเรื่องเดิม นิ้วมือของบอสตี้ยกขึ้นกดรับสาย ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“ค่ะ คุณเจเดน” เสียงที่ดังตอบกลับมาจากปลายสาย ยังคงเรียบนิ่งและทรงพลังเหมือนทุกครั้ง
“สวัสดีครับคุณบอสตี้ เมื่อคืนนี้ไอวากลับถึงห้องเรียบร้อยดีใช่ไหมครับ?” บอสตี้รีบตอบทันที
“ค่ะ เธอกลับมาถึงห้องเรียบร้อยดี บอสตี้เพิ่งจะแยกกับนางเมื่อกี้นี้เอง แล้วก็...ดูเหมือนจะประทับใจในการพูดคุยกับคุณเจเดนมากเลยนะคะ ชมไม่ขาดปากเชียว” เพราะรู้ถึงความต้องการของอีกฝ่าย บอสตี้จึงใช้ข้อนี้มาทำคะแนน เจเดนหัวเราะด้วยความพอใจก่อนจะพูดตอบ
“ผมเองก็ประทับใจเธอมากเหมือนกันครับ” ประโยคนี้ฟังดูง่ายๆ แต่ในหูของบอสตี้ มันกลับเหมือนได้ยินเสียงระฆังบอกเวลาเริ่มเกมดังขึ้นบนเวทีมวย
“เธอมีอะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่มี...ไม่ได้หมายถึงความสวย ไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ผ่านการขัดเกลา แต่มันคือ...เสน่ห์ในความเป็นธรรมชาติของเธอเวลาพูด ซึ่งมันน่าสนใจมาก ผมอยากรู้ว่า ถ้าถอดเปลือกพวกนั้นออก...เธอจะยังเป็นคนเดิมอยู่ไหม” บอสตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ เขาไม่แน่ใจว่าเจเดนกำลังชื่นชมไอวา หรือกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่
“ค่ะ...บอสตี้เข้าใจ แล้วคุณต้องการให้นาง...?”
“ผมนึกอะไรออกอย่างหนึ่งครับ” เจเดนพูดช้า ๆ ราวกับกำลังบรรจงวางคำ
“รอบหน้าผมไม่อยากเจอเธอในฐานะ ‘นางงาม’ หรือ ‘ผู้หญิงที่ถูกแนะนำมา’ ผมอยากเจอเธอในฐานะ ‘คนธรรมดา’ ที่ไม่ต้องวางท่า ไม่ต้องอยู่ในบท” บอสตี้ขมวดคิ้วงุนงง ถึงภายนอกยังพูดด้วยน้ำเสียงสงบ
“คุณเจเดนหมายถึง...?”
“ผมมีแพลนจะไปพักผ่อนที่ทะเลแบบเงียบๆ ไม่มีช่างภาพ ไม่มีทีมงาน ไม่มีคำว่า ‘หน้ากล้อง’ แค่นั่งคุย ดื่ม หรืออะไรก็ตามที่คนธรรมดาเขาทำกัน ผมอยากรู้ว่า...ไอวาในวันหยุด เป็นใคร” น้ำเสียงเจเดนยังเรียบ แต่ชัดเจน นี่ไม่ใช่แค่ความอยากรู้ธรรมดา มันคือการสังเกตเชิงลึก ระดับที่ไม่มีกรรมการเวทีไหนเข้าถึงได้
บอสตี้นิ่งไปหลายวินาที เขาไม่รู้ว่าในสถานการณ์นี้ควรรู้สึกโชคดีที่ไอวาเข้าตา หรือควรกังวลที่ไอวากำลังจะโดน ไม้ตายของเจเดน ทริปทะเลแสนหวาน บรรยากาศโรแมนติก ผู้หญิงที่ไหนจะรอดพ้นจากแผนการนี้ของเขาได้
“จะให้บอสตี้นัดนางวันไหนดีคะ?” เขาถามเรียบๆ พยายามเก็บอารมณ์
“สุดสัปดาห์นี้ครับ ถ้าเธอว่าง ผมจะให้คนขับรถไปรับ ฝากย้ำด้วยนะครับว่าให้ทำตัวสบายๆ เป็นตัวเองให้เต็มที่ ไม่ต้องพยายามเป็นใครที่ทำให้ผมรู้สึกว่า...เธอถูกบังคับ ผมอยากเห็นเธอในแบบที่เธอเป็น” บอสตี้รู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนเชือกเส้นบางๆ ที่ขึงข้ามหุบเหว
“เข้าใจแล้วค่ะ บอสตี้จะจัดการให้นะคะ”
“ดีครับ คุณบอสตี้...ผมรู้ว่าคุณดูแลเธอดี เพราะฉะนั้นช่วยดูต่อด้วยนะว่าเธอไม่เสียรูปเสียรอย ผมต้องการคนที่ไม่แตกกลางทาง” เสียงปลายสายขาดหายไปทันทีหลังประโยคสุดท้าย ไม่มีคำลา ไม่มีโอกาสให้ซักถามเพิ่ม
บอสตี้มองหน้าจอมือถือที่ดับไปแล้ว ก่อนจะลดมือลงช้าๆ พร้อมถอนหายใจยาวลึกที่สุดเท่าที่เขาเคยถอนในรอบหลายเดือน
"ไม่แตกกลางทาง" คำนั้นก้องในหัวเขาอย่างไม่ลดราวาศอก นั่นไม่ใช่คำเตือน แต่มันคือ คำสั่ง ที่แฝงคำขู่เบื้องหลังอย่างแหลมคม
เขารู้จักเจเดนดีพอจะเข้าใจว่า...เขาทำแบบนี้ก็เพื่อความสนุก หลอกให้รัก แล้วบังคับไม่ให้รู้สึก การหักอกผู้หญิงคือเกมกีฬาที่เขาโปรดปราน
บอสตี้ทรุดตัวลงนั่งที่เบาะคนขับ มือทั้งสองกุมพวงมาลัยแน่น ใจเขาย้อนกลับไปถึงสายตาของไอวาเมื่อตะกี้สายตาของคนที่กำลังเริ่มหลงเข้าไปในวังวนความสัมพันธ์ ที่เธออาจไม่รู้ตัวว่ากำลังเล่นอยู่ในเวทีที่ไม่มีบท ไม่มีกรรมการ และไม่มีทางถอยหลัง ไม่มีแม้แต่ชัยชนะด้วยซ้ำ
“ไอวา...ฉันหวังว่าแกจะฉลาดพอที่จะไม่ตกหลุมพรางของคุณเจเดนเขาหรอกนะ” เขาพึมพำกับตัวเอง
