บทที่ 007

ซีเอลปรากฏตัวที่ตึกบริษัทของเซอร์ซีสอย่างมีสไตล์ เขาสะบัดกระเป๋าพาดไหล่ ในขณะที่ริมฝีปากคาบบุหรี่ไว้ เขาโยกย้ายส่ายสะโพกไปมา ส้นรองเท้าของเขากรีดไปบนพื้นมันวาว

เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วพ่นควันบุหรี่ขึ้นไปในอากาศท่ามกลางเสียงซุบซิบของผู้คนที่หันขวับมามอง เขาดื่มด่ำกับมันขณะก้าวเข้าไปในลิฟต์ที่จะพาเขาไปยังชั้นบนสุด

ลิฟต์ส่งเสียง ‘ติ๊ง’ แล้วประตูก็เปิดออก เขาก้าวออกมา พบกับประตูแก้วหรูหราคุ้นตาของห้องทำงานชายคนนั้น โดยมีโต๊ะเลขานุการและหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง

เขาเดินไปได้ไม่ไกลก็ถูกหยุดไว้

“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”

ซีเอลมองเธอ สังเกตเห็นคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน อาจเป็นเพราะกลิ่นยาสูบและท่าทีของเขาซึ่งซีเอลไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย เขาเดินเข้าไปที่โต๊ะของเธอ “มีสิ ช่วยบอกหน่อยว่าคุณลอเรนต์อยู่ไหม”

“คุณได้นัดไว้หรือเปล่าคะ”

ซีเอลจิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วถอดแว่นตาออก เผยให้เห็นดวงตาสีเขียวที่เปล่งประกายซุกซน เขาทิ้งบุหรี่ลงบนพื้นแล้วขยี้มันด้วยปลายเท้า “ในฐานะเลขาของเขา คุณควรจะรู้ข้อมูลล่าสุดอยู่แล้วนะ ไม่ต้องให้ฉันต้องพูดใส่หน้าหรอกมั้ง? ฉันเป็นคู่หมั้นเขา ยัยบื้อ”

ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป เขาเดินตรงไปยังประตูแล้วผลักเข้าไปข้างใน ก่อนที่เธอจะทันได้คัดค้านหรือหยุดเขา ซีเอลหยุดชะงักเมื่อพบกับภาพของคุณลอเรนต์อยู่หลังโต๊ะทำงาน เขาไม่เงยหน้าขึ้นมา ไม่ได้สะทกสะท้านกับการบุกเข้ามาอย่างกะทันหัน ความสนใจทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับเอกสารที่กางอยู่บนโต๊ะ ดูทรงอำนาจและสง่างามในชุดสูทเช่นเคย

“ท่านคะ!” เลขาสาวรีบตามเข้ามา และในที่สุดเซอร์ซีสก็เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสีเทาเย็นเยียบของเขาทิ่มแทงทะลุร่างซีเอลในทันที จนทำให้เจ้าตัวเกิดไม่แน่ใจขึ้นมาว่าเขามาที่นี่ในห้องทำงานของชายคนนี้ทำไม

“คุณออกไปได้ เฮเลน” น้ำเสียงทุ้มของเซอร์ซีสดังก้องไปทั่วห้องทำงาน สีหน้าและแววตาว่างเปล่าขณะจ้องมองซีเอล

ซีเอลสังเกตเห็นสายตาอาฆาตที่เลขาสาวส่งมาให้ก่อนจะจากไปและปิดประตูตามหลัง ทันทีที่เธอไป เขาก็เดินเข้าไปที่โต๊ะของชายคนนั้น “คุณเรียกพนักงานด้วยชื่อจริง หรือว่าเธอได้รับสิทธิพิเศษในฐานะเลขาของคุณกันแน่”

“ผมเชื่อว่าคุณไม่ได้มาที่นี่โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเพื่อมาสำรวจรูปแบบการเรียกชื่อพนักงานของผมหรอกนะ”

ซีเอลโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงไขว่ห้างทันที “ผมจะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน คุณลอเรนต์ ผมต้องการยกเลิกส่วนในสัญญาที่ระบุว่าต้องย้ายเข้าไปอยู่กับคุณ”

“มันไม่สายไปหน่อยเหรอ คุณรี้ด คุณไม่มีสิทธิ์เจรจาต่อรองเงื่อนไขของคุณอีกแล้ว ผู้จัดการของคุณส่งฉบับที่เซ็นแล้วมาให้เรียบร้อย”

“คุณคิดว่าผมเป็นหมาที่จะต้องทำตามคำสั่งคุณทุกอย่างหรือไง” ซีเอลตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยกับความสงบนิ่งและใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของชายคนนั้น

“ผมเชื่อว่าคุณสามารถสละศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อรักษาอาชีพการงานของคุณไว้ได้” น้ำเสียงของเซอร์ซีสเต็มไปด้วยความเฉยเมย ราวกับว่าความต้องการของซีเอลไม่มีความหมาย “ในฐานะคู่หมั้นของผม มันก็สมเหตุสมผลที่คุณจะย้ายเข้ามาอยู่กับผม จำไว้ว่าบทบาทของคุณคือการทำให้สาธารณชนเชื่อว่าเรารักกัน และจนถึงตอนนี้ การแสดงก็ดูน่าเชื่อถือดี รักษาภาพลวงตานี้ต่อไป แล้วคุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเป็นดาราตกอับคนต่อไป”

“อะไรนะ? ผมต้องขอบคุณคุณด้วยไหมตอนนี้” ซีเอลเริ่มโมโห

“สิ่งที่เรามีคือผลประโยชน์ร่วมกัน ผมเชื่อว่าคุณเข้าใจความหมายของมันนะ”

ซีเอลผุดลุกขึ้นยืน คว้ากระเป๋าแล้วหันหลังเตรียมจะจากไป

“เดี๋ยว”

ทันใดนั้น ซีเอลก็หยุดชะงักราวกับถูกแม่เหล็กดูด เขาได้ยินเสียงเซอร์ซีสลุกจากเก้าอี้ และวินาทีต่อมา ชายคนนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขา ซีเอลสูดหายใจเข้าลึกกับระยะห่างที่ใกล้ชิด เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวจนแผ่นหลังชนเข้ากับโต๊ะ

เซอร์ซีสมองเขาราวกับผู้ล่ามองเหยื่อ นัยน์ตาสีเทาฉายแวววาวน่าขนลุกจนทำให้ซีเอลรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

อย่างจงใจ ดวงตาอันโดดเด่นของเซอร์ซีสไล่สายตาลงมาสำรวจรูปร่างของเขา จากนั้น เขาก็จับมือของซีเอล

“คุณจะทำอะไร”

เซอร์ซีสล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบแหวนวงหนึ่งออกมา ดูเหมือนว่ามันจะมีค่ามากกว่าอาชีพการงานทั้งชีวิตของซีเอลเสียอีก “ตำแหน่งคู่หมั้นของผมก็ควรจะมาพร้อมกับแหวนสักวง” เขาพูดพลางสวมแหวนลงบนนิ้วของซีเอล จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นสบตากับซีเอลด้วยความเข้มข้นที่ทำให้ซีเอลขยับตัวไม่ได้ เขาได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวผิดจังหวะในหูและลำคอที่แห้งผาก จนความคิดที่จะหนีหายไปจากหัว “ผมจะให้เวลาคุณสองสามวันเพื่อเตรียมตัวย้ายมาอยู่กับผม ตราบใดที่คุณรู้จักขอบเขตของตัวเอง เราก็จะเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องธรรมดาๆ”

ไม่มีอะไรธรรมดาเกี่ยวกับพวกเขาสักนิด เขาเป็นเพียงผู้ชายที่ควบคุมชีวิตของซีเอลและค่อยๆ พรากอิสรภาพของเขาไป ทั้งหมดนี้ในนามของการรักษาอาชีพการงานของเขา

ลูคัส ซีเอลย้ำเตือนตัวเอง เขาทำสิ่งนี้เพื่อตัวเองและลูคัส ถึงแม้เขาจะเป็นคนทำลายอาชีพของตัวเอง แต่เขาก็ยังจะทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ ตราบใดที่ไม่ต้องกลับไปที่รูหนูโสโครกที่เขาหนีออกมา

เขากระตุกยิ้มขณะยกมือขึ้นมองแหวน สัญชาตญาณที่อยากจะหนีและความคิดขบถของเขาก็ผุดขึ้นมา “และพอสิ้นปีเมื่อไหร่ ผมจะขายมันทิ้งอย่างยินดี หวังว่าคุณคงไม่ว่าอะไรนะ คุณลอเรนต์” จากนั้นเขาก็ขยับเข้าไปใกล้ขึ้น ลดช่องว่างเล็กๆ ระหว่างร่างกายของพวกเขาลง แล้ววางมือลงบนบ่าของชายคนนั้น “ผมหวังว่า คุณลอเรนต์ คุณจะพร้อมที่จะเล่นละครฉากใหญ่ไปกับผมนะ มันจะเป็นปีที่สาหัสเอาการ และเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ ไปเลย”

ทันใดนั้น แววท้าทายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเซอร์ซีส แต่มันก็หายไปเร็วพอๆ กับที่ปรากฏขึ้นมา เขาถอยหลังไป “แสดงละครสิ นั่นคือเหตุผลเดียวที่คุณมาอยู่ที่นี่”

การแสดง... นั่นคือพรสวรรค์เพียงอย่างเดียวที่ซีเอลทำได้ดี และเขาก็จะมอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษนี้ให้คุณลอเรนต์ได้ชม

บทก่อนหน้า
บทถัดไป