บทที่ 2 2

“ธร แม่ไม่เข้าใจ” พรทิพาเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบมานาน “เงินสามแสนห้าที่เสียไป แลกกับการได้ภาระกลับคืนมา แม่คิดว่าไม่คุ้ม”

“ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องของเด็กคนนี้เองครับคุณแม่” เขาเดินมาดึงแขนเล็กๆ ให้ลุกขึ้นยืน ซึ่งเธอก็ยืนห่อไหล่ ก้มหน้า ไม่กล้าสบตาเขา “บอกฉันมาสิ เธอชื่ออะไร”

“นะ หนู...หนู” เธอเสียงสั่น พยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติแล้วตอบ “หนูชื่อฉันท์ชนกค่ะ ชื่อเล่นคือนก”

“ท่าทางยังเด็กอยู่เลยนะ เธอคงไม่เคยมีความสุขเลยสินะ”

“มีค่ะ” หยดน้ำตาร่วงเผาะลงสู่หลังเท้าตัวเอง “ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ หนูเคยมีความสุข”

คำตอบนั้นเสียดแทงหัวใจพรทิพาเข้าให้อย่างจัง เธอเองก็มีลูก เลยอ่อนไหวเป็นพิเศษหากได้ยินเรื่องรันทดเกี่ยวกับแม่ลูก

“ฉันเข้าใจ” เขาพยักหน้า ก่อนจะหันไปหามารดา “คุณแม่ครับ ผมจะให้นกคอยปรนนิบัติผมส่วนตัวนะ”

“หืม ปรนนิบัติส่วนตัว” หญิงวัยกลางคนลูกตาแทบถลนออกนอกเบ้า “นี่เด็กนะธร แกยังจะหื่นอีกเหรอ”

ชายหนุ่มหน้าแดง รีบแก้ความเข้าใจผิด “ไม่ใช่แบบนั้น คุณแม่คิดไปถึงไหนล่ะนั่น ผมหมายถึงคล้ายๆ สาวใช้ส่วนตัวนั่นแหละครับ ให้นกอยู่ในความดูแลของผม”

“อ๋อ” พรทิพาลากเสียงยาว ถอนหายใจอย่างโล่งอก “เออ ถ้างั้นก็ตามใจธรเถอะ แม่ก็ไม่อะไรมากหรอก ธรว่าไงก็ว่าตามนั้น แล้วนี่จะไปงานศพไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”

“เผาบ่ายสามโน่นครับ นี่เพิ่งบ่ายโมง”

“ไปไวๆ จะได้คุยกับคนอื่นบ้าง”

“ขี้เกียจคุย” ตอบอย่างไม่สนใจอะไรเลย ก่อนจะเลื่อนมือมาจับข้อมือเล็กไว้ “ตามฉันขึ้นไปชั้นสองก่อน” จากนั้นก็ลากฉันท์ชนกลิ่วๆ ขึ้นบันได

“โอ๊ะ ! หนูเดินเองได้ค่ะ”

“เธอทำตัวชักช้าพิรี้พิไร ให้ฉันลากไปน่ะดีแล้ว”

เธอลอบส่งค้อนให้เขาจากทางเบื้องหลัง ไม่รู้หรือไงว่ากระดูกข้อมือเธอแทบจะแตกอยู่แล้ว ผู้ชายอะไรเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ

“เธอมีพี่น้องไหม”

“ไม่มีค่ะ”

“ตัวคนเดียวเลยงั้นสิ”

“ค่ะ ถ้าคุณไม่เมตตา หนูก็คงขาดที่พึ่ง”

เขายิ้มที่มุมปาก เธอเข้าใจพูดดีนะ...พูดให้คนเอ็นดู

“แน่นอนว่าฉันเมตตาเธอ ถึงได้รับเธอมาไง”

“ขอบคุณค่ะที่เมตตาหนู หนูต้องทำงานกี่ปีคะถึงจะหลุดหนี้สามแสนห้าแล้วได้รับอิสระ”

เขาปรายตามองเล็กน้อยก่อนเมิน “เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกัน”

เขาพาเธอมาที่ห้องที่อยู่ถัดจากบันไดไปสามห้อง ภายในกว้างขวางโอ่อ่า เครื่องเรือนเป็นระเบียบ เตียงกว้างและท่าทางจะนุ่มมากด้วย ภายในห้องมีห้องน้ำส่วนตัว...เขาลากเธอเข้าไปในนั้น

“ทำอะไรคะ

“ขัดสีฉวีวรรณซะบ้าง เธอเนื้อตัวมอมแมมมากนะรู้หรือเปล่า”

“หนูไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยน”

“เดี๋ยวไปเอาของสาวใช้คนอื่นมาให้ก่อน ดูสิผิวเธอน่ะ ถ้าขัดๆ สักหน่อยก็น่าจะดีนะ” เขาเท้าเอว กวาดตามองเธอขึ้นๆ ลงๆ “ถึงจะเป็นเด็ก แต่ก็น่าจะดูแลความสะอาดตัวเองบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ดูแลคนอื่น”

พูดจบ เขาก็ทำท่าจะถอดเสื้อยืดออกให้ เธอรีบเบี่ยงตัวหลบ ตาโต อุทานเสียงหลง

“หนูถอดเองได้ค่ะ คุณออกไปข้างนอกก่อนเถอะ”

เขายิ้มนึกเอ็นดู “รู้จักอายเป็นด้วยเหรอ ตัวกระเปี๊ยกแค่นี้เอง ถือซะว่าฉันเป็นพี่ชาย เธอจะต้องกลัวอะไร ฉันไม่พิศวาสเด็กหรอกน่า”

“ก็รู้ว่าคุณไม่รู้สึกอะไรกับหนู แต่หนูอายนี่” เธอพูดตรงๆ

“ฉันเป็นเจ้าของชีวิตเธอนะ คิดซะว่าฉันเป็นพี่ชายคนหนึ่งล่ะกัน ไว้ใจฉันเถอะ” เขาพูดกลั้วขำ ในขณะที่เด็กสาวลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

นั่นสินะ ตอนนี้ชีวิตเธอเป็นของเขา เขาซื้อเธอแล้วด้วยเงิน สามแสนห้าหมื่นบาท คนที่ไม่มีความสุขเช่นเธอ อยู่ไหนก็มีแต่ทุกข์ ในเมื่อเรื่องราวมันให้เป็นไปอย่างนี้ก็ช่างเถอะ เธอหมดอาลัยสิ้นหวังที่จะมีอนาคตสวยงามแล้วล่ะ มีลมหายใจไปวันๆ ก็เพื่อชดใช้กรรมเก่าเท่านั้นเอง

“เดี๋ยวหนูถอดเองค่ะ” เธอถอดเสื้อยืดตามด้วยเสื้อชั้นในตัวเก่า และกางเกงสามส่วนออกพ้นร่างกาย แน่นอนว่าเธออาย...แต่เธอไม่คิดจะดิ้นรนอะไรอีกแล้วจริงๆ

สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มตะลึงตาค้าง ใครว่าเธอเป็นเด็กกันเล่า มองภายนอกเหมือนอายุยังน้อยมากๆ ไม่มีทรวดทรงความเป็นผู้หญิง แต่เมื่อได้เห็นเนื้อใน...หน้าอกเล็กแต่กลมกลึงขึ้นเต้า ยอดอกสีชมพูชูชัน หน้าท้องแบนราบ ความเป็นหญิงที่สมบูรณ์แบบ

ถึงจะตัวเล็กบอบบาง หากดูน่าทะนุถนอม และไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเกิดอารมณ์กับเธอ

“ปะ เป็นอะไรไปคะ” ฉันท์ชนกถามตะกุกตะกัก ก่อนเปิดฝักบัวราดใส่ตัวเองทั้งหัวและลำตัว นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มเกร็งเครียดไปทั้งตัว บางอย่างที่หลับใหลมานานถูกปลุกในแข็งชันโดยมี กางเกงชั้นในรัดรึงไว้ ทำให้เขารู้สึกร้อนผะผ่าวและอึดอัด

“เธออายุเท่าไหร่แล้ว” ถามเสียงแหบพร่า

บทก่อนหน้า
บทถัดไป