บทที่ 17 เหตุร้าย (50%)

“มีผัวแล้วแต่มันก็ยังกล้ามายุ่งกับผู้ชายของหนู”

“เฮอะ! ผู้ชายของหนูงั้นเรอะ พูดมาได้ไม่อายปาก จะบอกอะไรให้นะ ไอ้จอมพลมันมีเมียแล้ว แถมยังเป็นเมียที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง เผื่อคนสมองทึบอย่างแกจะยังไม่รู้”

“ก็บอกแล้วไงคะ ว่าหนูไม่ได้ทำ มีคนใส่ร้ายหนู” คนที่กอดแม่ร้องไห้กระซิกเงยหน้าขึ้นมาเถียงเสียงแข็ง แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนคนเป็นพ่อตวาดกลับ

“ยังจะมาโกหกหน้าด้านๆ อีก! ให้ตายสิวะ! ฉันจะทำยังไงกับแกดี!”

“หนูไม่ได้ทำจริงๆ หนูไม่ได้ทำพ่อได้ยินไหม!”

“หุบปาก!” รัฐมนตรีสุชาติกัดฟันเค้นเสียงขุ่นคลั่ก ขณะชี้หน้าลูกสาวอย่างเอาเรื่อง “ฉันไม่น่าให้ท้ายนังลูกไม่รักดีอย่างแกเลย ไม่งั้นก็คงไม่เหิมเกริมแบบนี้”

“อย่าบ่นนักเลยน่าคุณ ไหนๆ ก็ประกันตัวลูกออกมาแล้ว” คราวนี้คุณหญิงแขไขซึ่งนั่งเงียบอยู่นานเอ่ยเป็นเชิงปรามสามี ขณะลูบแผ่นหลังบอบบางของลูกสาวอย่างปลอบประโลม

“ก็เพราะให้ท้ายกันอย่างนี้ไงล่ะ ลูกสาวคุณมันถึงได้คิดจะฆ่าคนโดยไม่กลัวความผิด”

“แล้วทีคุณพ่อทำล่ะ มันต่างกันตรงไหน?”

วาจายอกย้อนทำให้คนเป็นแม่ถึงกับยกมือขึ้นทาบอก ตาโต อ้าปากค้าง ส่วนรัฐมนตรีสุชาติก็ถึงกับคำรามลั่น ดวงตาวาวโรจน์ ก่อนจะแผดเสียงกัมปนาทออกมา

“พัดชา!”

“อย่านะคุณ!” ครั้นเห็นท่าไม่ดีคุณหญิงแขไขก็รีบร้องห้ามปรามเสียงหลง เพราะเกรงว่าสามีจะบันดาลโทสะด้วยการลงไม้ลงมือกับลูกสาวสุดที่รัก

คนที่เดือดจัดกำลังจะตวาดสองแม่ลูกด้วยความโมโหสุดขีด ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นเสียก่อน รัฐมนตรีสุชาติกระแทกลมหายใจออกมาหนักๆ แล้วกดรับสายอย่างเสียไม่ได้

“มีอะไรก็ว่ามา!”

ฤทธิ์โทสะที่ยังคงคุกรุ่นทำให้เขาพลั้งปากใส่อารมณ์กับผู้โทรมาอย่างเต็มที่ แล้วก็ต้องหายใจสะดุด เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะหยันดังแว่วมาตามสาย

“ดูเหมือนจะกำลังหัวเสียอย่างหนักนะท่านรัฐมนตรี”

“แกเป็นใคร?”

สุชาติกดเสียงต่ำคาดคั้น เรียกเสียงหัวเราะขลุกขลักกวนอารมณ์

“ลองทายดูสิ”

“อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน!”

“ว้า…เสียใจชะมัดที่คุณจำเพื่อนเก่าไม่ได้ หรือต้องให้ผมสาธยายว่าคุณทำอะไรไว้บ้างเพื่อเก้าอี้รัฐมนตรี” คนพูดจงใจลากเสียงยาวก่อกวนให้สติแตก

“แก!”

ทันทีที่สมองคิดได้ว่าผู้โทรมาคือใครสุชาติก็เค้นเสียงกระด้างปนคำราม ทว่ายังไม่ทันจะได้ตอกกลับอีกฝ่าย เสียงยียวนกวนประสาทก็เอ่ยแทรกขึ้น

“จุ๊ๆๆ เริ่มฉลาดขึ้นแล้วสินะ”

“แกต้องการอะไรจากฉัน?”

“เอ๋…ผมต้องการอะไรดีนะ” จงใจลากเสียงยาวให้ลุ้น แล้วเงียบไปอึดใจ ก่อนจะเปรยออกมาเสียงเอื่อยเฉื่อย “เอาเป็นเก้าอี้ประจำตำแหน่งของคุณดีไหม”

“แกไม่อยากตายดีใช่ไหม?”

“การข่มขู่ประชาชนคนธรรมดาไม่ใช่วิสัยของผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนะท่านรัฐมนตรี อย่าลืมสิ ว่าผมกุมความลับคุณอยู่ ไหนจะยังเรื่องชั่วๆ ของลูกสาวคุณอีก”

“แกจะเอายังไงกับฉันไม่ทราบ!”

“เฮ้! อย่าซีเรียสสิ สิ่งที่ผมต้องการไม่เหนือบ่ากว่าแรงอะไรหรอกน่า” ผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ แล้วจัดการลงดาบในนาทีต่อมา “แค่ให้ลูกสาวของคุณออกไปยอมรับต่อหน้าสาธารณะชนว่าทำชั่วอะไรไว้บ้าง ไล่ตั้งแต่เจ็ดปีก่อน มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน”

“ลูกสาวฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!”

“ถ้าลูกสาวคุณไม่ได้ทำ แล้วใครทำล่ะ”

เสียงกลั้วหัวเราะที่รวนกลับทำให้คนฟังกัดฟันกรอดๆ

“ก็ไอ้หมาลอบกัดอย่างแกไงล่ะ”

“แหม…กล่าวหากันรุนแรงไปนะท่าน คนธรรมดาอย่างผมหรือจะทำอะไรท่านได้ หากท่านไม่ทำตัวของท่านเอง” คนที่กำลังเล่นกับความรู้สึกของผู้ที่มีชนักติดหลังเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ

“แกมันบ้า! ไอ้โรคจิต!”

สุชาติตะคอกใส่โทรศัพท์ แล้วกดตัดสายด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น ก่อนจะหลุดสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาหลายต่อหลายครั้ง แล้วนั่งกุมมือตัวเองด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม ในหัวสมองว้าวุ่นเพราะคิดไม่ตก และไม่ยอมปริปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียวเมื่อภรรยาเอ่ยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง กระทั่งคุณหญิงแขไขเอ่ยขอร้องถึงได้ยอมเปิดปากออกมาด้วยท่าทางเครียดจัด สีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“เราต้องให้พัดชาออกไปแถลงข่าวยอมรับผิดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อน เรื่องการตายของอรอุมาเมียเก่าไอ้จอมพล รวมถึงเรื่องการตายของนีรา ไม่งั้นเรื่องของผมจะถูกเปิดโปง และผมอาจจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง”

“ใครมันจะทำอะไรคุณได้ขนาดนั้น!?”

“ก็คนที่มันกุมความลับของผมไว้ไงล่ะ”

คราวนี้คุณหญิงแขไขตกใจจนหน้าซีดเผือด เพราะรู้โดยอัตโนมัติ ว่าใครคือผู้ที่โทรมาเล่นสงครามประสาทกับสามีของตนเมื่อครู่นี้ ส่วนพัดชาก็ถึงกับร้องค้านเสียงหลง

“ไม่นะคะ! แพทตี้ไม่ยอม!”

“ถ้าไม่ยอม แกก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันว่าแกไม่ผิด ต่อให้จริงๆ แล้วแกจะผิดก็ตาม”

วาจาประกาศิตทำให้ลูกสาวกรีดร้องด้วยความคับข้องใจ ส่วนผู้เป็นภรรยาก็ถึงกับกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้มพอกัน แล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอันแสนอึดอัด

เกาะมุกฟ้า ทะเลอันดามัน

จักรพรรดิที่เพิ่งพานพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่จนเกินจะรับไหว หอบลูกสาวตัวน้อยย้ายมาตั้งหลักที่เกาะมุกฟ้า เกาะส่วนตัวที่เป็นมรดกตกทอด เพราะไม่อยากให้ลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ภาพของนีรา และหวังว่ากาลเวลาจะช่วยเยียวยาให้ลูกสาวที่อยู่ในวัยกำลังจดจำลืมเลือนความเจ็บปวดไปในที่สุด

“ปะป๊า…”

“ขาลูก”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป