บทที่ 3 ความคิดถึง
ความเสียใจที่เกิดขึ้น ทำให้ฉัตรฉายตัดสินใจย้ายมาจากที่นั่น ตั้งแต่คบกันมา หลายครั้งที่เธอจับได้ว่าเติมเต็มมีคนอื่น เพราะคำว่ารักจึงยอมให้อภัย แต่ครั้งนี้ถึงขั้นเลี้ยงดูเป็นเรื่องราว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องทน จากมาเริ่มชีวิตใหม่ ดีกว่าจมปลักอยู่ที่เดิม เพื่อเจอกับความเจ็บปวดซ้ำ ๆ เติมเต็มรักเธอจริง ๆ หรือแค่คบกับเธอเพื่อเอาชนะคนอื่นกันแน่
“ฉัตรแม่โทรมาถาม สงกรานต์จะกลับบ้านไหม” ฉายแสงถามน้องสาว ก่อนจะถอนหายใจออกมา ฉัตรฉายทำงานหนักเกินไปแล้ว กลัวว่าน้องจะล้มป่วยเข้าสักวัน
“งานเยอะเหรอ” เมื่อน้องไม่ตอบจึงถามคำถามใหม่
“ทำแผนการสอนน่ะพี่ฉาย ฉัตรอยากให้เสร็จก่อนเปิดเทอม” ตอบแต่มือยังไม่ล่ะจากงานที่ทำ
“ฉัตรไม่ได้กลับบ้านนานแล้วนะ ยังทำใจไม่ได้ใช่ไหม” คำถามของพี่ชายทำให้ฉัตรฉายหยุดมือที่กำลังทำงาน แล้วหันมาเผชิญหน้ากับคนถาม
“เปล่า ฉัตรลืมมันไปหมดแล้ว ฉัตรแค่ยังไม่อยากกลับ” ถึงจะปฏิเสธ แต่ฉายแสงก็จับน้ำเสียงของน้องได้ แววตาที่มองมานั่นอีกบอกให้รู้ว่า ฉัตรฉายยังคงเจ็บปวด
“ฉัตร คุยกับพี่ได้นะ พี่พร้อมจะรับฟังฉัตรทุกเรื่อง”
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ฉาย ฉัตรไม่เป็นอะไร” แผลที่เติมเต็มทำไว้ ไม่ได้สร้างแค่ความเจ็บปวด แต่มันยังเป็นแผลเป็นปื้นใหญ่ นึกถึงทีไรใจก็เจ็บทุกที
“ไม่เป็นไรนะฉัตร ไม่ไหวก็อย่าฝืน”
เรื่องราวมันผ่านมานานแล้วก็จริง แต่ทำไมเธอยังลืมเขาไม่ได้สักที
“ถ้าฉัตรพร้อม เราค่อยกลับบ้านพร้อมกันนะ”
ฉายแสงปลอบน้อง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็พร้อมอยู่ข้างน้องเสมอ
“ขอเวลาอีกนิดนะพี่ฉาย” เธอทำใจไว้แล้ว หนียังไงก็หนีไม่พ้น เพราะแม่กับน้องยังอยู่ที่นั่น ยังไงเธอก็ต้องกลับ แม่บอกว่าเฉิดฉินไม่ไปโรงเรียนติดเพื่อน และออกเที่ยวทุกคืน ปล่อยน้องไว้แบบนั้นสักวันคงเสียคน
ถึงแม้จะเสียใจและรู้สึกผิดที่ทำให้คนรักเสียใจ แต่เติมเต็มก็ต้องตัดใจ เพราะมีเรื่องที่ใหญ่กว่ารออยู่ จากคนที่ไม่มีอนาคตต้องลุกขึ้นมาเป็นเสาหลักของบ้าน เมื่อพ่อถูกลอบทำร้ายก่อนลงสมัครเลือกตั้งนายกอบจ. เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เขากับพ่อคุยกันมากขึ้น บ้านที่เคยเงียบเหงากลับมามีชีวิตชีวา เมื่อทุกคนหันหน้าเข้าหากัน พ่อยอมให้เต็มใจเข้าบ้าน และให้ฝ่ายชายเข้ามาทำให้ถูกต้องตามประเพณี เต็มใจกำลังจะมีหลาน ในที่สุดสิ่งที่เขารอคอยก็เกิดขึ้นจริง ๆ เขาอยากให้คนในบ้านมีความสุข
เวลาผ่านไปนานแล้วก็จริง แต่เขายังคิดถึงฉัตรฉายทุกวัน ได้แต่หวังว่าสักวันเธอจะกลับมา หลายครั้งที่อยากตามไปง้อขอคืนดี แต่เพราะความขี้ขลาดของเขา จึงปล่อยให้เวลาผ่านมาเนิ่นนาน มีหลายอย่างที่เขาอยากบอกกับเธอ โดยเฉพาะคำว่าขอโทษ เขาอยากพูดคำนี้ และอยากให้เธอให้อภัยเขา
“พี่เติม นั่นมันน้องคุณฉัตรนี่หว่า มาทำอะไรแถวนี้วะ” ต๋องชี้ให้ลูกพี่ดูเด็กหนุ่มรูปร่างผอมแห้ง ที่กำลังเดินไปข้างหลังอู่ เป็นที่รู้กันดีว่าคนที่นี่ต้องการอะไร
“ดูจากสภาพ ท่าทางจะหนักเอาการ” คำพูดของลูกน้องทำให้เติมเต็มต้องหันไปมอง ตาคมเข้มมองคนที่ใส่ชุดนักเรียนม.ปลายก่อนจะส่ายหัวไปมา เฉิดฉินน่าจะกำลังลงแดง
“เอาไงต่อพี่ ปล่อยไว้งั้นตายแน่ ๆ” เสกถามเพราะสงสารคนที่ยังอ่อนต่อโลก เติมเต็มยังมองเด็กหนุ่มอยู่อย่างนั้น ถ้าฉัตรฉายรู้ว่าน้องติดยา เธอก็คงโทษว่าเป็นความผิดของเขา ในสายตาของเธอเขากลายเป็นคนเลวไปแล้ว แต่ถ้าปล่อยเอาไว้เฉิดฉินก็จะทรมาน จนถึงขั้นขาดใจตาย
“เอาตัวกลับไป ระวังหน่อยนะยังใหม่อยู่ แรก ๆ ก็ให้มันก่อน รอจนร่างกายมันฟื้น ค่อยพาไปวัด”
“ถ้าคุณฉัตรรู้คงโทษพี่” ต๋องออกความคิด
“ช่างแม่ง” มาถึงตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ช่วยคนคือสิ่งที่เขาต้องทำ
ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยมีใครพูดถึงครอบครัวเขาในแง่ดีอยู่แล้ว รวยเพราะค้ายาคำนี้เขาได้ยินตั้งแต่เด็กจนโต มีปากก็พูดกันไป คนพวกนั้นไม่รู้เลยเหรอว่า ก่อนที่พ่อจะหันไปเล่นการเมือง พ่อทำอาชีพอะไร สิบปีมานี้ทุเรียนราคาดี โดยเฉพาะเกรดส่งออก พ่อเขาเป็นเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ลำดับต้น ๆ ของจังหวัดจันทบุรี ต่อให้ไม่เล่นการเมือง ไม่ต้องรับเหมาก่อสร้าง ก็มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ
