บทที่ 5 ตอนที่5.กลับบ้าน

ตั้งแต่ณชากลับมาอยู่ด้วย มานิตย์ก็สดชื่นขึ้น จนเพื่อนร่วมงานยังอดแซวไม่ได้ มานิตย์ทำโอทีทุกวัน เพื่อเตรียมเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายตอนหลานคลอด ถึงแม้จะคลอดฟรี แต่มานิตย์ก็อยากมีทุกอย่างเตรียมไว้ให้หลาน

“นัดดูนี่สิ ชอบไหม” ณชาหันไปตามเสียงเรียก ว่าที่คุณแม่ขยับตัวเชื่องช้า เพราะเจ้าตัวเล็กในท้องโตวัน

โตคืน

“อะไรเหรอแม่” ถามแม่ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นสิ่งที่แม่ถืออยู่ในมือ

“เสื้อกับถุงเท้า แม่ถักให้หลาน ไม่ได้ถักนานมือไม้แข็งไปหมด” มานิตย์พูดด้วยความเขินอาย อายที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ สมัยที่คลอดณชา เธอจำได้ว่าเสื้อผ้าก็ใส่ของเก่าที่คนงานด้วยกันให้มา ผ้าอ้อมก็ฉีกผ้าถุงเอา

ที่นอนหมอนมุ้งไม่มี เพื่อนคนงานที่อยู่ข้างห้องสงสาร

เลยซื้อนุ่นมายัดผ้าถุงเย็บหัวเย็บท้าย ณชาจึงมีที่นอนนุ่ม ๆ นอน เวลาฉี่ก็กลับหน้ากลับหลังเอา วันไหนแดดดีหน่อยก็เอาออกไปตากแดด แต่สมัยนี้มันไม่เหมือนกัน นางอยากให้หลานมีของดี ๆ ใช้จึงขยันทำโอที

“ขอบคุณนะแม่...” ณชาน้ำตารื้นหัวตา แม่เอาเวลาที่ควรพักผ่อนมาถักเสื้อผ้าให้ลูกของเธอ ไม่รู้ว่าจะขอบคุณแม่ยังไงให้คุ้มค่ากับความรักความเมตตาที่แม่มีให้เธอ

“หมอนัดอีกทีวันไหน แม่ว่าจะเหมารถหัวหน้าไป รถเมล์คนเยอะอึดอัด เจ้าตัวเล็กลำบากแย่เลย”

“ไม่ต้องหรอกแม่ นัดนั่งรถเมล์ได้ แม่อย่าลำบากอีกเลยนะ นัดยังมีเงินอยู่ แม่ไม่ต้องทำโอแล้วนะ” ณชาบอกกับแม่ มานิตย์ยิ้มให้ลูกพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้ลูกอีกนิด

“ใครบอกว่าแม่ลำบาก แม่ก็ทำอย่างนี้ทุกวัน ทำตุนไว้ก่อน ช่วงไหนไม่มีงานเงินจะได้ไม่ขาดมือ อย่าคิดมากนะนัด เงินที่แม่เตรียมไว้ให้นัดเรียนยังอยู่ แม่ไม่ให้ลูกกับหลานแม่ลำบากหรอก ทำใจให้สบายนะ ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กไม่สวยนะ”

“แม่”

“วันหยุดไปในเมืองกันนะ ไปซื้อของเตรียมให้หลานกัน นางฝนมันหัวโบราณไม่เตรียมของให้ลูก พอไปคลอดพยาบาลถามหาเสื้อผ้าเด็ก ไม่มีไปสักชุด ถูกดุชุดใหญ่เลย สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้ว เตรียมไว้ก่อนจะได้เอาไปใช้ที่โรงพยาบาลด้วย

“ไว้นัดทำงานได้เมื่อไหร่ นัดจะคืนให้แม่นะ”

“ไม่เป็นไร อย่าคิดมากสิ” สำหรับมานิตย์แล้วลูกกับหลานคือความสุขของนาง ต่อให้ลำบากกว่านี้นางก็

สู้ไหว

ณชาคลอดและพาลูกมาอยู่ที่ไซต์ก่อสร้างได้ไม่นาน ที่ไซต์ก็เกิดเรื่องขึ้น เพราะผู้รับเหมาคนเก่าหอบเงินหนีไป ผู้รับเหมาคนใหม่มีคนงานของเขาอยู่แล้ว คนงานที่ไซต์จึงถูกลอยแพ เธอกับแม่จึงออกมาเช่าบ้านอยู่ เพราะแม่วางแผนมาดีเงินจึงไม่ขาดมือ รวมกับเงินเก็บที่เธอมีจึงซื้อของใช้ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านได้หลายชิ้น รอให้มีเธอโตกว่านี้อีกสักหน่อย เธอจะออกไปหางานทำ จะได้แบ่งเบาภาระแม่ เธอทำได้ทั้งนั้น เชียร์เบียร์ ชงเหล้า เป็น

พริตตี้ตามสนามแข่งรถ ขอให้ได้เงินมาเลี้ยงแม่กับลูก

ก็พอ

ฉัตรฉายกับฉายแสงตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่บ้าน เมื่อรู้ว่าเฉิดฉินติดยา ตอนแรกแม่บอกแค่ว่าเฉิดฉินเกเร เธอนึกว่าน้องเกเรตามประสาวัยรุ่นทั่วไป โชคดีที่ป้าข้างบ้านโทรไปบอก จึงรู้ความจริง แม่คงกลัวว่าปัญหาของน้องจะทำให้งานเธอสะดุด เธอจะเสียใจมากกว่าถ้าไม่ได้กลับมาดูแลแม่กับน้อง เฉิดฉินเข้าไปอยู่ในแก๊งของเติมเต็มนี่ต่างหากที่เธอเป็นห่วง ใคร ๆ ก็รู้ว่าเติมเต็มไม่ใช่คนดี

“อย่าให้เจอตัวนะ แม่จะตีให้หลังลายเลย”

โฉมฉายบ่นมาตลอดทางเมื่อยังหาลูกชายคนเล็กไม่เจอ ฉัตรฉายได้แต่ส่ายหัว น้องเป็นแบบนี้จะให้เธอทิ้งแม่ทิ้งบ้านได้ยังไง

“ทำไมแม่ไม่บอกฉัตรตั้งแต่ตอนที่น้องเปลี่ยนไป” ฉัตรฉายถามหาเหตุผล มาแก้ไขตอนนี้ก็ปลายเหตุเสียแล้ว

“แม่ไม่อยากให้ฉัตรไม่สบายใจ” ฉัตรฉายกลอกตาให้กับคำตอบของแม่

“แล้วไงล่ะแม่ กลัวฉัตรไม่สบายใจ แต่ตัวเองไม่สบายทั้งกายและใจ แบบนี้ดีเหรอแม่”

“แม่ไม่คิดว่าเฉิดจะติดยา”

“เฉิดไปมั่วกับพวกเติมเต็มนานหรือยัง”

“แม่ก็ไม่รู้ เฉิดแต่งตัวไปโรงเรียนทุกวัน กลับช้าก็อ้างว่ามีกิจกรรม แม่สงสัยเลยตามไปดู ก็อย่างที่เห็น เฉิดไปอยู่ที่อู่ของเติมทุกวัน” แม่พูดเสียงเศร้า ฉัตรฉายรู้ว่าแม่เสียใจจึงไม่อยากถามอะไรอีก ช่วยกันแก้ดีกว่ามาโทษว่าเป็นความผิดของใคร เด็กสมัยนี้ดื้อรั้นและเลี้ยงยาก เธอเป็นครูเธอรู้ดี

จังหวะที่เจอหน้ากันฉัตรฉายทำเหมือนเติมเต็มเป็นอากาศ เธอมาที่นี่เพราะรับน้องกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้เธอคงไม่มา แม่พาเฉิดฉินขึ้นรถ ในขณะที่เติมเต็มตามมาเพื่อขอเคลียร์

“คุยกันก่อนนะฉัตร เราขอโทษ” เติมเต็มไม่รีรอที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษ เรื่องราวในวันนั้นเป็นความผิดของเขาคนเดียว ฉัตรฉายมองเติมเต็มเหมือนอากาศดังเดิม มันจบไปแล้วไม่จำเป็นต้องมารื้อฟื้นอะไรอีก

“เพราะเราไม่รับคำขอโทษใช่ไหม เติมถึงยังตามเราไม่เลิก” ฉัตรฉายถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะฉัตร เราเสียใจ”

“เก็บความเสียใจของเติมไว้เถอะ เอาเป็นว่าถ้ายังอยากอยู่แผ่นดินเดียวกัน อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีก เราไม่มีอะไรต้องยกโทษให้เธอ เพราะเราไม่รับคำขอโทษของเธอ จำไว้นะว่าเราเกลียดเธอ เราไม่อยากเห็นหน้าเธออีก...” พูดจบฉัตรฉายก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป น้ำตารื้นหัวตาเมื่อมองกระจกมองหลัง

เติมเต็มยังยืนอยู่ที่เดิมฉัตรฉายเกลียดเขาแล้วจริง ๆ แม้แต่คำว่าขอโทษเธอก็ไม่ยอมรับ เขาผิดก็ยอมรับผิดทุกอย่าง เธอจะทรมานเขาไปถึงไหนกัน

“ฉัตรฉาย!” เติมเต็มตะโกนลั่นไม่รู้แล้วว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้คืออะไร รักก็รักแค้นก็แค้น ความผิดที่เขาทำมันหนักหนามากก็จริง แต่เขาสำนึกผิดแล้ว ทำไมเธอไม่ยอมยกโทษ และให้อภัยเขาสักที

บทก่อนหน้า
บทถัดไป