บทที่ 2
เอลิซาเบธแค่นเสียง "อย่างแรกเลยนะ ฉันไม่เคยเอาอะไรไปจากยัยนั่น ตรงกันข้าม ยัยนั่นต่างหากที่มาแทนที่ฉันแล้วเสวยสุขกับชีวิตสบายๆ ของตระกูลคลาร์กมาตั้งหลายปี"
"อย่างที่สอง คุณต้องเข้าใจนะว่าเป็นพวกคุณเองที่ทำฉันหายไปในตอนนั้น"
"ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรยัยนั่น และฉันก็ไม่ได้ติดค้างอะไรพวกคุณ เพราะงั้นฉันไม่รู้สึกว่าต้องชดเชยให้ใครทั้งนั้น"
พอเห็นว่าเบ็ตตี้กำลังจะอ้าปากพูด เธอก็พูดต่อ "ถ้าเบรนด้าอยากจะเป็นลูกสาวตระกูลคลาร์กต่อ ก็เป็นไปได้เลย ฉันไม่สนใจสักนิด"
เบ็ตตี้ตกตะลึง ไม่คิดว่าเอลิซาเบธจะพูดแบบนี้ออกมา "นี่ลูกหมายความว่ายังไง"
เอลิซาเบธตอบอย่างเฉยเมย "ก็อย่างที่พูดไปนั่นแหละ ฉันกำลังจะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับพวกคุณเดี๋ยวนี้ และจะออกจากตระกูลคลาร์ก"
"จากนี้ไป เจอหน้ากันก็ให้เหมือนคนแปลกหน้า"
เธอเสริม "ฉันจะไป และเบรนด้า ลูกสาวบุญธรรมของคุณ ก็จะยังคงเป็นคุณหนูน้อยของตระกูลคลาร์กต่อไป"
"พวกคุณไม่ต้องกังวลว่าฉันจะมาแย่งของของยัยนั่น หรือแย่งความรักที่พวกคุณมีให้ยัยนั่น ฉันถือว่าช่วยพวกคุณแล้วกัน"
คำพูดของเอลิซาเบธกระทบตระกูลคลาร์กอย่างจัง
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะต้องการตัดขาดความสัมพันธ์และออกจากครอบครัวจริงๆ
เบรนด้าเอนตัวซบเบ็ตตี้ ทำหน้าตาดูรู้สึกผิดและเสียใจ "ไม่นะคะ พี่ หนูต่างหากที่ควรจะเป็นคนไป"
"หนูขอโทษนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะแย่งโอกาสของพี่ หนูแค่ชอบรายการวาไรตี้นั่น ริชาร์ดก็เลยไปคุยกับพี่"
"หนูไม่เอาแล้วค่ะรายการนั้น พี่อย่าโกรธเลยนะคะ หนูไม่อยากทำให้คุณแม่ คุณพ่อ หรือพวกพี่ชายไม่สบายใจ"
เธอดูไร้เดียงสาเต็มที่ แต่จริงๆ แล้วก็แค่กำลังเล่นละครตบตา
เธอทำให้ดูเหมือนว่าไม่ได้ตั้งใจจะแย่งโอกาสของเอลิซาเบธ และแสดงให้เห็นว่าตัวเอง "คิดถึงคนอื่น" แค่ไหน เธอยังทำให้ดูเหมือนว่าเอลิซาเบธเป็นตัวร้าย ที่ใช้การข่มขู่เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
และก็เป็นไปตามคาด สีหน้าของคนในตระกูลคลาร์กยิ่งบูดบึ้งลงไปอีก
เอลิซาเบธจ้องเบรนด้าเขม็ง "เลิกเสแสร้งทำเป็นใสซื่อได้แล้ว ฉันมองเธอทะลุปรุโปร่ง"
เธอหมดสิ้นเยื่อใยกับครอบครัวแล้ว และจะไม่ญาติดีกับเบรนด้าอีกต่อไป
"เธอพูดว่าจะไปๆ มาเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังอยู่เนี่ย บทละครน้ำเน่าของเธอหลอกได้แต่พวกโง่เท่านั้นแหละ"
เธอเสริม "แน่นอน เธอคงไม่มาขออะไรฉันตรงๆ หรอก แค่เธอแย้มๆ นิดหน่อย พวกคนที่คอยตามใจเธอในบ้านนี้ก็ประเคนทุกอย่างที่เธอต้องการให้แล้ว"
"แล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกนะ ฉันไม่สนใจพวกที่คอยเอาอกเอาใจเธออีกต่อไปแล้ว พวกนั้นทำอะไรฉันไม่ได้แล้ว"
สีหน้าของคนในตระกูลคลาร์กพลันมืดครึ้มลงทันที
สีหน้าของเบรนด้าเปลี่ยนไป เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะสะกดกลั้นความโกรธ
เธอเกาะแขนเบ็ตตี้ ทำท่าทางเจ็บปวด "หนูเปล่านะคะ อย่าพูดถึงคุณแม่ คุณพ่อ แล้วก็พี่ชายแบบนั้นสิคะ"
ได้ผล เบ็ตตี้โกรธจัด "นี่แกพูดอะไร มารยาทของแกหายไปไหนหมด"
เอลิซาเบธยักไหล่ "ฉันเกิดมามีพ่อแม่แต่ไม่เคยถูกเลี้ยงดู ไม่มีใครสอนมารยาทให้ฉันนี่"
คนตระกูลคลาร์กถึงกับพูดไม่ออก
เบ็ตตี้มองเอลิซาเบธด้วยความผิดหวัง "นี่ยังจะโทษพวกเราอีกเหรอ เรารับลูกกลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าเราจะคิดผิดไปจริงๆ"
"ตลอดปีที่ผ่านมานี้ เราชดเชยให้ลูกอย่างงามแล้ว ลูกยังต้องการอะไรอีก"
เมื่อก่อนคำพูดเหล่านี้เคยทิ่มแทงและทำให้เอลิซาเบธปวดใจ แต่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วจริงๆ
เธอหยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนลงบนโต๊ะ "นี่คือค่าชดเชยที่คุณให้ฉัน ฉันยังไม่ได้ใช้แม้แต่สตางค์แดงเดียว"
ในบัตรนั้นมีเงินห้าหมื่นดอลลาร์ แต่เธอไม่ได้แตะต้องมันเลย
"ตั้งแต่มาอยู่ที่ตระกูลคลาร์ก ฉันไม่เคยแตะต้องของอะไรก็ตามที่พ่อบ้านซื้อมาให้เลย"
แต่สำหรับของที่ฉันใช้ไป ฉันจะจ่ายคืนให้เป็นเงินสด
เธอวางกระดาษโน้ตที่เขียนไว้บนโต๊ะ "ฉันอยู่ในตระกูลคลาร์กมาปีกว่า รวมค่าอาหาร เสื้อผ้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ฉันใช้ไปไม่ถึงห้าพันดอลลาร์ นี่คือรายการ"
"ฉันเพิ่งโอนเงินห้าพันดอลลาร์เข้าบัตรใบนี้แล้ว ต่อจากนี้ไป เราหายกัน"
ถ้าปัญหาไหนแก้ได้ด้วยเงิน ปัญหานั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากที่แท้จริง
เอลิซาเบธชำระบัญชีกับตระกูลคลาร์กเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาติดค้างเธอทางความรู้สึกจะยังคงเป็นหนี้ไปตลอดกาล
การกระทำของเธอทำให้ตระกูลคลาร์กตระหนักว่าเธออาจจะเอาจริง และมันทำให้พวกเขารู้สึกอับอายเล็กน้อย
เบ็ตตี้ตบโต๊ะ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ "ก็ได้ ถ้าวันนี้แกก้าวออกจากประตูนี้ไป ก็อย่าคิดจะกลับมาอีก!"
หล่อนเชื่อว่าเอลิซาเบธไม่มีทางทอดทิ้งตระกูลคลาร์กและพวกเขาไปได้
เจตนาของเบ็ตตี้คือต้องการเตือนเอลิซาเบธว่าอย่าทำเกินไป ไม่ใช่จะให้เธอไปจริงๆ
คนอื่นๆ นิ่งเงียบ เห็นได้ชัดว่าเห็นด้วยกับเบ็ตตี้
"ถ้าฉันไป ฉันจะไม่กลับมา" เอลิซาเบธพูดจบก็หันหลังเดินออกไป ลากกระเป๋าเดินทางโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นดังนั้น ในที่สุดพอลก็พูดขึ้น "หยุดทำเรื่องไร้สาระได้แล้ว เบรนด้าจะไม่แย่งโอกาสรายการวาไรตี้ของแกอีก"
"ต่อไป พ่อจะให้ริชาร์ดหาโอกาสดีๆ ให้แกเพิ่มอีก"
ไม่ว่าจะอย่างไร เอลิซาเบธก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขา พวกเขาปล่อยเธอไปจริงๆ ไม่ได้หรอก
เอลิซาเบธหันไปหาพอล สีหน้าเย็นชา "นี่คุณกำลังใช้โอกาสมาดูถูกฉันเหรอ?"
พอลขมวดคิ้ว "พ่อไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พ่อแค่อยากจะบอกลูกว่าในเมื่อเราหาลูกเจอแล้ว เราก็จะชดเชยให้"
เอลิซาเบธรู้สึกว่ามันน่าหัวเราะสิ้นดี "ฉันคงต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับการชดเชยของคุณ"
"ตลอดปีที่ผ่านมา ฉันสัมผัสได้ถึงความเย็นชา คำต่อว่า และการดูถูกเหยียดหยามจากพวกคุณ"
"ดังนั้น ฉันไม่กล้ารับการชดเชยของคุณจริงๆ หรอก"
พอลชะงักไป ตระหนักว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็เปลี่ยนใจเธอไม่ได้ เขาถอนหายใจแล้วถาม "ตกลงเธอต้องการอะไรกันแน่?"
ปกติเขาจะยุ่งมาก และก็ละเลยเอลิซาเบธไปมากจริงๆ ตลอดปีที่ผ่านมา
เอลิซาเบธกล่าว "เราตัดขาดความสัมพันธ์กัน มันง่ายๆ แค่นั้นแหละ"
"อย่าติดต่อฉันมาอีก ฉันไปล่ะ"
พอลโกรธจัดกับท่าทีของเอลิซาเบธ และสีหน้าของลูกชายตระกูลคลาร์กทั้งห้าคนก็แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนเช่นกัน
โดยเฉพาะเควิน ที่มองเอลิซาเบธด้วยแววตาทั้งซับซ้อนและโกรธเคือง "ทำวุ่นวายไปมาทั้งหมดนี่ เธอก็ยังโทษฉันอยู่ดีสินะ"
"เธอแค่อยากจะใช้เรื่องนี้มาบีบให้พวกเรายอม แล้วก็มาแข่งแย่งความโปรดปรานกับเบรนด้า"
เอลิซาเบธมองเควินอย่างเย็นชา "แล้วฉันไม่ควรโทษนายหรือไง?"
"นายทำฉันหายไปตอนนั้น ทำให้ฉันถูกลักพาตัวไป เกือบจะถูกขายเป็นทาส"
"ฉันควรจะรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณที่นายทำฉันหายงั้นสิ?"
หน้าเควินแดงก่ำ "ตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจนี่นา แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเธอเกือบถูกขายเป็นทาส"
เอลิซาเบธเลิกคิ้ว "ไม่ได้ตั้งใจ งั้นมันก็ลบล้างความจริงที่ว่านายทำฉันหายและเปลี่ยนชีวิตฉันไปทั้งชีวิตได้สินะ?"
หลังจากกลับมาที่ตระกูลคลาร์ก เควินแสดงความปรารถนาดีและความห่วงใยต่อเธอมากกว่าพี่น้องอีกสี่คน พอล และเบ็ตตี้ ราวกับจะชดเชยความผิดพลาดในอดีตของตน
แต่ทว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอมีเรื่องขัดแย้งกับเบรนด้า เขากลับเข้าข้างเบรนด้าเสมอ
แล้วแบบนี้ เธอจะต้องการพี่ชายที่แย่แบบนี้ไปทำไมกัน?










































































































































































































































































































































































































































































































