3.นางฟ้า
“นี่มันเรื่องบ้าบออะไรที่ว่าฉันทำเธอท้อง?” อเลคอสคำราม
ฉันอยากจะอธิบาย แต่เขาก็ยังตะคอกใส่ฉันไม่หยุด “เธอไปบอกเรื่องนี้กับใครอีกไหมนอกจากพนักงานต้อนรับน่ะ?”
ฉันส่ายหน้า
“ดี เพราะถ้าข่าวลือเรื่องที่ฉันทำลูกสาวท่านดยุกท้องหลุดไปถึงหูพวกนักข่าวล่ะก็ ฉันฆ่าเธอแน่!”
ฉันไม่สงสัยเลยว่าเขาจะทำจริง
“แล้วทีนี้ฉันก็ต้องหาพนักงานต้อนรับคนใหม่เลยเห็นไหม”
ฉันกะพริบตา “แต่ทำไมล่ะคะ?”
“ก็เพราะยัยนั่นเห็นหน้าเธอแล้ว ฉันไม่อยากจะก่อสงครามกับพวกดยุก”
ฉันครางออกมา ฉันน่าจะคิดถึงเรื่องนั้นก่อน
“ฟังนะ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้นาย” อเลคอสดูไม่เชื่อ “ฉันพูดแบบนั้นไปก็เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พนักงานต้อนรับยอมบอกนายว่าฉันมาหา แล้วก็โปรดอย่าไล่เธอออกเลยนะ”
เขาผ่อนคลายลงแต่ยังคงใช้ร่างกักฉันไว้ “เธอต้องการอะไร?” น้ำเสียงของเขาเย็นชาและหยาบกระด้าง
ฉันลดสายตาลงมองต่ำ แม้ว่าเขาจะสวมเสื้ออยู่ ฉันก็ยังเห็นลอนกล้ามเนื้อที่เด่นชัดของเขา เขาไปเข้ายิมมาหรือเปล่านะ? “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนาย”
ฉันรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ยังเงียบ จากนั้นสายตาของฉันก็สบกับตาเขา แล้วเขาก็หัวเราะออกมา “เธอมาขอความช่วยเหลือจากฉันเนี่ยนะ? ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะได้เห็นวันนี้กับตา”
ฉันอาจจะเคยบอกเขาไปตอนที่เราทะเลาะกันใหญ่โตว่าเขาเป็นพวกหลงตัวเอง คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง และฉันจะไม่มีวันต้องการอะไรจากเขาเลย
“อะไรทำให้เธอคิดว่าฉันอยากจะช่วยเธอล่ะ?” เขาแค่นเสียง
นั่นสิ ทำไมกันนะ?
แต่จากที่ฉันอ่านเรื่องของเขาในอินเทอร์เน็ตและรูปถ่ายของเขากับผู้หญิงมากมายที่ฉันเห็น ฉันรู้ว่าอเลคอสชอบอะไรมากที่สุด—เซ็กส์ พวกท่านลอร์ดทุกคนก็เป็นแบบนั้น
สิ่งที่ฉันต้องทำเพื่อหนีออกจากเมืองนี้ เพื่อหนีไปจากคาร์ลอส
ฉันยืดตัวตรง และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เพราะฉันยังมีสิ่งหนึ่งที่นายเคยต้องการจากฉัน และฉันไม่เคยให้นาย”
เขาหรี่ตาลง “สิ่งไหน?”
นี่เขาเอาจริงเหรอ?
ฉันไม่เคยเป็นคนขี้อาย แต่การต้องพูดมันออกมาดังๆ ก็ทำให้ฉันอายเหมือนกัน
อเลคอสกำลังรออยู่ และฉันบอกได้เลยว่าเขาใกล้จะโยนฉันออกจากห้องทำงานเต็มทีแล้ว
“พรหมจรรย์ของฉัน” ฉันพึมพำ
ฉันอยู่มัธยมปลายปีหนึ่งตอนที่เจออเลคอส เขาอยู่ปีสามและเป็นหนึ่งในหนุ่มฮอต ขณะที่ฉันเป็นแค่เด็กเรียนขี้อาย แต่ยังไงไม่รู้ เรากลับเข้ากันได้ดี
ไม่เคยมีอะไรโรแมนติกระหว่างเรา ไม่ใช่เพราะเราไม่ได้ชอบพอกันแบบนั้น แต่เป็นเพราะพวกตระกูลลอร์ดกับดยุกเขาไม่สุงสิงกัน
และถึงแม้ว่าโรงเรียนมัธยมจะเป็นโรงเรียนสหศึกษา และเราจะแอบคบกันลับๆ ได้ แต่ฉันก็ปฏิเสธเขาไปตอนที่เขาชวนฉันออกเดท
ฉันกลัวว่าพ่อจะทำยังไงถ้าท่านรู้เรื่องอเลคอสเข้า ท่านแทบจะไม่ยอมให้ฉันเรียนที่โรงเรียนมัธยมนั่นด้วยซ้ำ ท่านยอมก็เพราะซัลมา อดีตเพื่อนสนิทของฉัน ก็เรียนที่โรงเรียนเดียวกัน
ตอนฉันอยู่ปีสอง อเลคอสบอกว่าเขารักฉัน และการที่ไม่ได้อยู่กับฉันมันทรมานมาก
ฉันอยากจะตอบตกลง อยากจะเป็นแฟนกับเขาและมีอิสระที่จะรักเขา แต่ฉันก็ปฏิเสธเขาไปอีกครั้ง
อเลคอสกับฉัน เราควรจะเป็นศัตรูกัน ไม่ใช่รักกัน
และตอนนั้น คาร์ลอสก็เริ่มให้ความสนใจฉันมากขึ้นแล้ว และฉันก็กลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับอเลคอสถ้าใครรู้เข้า ฉันเลยฝังความรู้สึกที่มีต่อเขาไว้ลึกสุดใจ
ไม่นานหลังจากการปฏิเสธครั้งที่สองของฉัน อเลคอสก็เลิกคุยกับฉัน มันเจ็บปวด เจ็บปวดมากจนฉันร้องไห้อยู่หลายสัปดาห์ แล้วเขาก็ทรยศฉันด้วยวิธีที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เขาละสายตาลงมองหน้าอกฉัน – แววตาไม่ยี่หระ
ฉันเป็นพวกผู้หญิงที่ไม่ได้มีหน้าอกใหญ่โต มันทำให้ฉันประหม่าเสมอ โดยเฉพาะตอนมัธยมปลาย ที่พวกผู้ชายเอาแต่สนใจผู้หญิงหุ่นสะบึม อเลคอสก็ชอบแบบนั้นเหมือนกัน
“รู้ไหม แองเจิล เธอยังเป็นนังแพศยาคนเดิมที่ฉันเจอตอนมัธยมปลายเลย อะไรทำให้เธอคิดว่าฉันสนใจจะฟันเธอ ในเมื่อฉันจะมีผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่ฉันต้องการ”
ฉันน่าจะเดาได้ว่าเขาสนใจแต่ผู้หญิงที่มีนมมีก้นให้จับถนัดมือ แต่ฉันยังไม่พร้อมจะยอมแพ้ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ “เพราะฉันจำได้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่นายยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ฉันเปลื้องผ้า”
สายตาเขายังคงไล่มองสำรวจร่างกายฉัน ประเมินเหมือนฉันเป็นสินค้าที่รอขาย ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอสำหรับเขา ผู้หญิงที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับเขาในรูปถ่ายล้วนแต่ผมบลอนด์ สูง และสวย ฉันไม่มีอะไรเหมือนพวกนั้นเลย แต่เขาน่าจะพยายามซ่อนความรังเกียจของตัวเองให้มากกว่านี้หน่อยก็ยังดี
อเลคอสเฮงซวย! ฉันไม่น่าคิดไปขอความช่วยเหลือจากลอร์ดเลย
“เสียใจที่ต้องพูดอย่างนี้นะ แองเจิล แต่ฉันไม่สนใจจะฟันเธอ และก็ไม่ช่วยเธอด้วย” เขาหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน “ปิดประตูด้วยล่ะ”
ไหล่ฉันตก ฉันมีโอกาสเดียว และฉันก็ทำมันพัง มีก้อนอะไรมาจุกที่คอ “เข้าใจแล้ว” ฉันกำสายกระเป๋าแน่น เล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ “ฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด” ฉันหมุนตัวกลับ ปลายนิ้วจับลูกบิดประตู ก่อนจะหมุนมันไปทางขวา ฉันก็เปล่งเสียงอย่างสิ้นหวังออกมา “ฉันหวังว่าคาร์ลอส เด ลา ทอร์เร จะไม่ทรมานฉันก่อนฆ่านะ ความเจ็บปวดไม่ใช่ทางของฉันเลย”
อเลคอสคำรามเสียงดังลั่นจนฉันสะดุ้ง ในชั่วพริบตา เขาก็มาประชิดตัวฉัน หน้าอกเขาแนบชิดกับแผ่นหลังฉัน มือเขากำข้อมือฉันไว้แน่น ไม่ให้ฉันหนีไปได้
“เธอ. พูด. ว่า. อะไร. นะ?” เขาเค้นเสียงลอดไรฟันข้างหูฉัน
ฉันเกือบลืมไปว่าคาร์ลอสฆ่านิโคลัส แรปตู พ่อของอเลคอสเมื่อประมาณปีก่อน คาร์ลอสอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่พวกเหล่าลอร์ดไม่เชื่อ ศพจากทั้งสองฝ่ายปรากฏขึ้นในเมืองหลังจากนิโคลัสตายได้ไม่นาน อเลคอสอาจจะอ้างว่าเขาไม่ต้องการเริ่มสงครามระหว่างพวกดยุกกับพวกเหล่าลอร์ดอีก แต่คาร์ลอสต่างหากที่เป็นคนเริ่มเมื่อสิบเดือนก่อน
“ไม่ใช่ธุระอะไรของนาย นายบอกเองว่าไม่สนใจจะช่วยฉัน” เมื่อเขาไม่ปล่อยฉัน ฉันจึงพูดว่า “ฉันจะไป”
เขาหมุนตัวฉันกลับมา มือเขาบีบไหล่ฉันแน่น กระเป๋าฉันหล่นลงข้างตัว “เธอพูดเหี้ยอะไรเกี่ยวกับคาร์ลอส เด ลา ทอร์เร นะ?”
ทำไมเขาทำท่าเหมือนเพิ่งจะมาสนใจกันล่ะ?
ความเกลียดชังที่เขามีต่อคาร์ลอสมันชัดเจนมากจนรู้สึกเหมือนอุณหภูมิในห้องทำงานลดฮวบลง ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาของเขาวาวโรจน์เป็นสีแดง อาจจะเป็นแค่แสงเล่นตลกหรือจินตนาการของฉันเองที่หลอกฉัน
“บอกฉันมา เดี๋ยวนี้!” เขาสั่งเมื่อฉันเงียบไป
ฉันถอนหายใจ “พ่อฉันจัดการแต่งงานระหว่างคาร์ลอสกับฉัน แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันจะไม่แต่งงานกับเขา นายก็รู้ว่าเขาทำอะไรกับผู้หญิงบ้าง”
แววตกใจปรากฏบนใบหน้าเขา แต่เขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติในวินาทีต่อมา “งั้นเธอก็เลยมาหาฉัน แล้วหวังว่าถ้าให้ฉันฟันเธอ ฉันจะปกป้องเธอจากไอ้ซาดิสม์นั่นสินะ” น้ำเสียงเขาฟังดูรังเกียจ บางทีฉันน่าจะคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบกว่านี้







































































































































































































































































































































































































































