6.นางฟ้า

เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน ฉันไปตรวจสุขภาพเต็มรูปแบบ คาร์ลอสอยากแน่ใจว่าฉันแข็งแรงและ...บริสุทธิ์ผุดผ่อง – ฉันน่าจะเอากระเจี๊ยวปลอมยัดตัวเองซะ บางทีไอ้พวกซาดิสม์นั่นอาจจะหมดความสนใจในตัวฉัน แล้วฉันก็คงไม่มาตกอยู่ในสภาพทุเรศแบบนี้ ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันถูกฉีดยาที่จะทำให้ฉันไม่ท้องไปอีกหกเดือน คาร์ลอสอยากจะรอจนกว่าฉันจะคลอดลูกชายให้เขา เหอะ! อย่างกับว่าฉันจะยอมให้เขาสัมผัสตัวฉันงั้นแหละ

อเลคอสจะเย็ดฉันทุกวันก็ได้ แล้วฉันก็จะไม่ท้อง และถ้าโชคเข้าข้างหน่อย ก่อนหกเดือนจะหมดลง ฉันจะไปให้ไกลจากเมืองเวรอสส์นี่ ไม่อยากพูดเรื่องลูกอีกต่อไป ฉันจึงเปลี่ยนเรื่อง “คุณบอกว่าฉันจะออกไปข้างนอกได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากคุณ” เขาพยักหน้า “ฉันจะไม่เป็นนักโทษ คาร์ลอสก็เคยลองทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้เหมือนกัน แล้วฉันก็หนีออกมา”

“ฉันนึกว่าเธอหนีเพราะไม่อยากแต่งงานกับเขาซะอีก”

“นั่นมันนอกประเด็น”

อเลคอสโน้มตัวมาข้างหน้า ข้อศอกวางอยู่บนโต๊ะ “เธอคิดว่าเขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆ งั้นเหรอ? คิดว่าเขาจะไม่ตามหาเธอรึไง? ถ้าฉันตั้งกฎขึ้นมา มันก็เพื่อความปลอดภัยของเธอเองทั้งนั้น และขอให้ฉันพูดให้ชัดเจนเลยนะ แอนเจิล: ฉันให้โอกาสเธอหนีไปจากฉันหลายครั้งแล้ว แต่เหมือนเคย เธอมันดื้อด้านเกินกว่าจะฟัง ตอนนี้ที่ฉันได้รู้รสชาติของเธอแล้ว และได้สัมผัสความอุ่นร้อนจากร่องสวาทของเธอ ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไป เธอจะลองหนีก็ได้นะ แต่ฉันรับรองเลยว่าเธอจะไม่ชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อฉันจับเธอได้แน่” เขายิ้มเจ้าเล่ห์แบบหมาป่า ทำให้ฉันรู้ว่าเขาคงสนุกกับการไล่ล่า

ความอยากจะกลอกตามันรุนแรงมาก แต่ฉันก็ห้ามตัวเองไว้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อเลคอสอ้างว่าจะไม่ยอมปล่อยฉันไป เขาเคยอ้างว่ารักฉัน เพียงเพื่อจะมาทำลายหัวใจฉันในเวลาต่อมา ฉันดีใจมากที่ไม่เคยบอกเขาว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับเขา ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันหายไปนานแล้ว หลายปีที่ผ่านมา ฉันได้เรียนรู้ว่าผู้ชายเชื่อถือไม่ได้ และคนเดียวที่จะไม่ทำให้ฉันผิดหวังก็คือตัวฉันเอง ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเอง และฉันก็อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและเป็นอิสระ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะต้องพึ่งพาอเลคอสในเรื่องความปลอดภัยก็ตาม แต่มันคงไม่นานนักหรอก เพราะในที่สุดฉันก็จะคิดแผนอื่นออกได้ ในไม่ช้า ฉันจะไปให้ไกลจากที่นี่ ที่เต็มไปด้วยพวกท่านดยุกท่านลอร์ด ผู้ซึ่งทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

การเป็นลูกสาวของดยุกสอนบทเรียนอันล้ำค่าให้ฉัน: ทำให้ผู้ชายเชื่อว่าเธอเชื่อฟังและว่านอนสอนง่าย แล้วค่อยโจมตีเมื่อพวกเขาไม่ทันตั้งตัว “ฉันขอเพิ่มข้อกำหนดในสัญญาด้วยได้ไหมคะ?”

“เช่นอะไรล่ะ?”

“ฉันเบื่อง่ายค่ะ ขอไวน์ หนังสือ แล้วก็แล็ปท็อปสักเครื่อง แล้วฉันจะไม่ทำผิดกฎของคุณเลยสักข้อ”

อเลคอสดูประหลาดใจกับคำขอของฉัน เขาคาดหวังอะไรกันนะ? ให้ฉันขอปืนหรืออะไรทำนองนั้นเหรอ?

“ฉันจะดูให้ว่าทำอะไรได้บ้าง” เขาตบที่ขาตัวเอง “มานี่สิ”

และแล้วเกมก็เริ่มขึ้น เกมที่ผู้ชนะมีได้เพียงคนเดียว และฉันจะทำให้แน่ใจว่าฉันเป็นผู้ชนะ ฉันจะโกหก หลอกลวง และแม้กระทั่งขายตัว ในท้ายที่สุด ฉันจะทำลายหัวใจของอเลคอสให้แหลกสลายเหมือนที่เขาเคยทำกับฉัน ก่อนที่ฉันจะหายตัวไปตลอดกาล

ฉันวางกระเป๋าถือลงบนโต๊ะ นี่มันกำลังเกิดขึ้นจริงๆ ด้วยเศษเสี้ยวสุดท้ายของศักดิ์ศรีที่ฉันยังเหลืออยู่ ฉันลุกขึ้นยืนอย่างสง่างามและเดินไปหาอเลคอสอย่างใจเย็น ไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันประหม่าแค่ไหน

เขอดึงฉันนั่งบนตักเขา โดยฉันหันหลังให้หน้าอกเขา แขนซ้ายของเขารัดรอบเอวฉัน “เธอไม่รู้เลย…” เขาคราง ไม่ได้พูดสิ่งที่กำลังจะพูดให้จบ ใต้ร่างฉัน ฉันรู้สึกได้ถึงความเป็นชายของเขาที่กำลังแข็งขืน “เธอช่างพอดีกับอ้อมแขนของฉันเหลือเกิน เหมือนเธอถูกสร้างมาเพื่อฉันโดยเฉพาะ”

“อย่าบอกนะว่าคุณเชื่อเรื่องเนื้อคู่บ้าบอคอแตกอะไรนั่นด้วย” ฉันพ่นลมอย่างไม่พอใจ

“ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีเนื้อคู่มันอาจจะมีอยู่จริงก็ได้”

เขาจัดท่าให้ฉันขยับบนตัก ไหล่ซ้ายของฉันพิงอยู่กับอกเขา โคโลญจน์ของเขา กลิ่นเดิมกับที่ใช้มาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย มันระคายจมูกฉัน ฉันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจตัวเองด้วยการมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฉันหันหน้าเข้าหา บริษัทที่ปู่ของอเลคอสเป็นคนก่อตั้งอยู่ใกล้กับเขตแดนที่มองไม่เห็นซึ่งแบ่งเมืองออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งปกครองโดยเหล่าดยุก อีกส่วนปกครองโดยเหล่าลอร์ด ฉันไม่เคยมาฝั่งนี้ของเมืองมาก่อนเลย โรงเรียนมัธยมปลายที่ฉันเคยเรียนก็อยู่ตรงชายแดนพอดี แต่หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นโรงเรียนเฉพาะสำหรับ ‘พลเมืองธรรมดา’ ไปแล้ว การทดลองที่เหล่าผู้อาวุโสของทั้งสององค์กรเสนอขึ้นมามันล้มเหลว เหล่าดยุกกับเหล่าลอร์ดไม่มีวันเห็นพ้องต้องกันได้ในเรื่องใดๆ

อเลคอสใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้จับคางฉัน บังคับให้สบตาเขา ชั่วขณะหนึ่ง เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มคนเดียวกับที่ฉันเจอในวันแรกที่โรงเรียนมัธยมปลายไม่มีผิด

สายตาเขาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากฉัน “มีใครอีกบ้างที่จูบเธอนอกจาก…” เขาขมวดคิ้ว “ไอ้หมอนั่นชื่ออะไรนะ เจสันเหรอ?”

ถึงตาฉันขมวดคิ้วบ้าง “เจสัน?”

“มันเป็นดยุกคนหนึ่ง แล้วก็เรียนวิชาประวัติศาสตร์กับวรรณคดีห้องเดียวกับเธอไง”

ภาพของวัยรุ่นชายร่างสูงโปร่งผุดขึ้นมาในหัวฉัน “เดี๋ยวนะ! นายคิดว่าฉันจูบเจสัน เดย์มาร์เหรอ?”

“แล้วไม่ใช่หรือไง?” มือข้างที่ว่างของเขาวางลงบนเอวฉัน

“จะเสียเวลาอธิบายความจริงให้นายฟังทำไม ในเมื่อเห็นๆ อยู่ว่านายไม่เชื่อฉันอยู่แล้ว ใครบอกเรื่องนี้กับนายกันแน่?”

อเลคอสใช้นิ้วโป้งลูบไล้ริมฝีปากล่างของฉัน “ซัลม่าบอกฉันวันที่เธอปฏิเสธฉันครั้งที่สองนั่นแหละ จะว่าโกรธก็คงน้อยไป”

ทันใดนั้นทุกอย่างก็กระจ่างชัด “แล้วนั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่นายไปเอากับยัยนั่นแล้วก็ส่งรูปนายกับหล่อนบนเตียงมาให้ฉันสินะ? เพราะนายคิดว่าฉันจูบเจสันงั้นเหรอ?” ฉันหรี่ตาลง “อย่าบอกนะว่านั่นคือเหตุผลที่นายไปต่อยเขาที่งานปาร์ตี้ริมสระด้วย”

“รูปอะไร? ฉันไม่เคยส่งอะไรให้เธอเลยนะ แล้วที่ฉันต่อยมันก็เพราะมันมาจีบเธอต่างหาก ฉันอาจจะเดินหนีไปแล้วก็ได้ แต่แล้วมันก็เอามือมาโอบไหล่เธอ ฉันเลยฟิวส์ขาด ไม่มีใครหน้าไหนแตะต้องของๆ ฉันแล้วยังมีชีวิตรอดไปได้ เจสันมันโชคดีแล้วที่เดินจากไปได้แค่กรามหัก”

ถ้าอเลคอสไม่เคยส่งรูปพวกนั้นมาให้ฉัน ก็แปลว่าซัลม่าเป็นคนทำจากโทรศัพท์ของเขานั่นเอง แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรอยู่แล้ว การได้เห็นรูปพวกนั้นทำฉันใจสลาย ฉันไม่เคยไว้ใจผู้ชายคนไหนอีกเลยตั้งแต่นั้นมา แล้วพอเขาไปต่อยเจสันที่งานปาร์ตี้ของเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของฉัน ก่อนจะลากฉันเข้าไปในห้อง ตอนนั้นฉันก็สติแตกเลย โดยเฉพาะตอนที่เขาพยายามจะจูบฉัน ฉันตบหน้าเขาแรงมากจนฝ่ามือเจ็บไปหลายวัน เราต่างพูดจาทำร้ายกันมากมายในวันนั้น แต่ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปกว่าการที่เห็นเขาไปไหนมาไหนกับซัลม่าตลอดช่วงที่เหลือของปีการศึกษานั้นโดยไม่สนใจฉันเลย ซัลม่ายังมาคุยโวให้ฉันฟังถึงเซ็กซ์อันสุดวิเศษที่เธอกับอเลคอสมีให้กันทุกครั้งที่เราเจอกัน

นิ้วโป้งของเขายังคงลูบไล้ริมฝีปากล่างของฉันไม่หยุด

“ฉันไม่เคยเป็นของนาย อเลคอส แม้แต่ตอนนี้ เราก็ไม่ควรทำแบบนี้ เราเป็นศัตรูกัน จำได้ไหม?”

พ่อของฉันกับพ่อของอเลคอสเคยมีปัญหากันในอดีต โชคร้ายที่ฉันไม่รู้เรื่องนี้มากนัก แม่ฉันรู้ แต่ท่านก็เสียไปก่อนที่จะได้บอกฉัน

“จะเป็นศัตรูหรือไม่ใช่ เธอก็เป็นของฉันตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉันเห็นเธอแล้ว ที่ฉันปล่อยให้เธอเดินจากไปตอนนั้น ก็เพราะเธอยังไม่พร้อมสำหรับชีวิตแบบที่เลดี้คนหนึ่งต้องเป็น” เขาโน้มศีรษะลง ปลายจมูกของเขาสัมผัสกับปลายจมูกของฉัน “มีใครบ้างที่เคยจูบเธอ ก่อนหน้าฉัน?”

“ไม่ใช่กงการอะไรของนาย” ฉันสวนกลับไป

“เธอคิดผิด อากาพี ทุกอย่างที่เธอทำคือเรื่องของฉัน และเมื่อฉันตามเจอพวกที่มันบังอาจล่วงเกินจูบริมฝีปากของเธอได้ทุกคนเมื่อไหร่ ฉันจะควักทั้งปากทั้งลิ้นของพวกมันออกมาให้หมด”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป