1.ลาร่า: คนแปลกหน้าลึกลับ
ลาร่า
ทำไมฉันถึงตกลงเรื่องนี้นะ
“ก็เพราะเธอรักฉันและอยากให้ฉันมีความสุขไงล่ะ” อันเดรียยิ้มกว้างให้ฉัน “อีกอย่าง เธอยังติดหนี้ฉันที่เข้ากะแทนเธอตั้งสองครั้งนะ”
“ตอนนั้นฉันป่วย มันไม่นับสิ” ฉันพึมพำขณะดึงกางเกงสีดำขึ้นมา “เธอก็ดันมาเลือกเปลี่ยนกะคืนที่ยุ่งที่สุดซะด้วย”
โทษทีนะ ที่รัก
อันเดรียยักไหล่แล้วกะพริบตาปริบๆ ให้ฉัน เธอดูไม่รู้สึกผิดสักนิด ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงเผ่นแน่บไปแล้ว แต่เพราะฉันรู้ว่าสุดสัปดาห์นี้สำคัญกับเธอมากแค่ไหน ฉันเลยทิ้งเธอไม่ลง อีกอย่าง ฉันรู้ว่าอันเดรียจะอยู่ตรงนั้นเสมอเมื่อฉันต้องการให้เธอช่วย แล้วก็ยังมีเรื่องที่ว่าเงินพิเศษก้อนนี้ก็มีประโยชน์กับฉันเหมือนกัน
ฉันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดประตูออกแล้วเอื้อมมือเข้าไปหยิบเสื้อเชิ้ตยูนิฟอร์มติดกระดุม บาร์แห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องเบียร์รสเลิศและการแสดงประจำสัปดาห์ ทั้งยังเป็นที่เดียวที่ผู้คนมารวมตัวกันไม่ว่าจะเป็นวันไหนหรือเวลาใด มันไม่ใช่งานในอุดมคติของฉัน แต่ก็ทำให้ฉันมีที่ซุกหัวนอนและมีข้าวกิน
หลังจากสวมเสื้อและติดกระดุมเรียบร้อย ฉันก็เข้าไปในห้องน้ำเล็กๆ เพื่อหวีผมและถักเปีย อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ถูกคาดหวังให้ใส่กระโปรงสั้นๆ กับเสื้อที่แทบจะปิดหน้าอกไม่มิด เจ้านายเป็นชายวัยปลายห้าสิบที่เริ่มกิจการบาร์แห่งนี้กับเพื่อนอีกสองคน มีข่าวลือหนาหูว่าพวกเขากำลังวางแผนจะขายมัน เป็นอีกเรื่องที่น่ากังวลเพิ่มเข้ามาในรายการที่ยาวเหยียดอยู่แล้ว ฉันตกงานนี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ใช่ในตอนที่ฉันใกล้จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เต็มที
เธอไม่โกรธฉันแน่นะ” อันเดรียถามเบาๆ “ฉันรู้ว่าเธอมีแผนสำหรับสุดสัปดาห์นี้แล้วก็ต้องยกเลิกมันเพราะฉัน”
ฉันเดินไปหาอันเดรียแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ฉันยิ้มให้แล้วปัดปอยผมออกจากแก้มของเธอ “ฉันไม่โกรธเธอหรอก เอาจริงๆ นะ ฉันดีใจด้วยซ้ำที่เธอขอให้ฉันมาเข้ากะแทน มันดีกว่าแผนที่ฉันวางไว้สำหรับสุดสัปดาห์นี้เยอะเลย”
ฉันจะชดเชยให้นะ
“จ้ะ” ฉันพึมพำ “ถ้าฉันเจอผู้ชายที่อยากจะทำให้ฉันหัวปักหัวปำด้วยการพาฉันไปพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวล่ะก็ เธอก็มาเข้ากะแทนฉันได้เลย”
เราหัวเราะออกมา แต่ในใจฉันโหยหาความสัมพันธ์แบบของเธอบ้าง พวกเขาคบกันมาปีครึ่งแล้ว เหมือนคู่รักคู่อื่นๆ พวกเขาทะเลาะกันบ้าง แต่ก็อยู่ได้ไม่นานโดยไม่คืนดีกัน ไบรอันขอให้ฉันช่วยเขาเลือกแหวนหมั้นให้อันเดรีย นั่นคือเหตุผลที่เขาจะพาเธอไปเที่ยว และทำไมฉันถึงกระตือรือร้นที่จะมาเข้ากะแทนเธอ อันเดรียสมควรได้รับความสุขหลังจากเรื่องแย่ๆ ทั้งหมดที่เธอเจอมา และไบรอันก็เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้เธอมีความสุข
เธอควรไปเก็บของได้แล้ว ส่วนฉันก็ควรจะไปได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะสาย
ไม่กี่นาทีต่อมา เราทั้งคู่ก็เดินออกจากอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ของฉัน เราลงลิฟต์ไปด้วยกันแล้วก็แยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง ฉันเดินสองช่วงตึกไปยังบาร์แล้วเดินผ่านตรอกไปยังประตูหลัง เคนซี่พูดชัดเจนว่าเขาไม่ชอบให้พนักงานใช้ทางเข้าด้านหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนสบายๆ และมีอารมณ์ขัน แต่เขาก็มีกฎที่ค่อนข้างเข้มงวดที่เขาคาดหวังให้พวกเราปฏิบัติตาม
ฉันถอนหายใจขณะเดินไปตามโถงทางเดินไปยังห้องล็อกเกอร์ หลังจากล็อกกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์ ฉันก็ผูกผ้ากันเปื้อนแล้วมุ่งหน้าไปด้านหน้า ทันทีที่ฉันก้าวผ่านประตู เสียงพูดคุยจอแจของลูกค้าประจำคืนวันศุกร์ก็ดังเข้ามาในหู ฉันใช้เวลาครู่หนึ่งกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะเดินไปที่บาร์ ก็มีแต่ลูกค้าหน้าเดิมๆ ยกเว้นกลุ่มชายร่างกำยำที่นั่งอยู่มุมด้านหลัง ความรู้สึกไม่สบายใจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน แต่ฉันก็พยายามปัดมันทิ้งไป
ฉันรับมือคนเมาได้อยู่แล้ว ตราบใดที่พวกเขาไม่รุมฉัน
เบียร์สองแก้ว แล้วก็ถั่วที่พวกคุณมีนั่นแหละ
และแล้วกะเจ็ดชั่วโมงก็เริ่มต้นขึ้น
สามชั่วโมงผ่านไปในกะของฉัน ฉันรู้สึกอยากจะฆ่าใครสักคน เพื่อนร่วมงานของฉันออกไปโดยไม่รอให้คนที่จะมาเปลี่ยนกะมาถึง สิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นกลุ่มลูกค้าประจำกลับไม่ใช่ กลายเป็นว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาถึงเมืองและพร้อมจะปาร์ตี้ พวกเขาเมาหัวราน้ำกันไปแล้ว ที่แย่ไปกว่านั้น ฉันเริ่มปวดหัวและท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว
“นี่คุณ” ฉันหันไปทางผู้ชายที่เรียกฉัน “ดับเบิ้ลวิสกี้ ไม่ใส่น้ำแข็ง”
สักครู่นะคะ
ฉันรีบชงเครื่องดื่มที่กำลังทำค้างอยู่แล้วส่งให้ผู้หญิงที่สั่ง ขณะที่ฉันหยิบแก้ว ฉันก็ชะงัก ฉันจำไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นสั่งอะไร พอหันกลับไป ฉันก็ตัวแข็งทื่ออีกครั้งเพราะมองไม่ชัดว่าใครเป็นคนสั่งเครื่องดื่ม ผู้ชายคนหนึ่งที่มุมบาร์โบกมือให้ฉัน แก้มของฉันร้อนผ่าวเมื่อเข้าไปใกล้เขา
ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก! เขาดูเหมือนนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสารเลยทีเดียว โหนกแก้มสูงได้รูปที่อาจจะตัดหินแกรนิตให้ขาดได้ ผิวสีแทนและริมฝีปากสีชมพูสมบูรณ์แบบน่าจูบ มันยากที่จะมองเห็นสีตาของเขา เมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ฉันกลืนน้ำลายแล้วฝืนยิ้มออกมา
ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าสั่งอะไรไปนะคะ พอจะทวนอีกครั้งได้ไหมคะ
ดับเบิ้ลวิสกี้ ไม่ใส่น้ำแข็งครับ
ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวเอามาให้นะคะ อีกครู่เดียวค่ะ
มือของฉันสั่นอย่างหนักขณะเทเครื่องดื่มให้เขา ฉันหน้าเบ้เมื่อทำวิสกี้หกบนบาร์ เคนซี่ต้องฆ่าฉันแน่ถ้าเขารู้ว่าฉันทำวิสกี้ราคาแพงของเขาหก ฉันหยิบผ้าจากผ้ากันเปื้อน เช็ดที่หกอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับไปหาผู้ชายที่สั่งเครื่องดื่ม
“ขอบคุณครับ” เขาพึมพำเมื่อฉันวางแก้วเครื่องดื่มลงตรงหน้าเขา
ฉันพยักหน้า แถมยังฝืนยิ้มบางๆ ได้ด้วยก่อนจะหันหลังกลับ เสียงเอะอะโวยวายจากกลุ่มคนเมาดึงความสนใจของฉันไป ฉันถอนหายใจเมื่อหนึ่งในนั้นลุกขึ้นยืน เขาได้รับการส่งเสียงเชียร์จากกลุ่มเพื่อนขณะเดินตรงไปยังบาร์
“พวกเรา...เอา...อีก...แก้ว” เขาพูดเสียงยานคาง
ฉันส่งยิ้มขอโทษให้เขา “ขอโทษนะคะ คุณกับเพื่อนๆ ดื่มเกินกำหนดแล้วค่ะ ดิฉันบริการเครื่องดื่มให้พวกคุณอีกไม่ได้แล้ว”
เขาพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเองขณะเดินโซซัดโซเซกลับไปที่โต๊ะ ฉันถอนหายใจ เฮ้อ ง่ายกว่าที่คิดแฮะ ทันใดนั้นประตูหน้าก็เปิดผางแล้วก็ปิดกระแทกดังปัง สองสามวินาที ดวงตาของฉันสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเจ้านาย ฉันรู้สึกใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เรื่องราวมันยิ่งแย่ลงไปอีก วันนี้มันจะซวยไปกว่านี้ได้อีกไหมเนี่ย
เคนซี่เดินหน้าบึ้งมาที่บาร์ “เพื่อนร่วมงานแกไปไหนวะ”
เขาออกไปแล้วค่ะ แอนตันยังไม่มาเลย
เขาพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง “ไปเก็บโต๊ะไป ฉันจะดูแลบาร์เอง”
ฉันเดินผ่านเขาไปหยิบถาดโดยไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าฉันไม่ต้องการงานนี้มากขนาดนี้นะ ฉันคงเดินออกไปแล้วหลังจากเจอแบบนี้ แต่ถึงสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ ฉันก็ชอบทำงานที่นี่นะ...แค่บางครั้งบางคราวเท่านั้นแหละ ในคืนแบบนี้ ฉันอยากจะทำงานเก้าโมงเช้าเลิกห้าโมงเย็นจริงๆ
เฮ้ แม่สาว พวกเราขออีกรอบโว้ย” เสียงใครคนหนึ่งตะโกนมาจากข้างหลังฉัน
ฉันวางถาดลงบนโต๊ะแล้วหันไปทางต้นเสียง เยี่ยมเลย! ฉันยืนอยู่ข้างโต๊ะของพวกขี้เมาพอดี ฉันฉาบรอยยิ้มไว้บนใบหน้าแล้วก้าวเข้าไปใกล้ๆ โดยประสานมือไว้ข้างหน้า สายตาฉันกวาดมองชายร่างกำยำทั้งสี่คน รอยยิ้มของฉันเจื่อนลงเมื่อรู้ว่าพวกเขาทุกคนกำลังจ้องเขม็งมาที่ฉัน
“อย่างที่บอกไปเมื่อกี้นะคะ” ฉันตอบชายคนที่นั่งใกล้ฉันที่สุด “พวกคุณดื่มเกินลิมิตแล้วค่ะ ดิฉันเสิร์ฟเครื่องดื่มให้พวกคุณอีกไม่ได้แล้ว”
“ได้สิวะ!” ชายคนนั้นตะคอกพลางทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ “พวกกูอยากดื่ม แล้วก็อยากดื่มเดี๋ยวนี้!”
เขาทำเสียงเหมือนเด็กสองขวบงอแงจะเอาลูกอม คำพูดของชายคนนี้ไม่ยานคางเหมือนเพื่อนของเขาก่อนหน้านี้ แต่ฉันได้กลิ่นควันบุหรี่กับเหล้าเหม็นคลุ้งมาจากตัวเขา หรืออาจจะเป็นเครื่องดื่มที่ฉันทำหกไปเมื่อกี้นี้ก็ได้
คุณคะ ถ้าอยากดื่มเพิ่ม ดิฉันแนะนำให้ไปซื้อเบียร์จากร้านขายเหล้าตรงหัวมุมถนนโน้นแล้วกลับไปสังสรรค์กันที่บ้านดีกว่าค่ะ ดิฉันไม่ได้รับอนุญาตให้เสิร์ฟเครื่องดื่มให้พวกคุณอีกแล้ว กรุณาออกไปด้วยค่ะ
จู่ๆ เขาก็ลุกพรวดขึ้น ทำให้ฉันเซถอยหลัง มือของเขายื่นพรวดออกมาคว้าแขนฉันไว้แน่นแล้วดึงฉันกลับไปปะทะอกเขา ใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากฉันไม่กี่นิ้ว ฉันย่นจมูกแล้วเบือนหน้าหนีเมื่อได้กลิ่นลมหายใจเหม็นๆ ของเขา ผู้ชายคนนี้ต้องการลูกอมดับกลิ่นปากอย่างแรงเลยล่ะ...สักสองสามโหลก็น่าจะดี
ฟังนะอีนังตัวดี พวกกู...
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ” เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังฉัน
ร่างกายฉันเกร็งเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างกายของผู้ชายคนนั้นที่ด้านหลัง เขายืนใกล้เกินไปจนน่าอึดอัด ชายคนนั้นปล่อยแขนฉันแต่ผลักฉันเบาๆ ตอนที่ปล่อย ฉันเซถอยหลังไปชนเข้ากับผู้ช่วยชีวิตของฉันพอดี มือของเขาจับสะโพกฉันไว้เพื่อช่วยพยุงก่อนจะปล่อย รู้สึกเหมือนสัมผัสของเขามันร้อนจนแทบจะทะลุเสื้อผ้าเข้ามา
ผู้ชายคนนี้มือใหญ่จริงๆ
“พวกกูกำลังจะไปพอดี” ไอ้หมอนั่นถ่มน้ำลายพลางจ้องมาทางฉันอย่างเอาเรื่อง “บริการห่วยแตก อย่าหวังว่าพวกกูจะกลับมาที่นี่อีก”
“พวกแกไปก็ไม่มีใครคิดถึงหรอก” ฉันพึมพำกับตัวเอง
ทันทีที่ประตูปิดกระแทกดังปังตามหลังพวกเขาไป ไหล่ฉันก็ลู่ลง ฉันรู้สึกตัวสั่นๆ คลื่นไส้นิดหน่อย แต่ก็ยังอยู่ครบสามสิบสอง ไม่เป็นไรหรอก การรับมือกับพวกขี้เมาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ปกติแล้วฉันจะมีเพื่อนร่วมงานสองสามคนคอยช่วยไล่เวลาเรื่องเริ่มจะบานปลาย
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้ช่วยชีวิตของฉันถามเบาๆ
ฉันพยักหน้าขณะหันไปเผชิญหน้ากับเขา ลมหายใจฉันสะดุดกึกเมื่อเงยหน้ามองเขา บ้าจริง ผู้ชายคนนี้ทั้งสูงทั้งหล่อชิบหาย คำว่าเซ็กซี่ยังเหมาะกับเขาเลยด้วยซ้ำ ปากคอฉันแห้งผากและรู้สึกชาวาบไปทั้งสันหลังเมื่อดวงตาของเขาสบกับฉัน พอได้มองใกล้ๆ เขายิ่งดูดีกว่าเดิมเสียอีก สายตาฉันกวาดมองระหว่างดวงตาทั้งสองข้างของเขา เขามีดวงตาที่ประหลาดแต่สวยงามที่สุด
ตาขวาของเขาเป็นสีเขียวสด ส่วนตาซ้ายเป็นสีฟ้าอ่อน...ไม่สิ...มันดูเหมือนสีเทามากกว่า มันดูน่าขนลุกนิดๆ แต่มันกลับยิ่งเสริมให้เขาดูดีขึ้นไปอีก เขารีบหลบตาลงแล้วกระแอมเบาๆ ผู้ชายคนนั้นดูอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เลิกจ้องเขาสักที! ใช่สิ ให้ตายเถอะ
“ขอบคุณนะคะ” ฉันพูด “ที่เข้ามาช่วย เมื่อกี้ฉันคิดว่าเรื่องมันจะแย่ซะแล้ว”
ผมก็เหมือนกันครับ ดีใจที่ได้ช่วย คุณโอเคไหมครับ
ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ
เขาเหลือบมองขึ้นมา ทำให้สายตาเราสบกันอีกครั้ง เพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาจะหลบตาลงอีกครั้ง เขาพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินอ้อมฉันจากไป ฉันหันไปมองตามเขา ความผิดหวังถาโถมเข้ามาเมื่อเขาเดินออกจากบาร์ไป ฉันคงไม่ได้เจอเขาอีกแล้วล่ะมั้ง อย่างน้อยคืนนี้ฉันก็มีใครสักคนให้ฝันถึง ไม่คิดเลยว่าจะลืมคุณสูงหล่อเข้มคนนี้ได้ลง
เสียงถอนหายใจเบาๆ หลุดจากริมฝีปากฉันเมื่อฉันหันกลับมา คนอย่างเขามาทำอะไรในเมืองเล็กๆ แบบนี้นะ ที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในช่วงฤดูร้อน แต่นี่มันยังห่างไกลจากฤดูท่องเที่ยวมาก แสดงว่าเขาต้องมาที่นี่ด้วยเหตุผลอื่นแน่ๆ
มันยากที่จะตั้งสมาธิทำงานเมื่อใบหน้าของเขาวาบเข้ามาในความคิดอยู่เรื่อยๆ ฉันยังคงได้ยินเสียงของเขาก้องอยู่ในหู มันเป็นเสียงทุ้มลึกที่มีสำเนียงเล็กน้อยซึ่งฉันบอกไม่ถูกว่าเป็นสำเนียงอะไร ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันโหยหาที่จะได้เจอเขาอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นแทบไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เขากลับสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆ





























































































































































