บทที่ 7 เฉวี่ยเต๋ออ๋อง
“เจ้าบังอาจ หลอกลวงเสด็จย่าอย่างนั้นหรือ”
“ข้าตั้งใจช่วยท่านเต็มที่แล้วเราก็หย่ากันเสีย ในปีที่ข้าอายุ20ปีคำสั่งเสียของท่านแม่ให้เดินทางยังสกุลเดิมของท่านแม่เพื่อพบท่านตา ข้ายังอยากจะกระทำตามคำสั่งเสียถึงแม่บิดาข้าจะห้ามไม่ให้ทำตามก็ตาม เช่นนั้นข้าหย่ากับท่านแล้วไปที่สกุลจงเสียใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นั่น เหมือนที่ท่านแม่เคยทำ ก็ไม่ต้องลำบากท่านอ๋องแล้ว”
“ยอมหลอกลวงเบื้องสูงเพื่อให้ได้หย่ากับข้าอย่างนั้นหรือ”
“ก็ไม่ต่างกันกับสิ่งที่ท่านทำท่านเองก็หลอกลวงเบื้องสูงเหมือนกันเพื่อให้ได้แต่งชายาเอก”
“เจ้าเคยรักใครสักคนไหมหากว่าเจ้าเคยรักใครสักคนเจ้าจะเข้าใจเหตุผลของข้า” ซีหรูยิ้มเศร้าๆ ส่ายหน้าไปมา
“ข้าไม่เคยรักใครและไม่คิดจะรักใคร”
“อีกเรื่อง ฟางหรานอ้อนวอนข้าขอเข้ามาในฐานะ ว่าที่ชายาเอกในจวนอ๋อง เจ้ายินดีที่จะให้นางเข้ามาหรือไม่” ซีหรูหลับตาลงช้าๆ ไล่ความรู้สึกเจ็บแปลบในใจ หันหลังก้าวเดินออกจากตรงนั้น
“แล้วแต่ท่านอ๋องหากเห็นว่าควรข้าก็ไม่อาจขัดท่านตัดสินใจไปแล้วนี่จะมาถามข้าทำไม” ซีหรูสาวเท้า ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“เฉวี่ยเต๋ออ๋อง แวะมา คารวะท่านอ๋องไร้พ่ายยยย”
เฉวี่ยเต๋ออ๋องที่รูปร่างสูงโปร่งใบหน้าขาวสะอาดทว่าใบหน้าเชิดหยิ่ง หล่อเหลาไม่เป็นรองชินหวางอ๋องแม้แต่น้อย
“เฉวี่ยเต๋ออ๋อง แวะมาเยือนจวนอ๋องไร้พ่าย” สายตาจับจ้องที่แผ่นหลังงดงามซีหรูไม่วางตา เพียงคำปราศรัยทว่าสายตามองไปที่ร่างงามอรชรที่เดินจากไป
“ชายารองได้ชื่อว่าหญิงที่มีใบหน้าไม่งดงาม ถูกใจท่านอ๋องน้อยชินหวางอ๋องเหตุใดจึงรีบไปเสียไม่พามาแนะนำให้กับเฉวี่ยฮ่องได้พบพานบ้าง”
“ไม่ต้อง ไม่สำคัญ”
“เฉวี่ยอ๋องไม่สำคัญหรือว่าชายารองไม่สำคัญ ได้ยินว่าฝ่าบาทโปรดปรานบิดานางใต้เท้าเสิ่น หากท่านอ๋องไม่โปรดปรานนางหย่ากับนางแล้วยกให้เฉวี่ยอ๋องเสียดีไหม” ชินหวางอ๋องทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร
“เฮ้อ ของเขาเราอยากได้” เฉวี่ยเต๋ออ๋องพึมพำเบาๆ
“มานี่มีเรื่องใดสำคัญ”
“ข้าแวะมาถวายพระพร ไม่ได้นำทัพมาด้วย ไม่มีเรื่องใดสำคัญ แต่แวะมาดูท่านอ๋องชินหวางว่าแต่งชายาใหม่แล้วทุกข์สุขเพียงใด ข้าเองกำลังคิดว่าควร ผูกมิตรกับขุนนางคนไหมดี ชินหวางอ๋องก็ไม่เบา เก็บเสียหมดหญิงงามอันดับหนึ่งก็จับจองไว้ในฐานะชายาเอกแล้ว หญิงที่บิดาเป็นที่โปรดปรานก็รับไว้ในฐานะชายารอง ไม่เบาจริงๆ ท่านอ๋องน้อยของเรา” ชินหวางอ๋องหันหน้าหนี
“ข้าไม่คิดว่าเฉวี่ยเต๋ออ๋องจะคิดการเช่นนี้ มาในครั้งหนี้หรือว่าต้องการมาบอกว่าต้องการแย่งชิงหยางฟางหรานกับข้ากันแน่”
เฉวียเต๋ออ๋องเลิกคิ้วสูงแสดงสีหน้าประหลาดใจ
“ที่มีอยู่ไม่หวงแหนทว่ากลับหวงแหนสิ่งที่ยังมา.. ไม่ถึงเช่นนั้นข้าน้อยเฉวี่ยเต๋ออ๋องคงต้อง หาทางเข้าหาว่าที่พ่อตาเสิ่นกงหลิวเสียแล้วกระมัง” ชินหวางอ๋องยิ้มหยัน
“คิดว่ามีความสามารถก็เชิญ คราวหลังจะผ่านเข้ามาในจวนอ๋องจะต้องประมือกันหากชนะข้าได้ท่านจึงจะได้เข้ามา” เฉวี่ยเต๋ออ๋องยิ้มหยัน
“เอาเข้าจริงๆ ก็หวงก้างเห็นได้ชัดว่าไม่อยากได้ ทว่ากลับหวงก้างไม่แบ่งใคร” ชินอ๋องยิ้มหยัน
“นางเป็นชายารองของข้าแล้ว จะอย่างไรก็คือชายายังคิดว่าจะกล้า…ลองดีกับข้าหรือ” เฉวี่ยเต๋ออ๋องยิ้มเย็น
“ชักสนุกแล้วสินะ แบบนี้ ชายาเอกของท่านข้ายกให้ แต่ชายารองนี่ข้าอยากจะลองดี…ดูสักตั้ง” สะบัดชายเสื้อจากไปทิ้งไว้แค่ความขุ่นมัว ชินหวางอ๋องวางตะเกียบลงบนโต๊ะแรงๆ
เฉวี่ยเต๋ออ๋องเดินตามซีหรูมาจนทัน
“พระชายารองเฉวี่ยเต๋ออ๋อง ยินดีที่ได้พบท่าน” ซีหรูยืนหันหลังไม่ยอมหันหน้ามาให้เฉวี่ยเต๋ออ๋องได้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์
“ขอบคุณท่านอ๋องซีหรูขอตัว” ย่อกายก้าวเดินแต่อีกคนกลับทำท่าเหมือนจะคว้าข้อมือบางทว่ากับหดหมือเสีย
“เจ้า”
“ซีหรูขอตัว”
“ซีหรู เจ้าจำข้าไม่ได้จริงๆ หรือ” เรียกชื่อด้วยความสนิทสนม
“ท่าน ซีหรูต้องขออภัยข้าจำไม่ได้จริงๆ ว่าเราเคยพบกัน”
“ข้าคนนั้นที่เคยร้องไห้จนตาบวมเมื่อถูกทำโทษอยู่ที่ห้องเก็บตำรา แต่กลับมีเด็กหญิงคนหนึ่งที่อาสาพาข้าออกมา โดยการปลอบข้าว่าไม่ต้องกลัวนางจะช่วยข้าเองและนางก็พาคนมาช่วยข้า เป็นเจ้าซีหรู” ซีหรูหันมาสบตาเฉวี่ยเต๋ออ๋องที่พบแต่ความจริงใจในนั้น
“ขะขะข้าจำไม่ได้จริงๆ แล้วก็จำเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่ได้ทั้งหมดเรื่องราวก่อนที่จะสูญเสียท่านแม่ท่ามกลางกองเพลิง”
“ข้าเข้าใจแล้ว” เอื้อมมือจับผ้าแพรที่ปิดบังใบหน้าซีกซ้ายของซีหรูทว่าซีหรูกลับเบี่ยงตัวหลบ
“มารำลึกความหลังกันในจวนของข้าไร้ยางอายที่สุด” ชินหวางอ๋องเดินเอามือไพล่หลังเข้ามายกแขนขึ้นรวบไหล่บางของซีหรูให้กระแทกมาที่ไหล่ของเขา
