บทที่ 11 ความตายของพี่น้องสกุลโม่2

พรึ่บ!

ลูกธนูที่มีไฟติดได้ปักยังหลังคารถม้า โม่เหยาสะกิดปลายเท้าเหินกายขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะวางเท้าลงยังหลังคารถม้า

“คิดจะเผาหลานสาวทั้งสองของข้า ยังเร็วไป”

เสียงคำรามดังก้องของโม่เหยาประหนึ่งต้องการประกาศให้คนที่ซุ่มโจมตีได้รู้ว่าภายในรถม้ามีผู้ใดอยู่ แม้จะมีเสียงอาวุธกระทบกับห่าธนู ทว่าก็มิอาจกลบเสียงของชายชราผู้ยืนตระง่านอยู่บนหลังคารถม้าได้ ทำให้กลุ่มโจรต่างพากันหูผึ่งขึ้นในฉับพลัน

รางวัลสำหรับโจรเช่นพวกเขาคงหนีไม่พ้นบรรดาคุณหนูสูงศักดิ์ หากได้ครอบครองพวกนาง ย่อมเอื้อประโยชน์มิน้อย

แต่เพียงชั่วพริบตา ชายชราที่เคยยืนอยู่บนหลังคากลับประจำในตำแหน่งคนบังคับม้าเสียอย่างนั้น

โม่เหยากระตุกบังเหียนอย่างแรง เพื่อบังคับม้าให้ออกวิ่งพารถม้าฝ่าวงล้อมออกไป โดยมีโม่เหยียนเฉาพร้อมผู้ติดตามพากันกรูตามรถม้าอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยคุ้มกันเจ้านายของตน

“ตามพวกมันไป ชิงรถม้าและทรัพย์สินทั้งหมดมาให้ได้ ที่เหลือกำจัดซะ” คำสั่งของผู้นำกลุ่มโจรตะโกนก้อง พร้อมพากันกรูออกจากที่ซ่อน ไล่กวดคณะพ่อค้าจากเมืองหลวงอย่างมิยอมลดละเช่นกัน

โม่เหยียนเฉาผู้ควบม้ารั้งท้าย เอี้ยวตัวกลับไปมองเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มอย่างมีความในที่ยากจะมีผู้ใดได้ทันสังเกตเห็น

“ข้ายังพอมีเวลาเล่นสนุกอีกเล็กน้อย พวกเจ้าช่างก้าวเท้ามาสร้างความสำราญใจให้แก่ข้าได้ถูกเวลายิ่งนัก หึ ๆ”

กลุ่มโจรที่ไล่กวดคณะพ่อค้าอย่างมิยอมลดละนั้น หาทันได้ฉุกคิดสิ่งใดไม่ ว่าเวลานี้ รถม้าได้ถูกควบตรงไปยังทิศทางใดกันแน่ เป้าหมายของพวกเขาคือช่วงชิงสิ่งมีค่าและสาวงาม จึงไม่สนสิ่งอื่นใดแล้วในตอนนี้

โม่เหยากระตุ้นม้าให้ตรงไปยังเส้นทางริมผาที่นับว่าอันตรายมิน้อย ทว่า พวกเขาพร้อมแล้วที่จะทำให้ผู้สังเกตการณ์ของศัตรูซึ่งจับตาทุกคนที่เดินทางเข้าเมืองหลวง เกิดความหันเหจากคณะของเขาได้อย่างสิ้นเชิง เพื่อจะได้เลิกสนใจพวกเขาและง่ายต่อการเดินทาง

กลุ่มโจรได้ตอบแทนคุณแผ่นดินแล้วในครั้งนี้ โดยการมาปล้นคณะได้อย่างเหมาะเจาะเสมือนการจับวางหมากที่คุ้มค่าและตรงเวลาที่สุด

เชือกหลายเส้นถูกคว้าออกมาจากรถม้าโดยหนึ่งในผู้คุ้มกัน เสมือนทุกอย่างถูกตระเตรียมเอาไว้ก่อนล่วงหน้า มิว่าจะเป็นฝ่ายโจรที่ดูราวกับกระหายในการไล่ล่า หรือแม้แต่ฝั่งพ่อค้าสกุลโม่เองก็เช่นกัน

กลุ่มโจรหยุดชะงักเพียงชั่วขณะ ก่อนจะพุ่งติดตามคณะพ่อค้าไปอย่างกระชั้นชิด เสียงก้อนหินหลุดร่วงกระทบหน้าผาลาดชันดังก้องหุบเขาด้วยจำนวนคนและรถม้าที่วิ่งอย่างมิคิดชีวิตเหยียบย่างผ่านทาง

“พานายท่านใหญ่หนีไป เร็วเข้า”

เหล่าผู้ติดตามไม่เอ่ยสิ่งใดอีก เพราะทางด้านหน้าเป็นแนวโค้งที่อันตรายมากหากควบคุมรถม้าได้ไม่ดีพอ ทั้งหมดเหินกายเข้าหานายใหญ่ที่ควบม้าปิดท้าย โดยมีผู้ติดตามเพียงสามคนที่ควบม้าประกบเท่านั้น

เชือกในมือของหนึ่งในผู้ติดตามพันเข้ายังรอบเอวของผู้เป็นนายใหญ่ ก่อนจะเหินกายเข้าหาพร้อมทั้งคว้าจับพาผู้เป็นนายออกจากหลังม้าที่เริ่มจะเสียหลักบ้างแล้ว ด้วยหนทางที่แคบและอีกด้านเป็นผาลึก

“เจ้าคิดจะให้ข้าทิ้งน้องชายของข้ารึ”

โม่เหยียนเฉาเอ่ยเสียงกร้าว แต่มิได้ขัดขืนคนของเขา เพราะหากทำเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายต่อทุกคน สายตาเหยี่ยวมองตามหลังรถม้าไป ด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง ด้านหน้าคือความตาย ด้านหลังก็มิต่างกัน คราแรกดูเหมือนพวกเขาจะได้เปรียบมิน้อย ไยตอนนี้สถานการณ์มันดูกลับตาลปัตรไปเสียได้

“คำสั่งนายท่านรองขอรับ”

ไม่มีคำใดออกมาจากปากของโม่เหยียนเฉาอีก

เคล้ง! ฮี่ ๆ

เสียงอาวุธกระทบกัน พร้อมทั้งเสียงแตกตื่นของม้าที่แหวกวงล้อมการต่อสู้กลับไปยังทิศทางเดิม การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นก่อนที่จะทันได้หลบหนีอย่างที่ตั้งใจ การปะทะกันบนถนนอันคับแคบสร้างความลำบากให้กับทั้งสองฝ่ายไม่น้อยเพราะต้องระวังหลายด้าน หากใครพลั้งเผลอจุดจบคือความตายอย่างแน่นอน

คณะพ่อค้าต่างถอยร่นติดตามรถม้าไป ฝั่งกลุ่มโจรต่างย่ามใจในความโง่เขลาของคนจากเมืองหลวงที่คิดว่าจะหลอกล่อพวกเขามาติดกับ ทว่าเป็นพวกเขาชำนาญพื้นที่มากกว่าและกำลังจะกำชัยในครั้งนี้ แม้ในใจลึก ๆ แล้วพวกเขาหวั่นว่ารถม้าที่นำไปก่อนจะมิอาจประคองผ่านโค้งของหุบเขาแห่งนี้ไปได้ หากว่าสิ่งที่หมายปองอยู่ในนั้นทั้งหมด เท่ากับพวกเขาเสียแรงเปล่าเมื่อรถม้าหลุดร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่าง

เพียงลับเหลี่ยมผาไปมิถึงเสี้ยวเวลา สิ่งที่หลายคนหวาดหวั่นก็ได้เกิดขึ้นจริง เสียงม้าร้องออกมาด้วยความตกใจกลัวตามมาด้วยเสียงหนัก ๆ ร่วงไถลลงกระทบผาหินทำให้คนทั้งหมดถึงกับหนาวสะท้านไปทั้งอก โม่เหยียนเฉามัวแต่เหลียวมองไปยังรถม้าซึ่งมีน้องชายและหลานสาวทั้งสองอยู่ภายใน

ฉึก!

ร่างสูงใหญ่เสียหลักลอยลงไปจากขอบผาอันสูงชันโดยผู้ติดตามมิอาจช่วยเอาไว้ได้ทัน เพราะตัวพวกเขาเองก็มิอาจรอดพ้นจากคมอาวุธแล้วเช่นกัน

“พลาดจนได้ หาทางลงเขา เราจะไปเอาสมบัติทั้งหมดในรถม้ามาให้ได้”

ผู้มาดหมายในสมบัติทุกคนจึงหันหลังกลับเพื่อจะออกค้นหารถม้าที่ตกลงไปยังเบื้องล่าง การปล้นครั้งนี้นับว่าล้มเหลวที่สุดสำหรับโจรเช่นพวกเขา

“ช้าก่อนท่านหัวหน้า ข้าเกรงว่าเรายังปล่อยให้มีคนรอดชีวิตอยู่นะขอรับ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป