บทที่ 5 ช้อนแผน5
“ขอบพระคุณขอรับคุณหนู เช่นนั้น เรารีบกันเถอะนะขอรับ”
“ช้าก่อน นายหญิงให้ข้าไปแทนเถอะนะขอรับ ฝนกำลังลงเม็ดเช่นนี้ ต่อให้มิแรงมากนัก ทว่าอาจทำให้นายหญิงล้มป่วยลงได้ ข้าเป็นชาวไร่ชาวนาที่ผ่านแดดฝนมามาก ร่างกายข้ามิเป็นอันใดง่าย ๆ แน่นอนขอรับ”
ชายหนุ่มที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาซึ่งขอติดตามคณะเข้าสู่เมืองหลวงด้วย ได้ก้าวเข้ามาขวางทางคนทั้งคู่เอาไว้ก่อนที่หรู่อี้และต้วนลี่จะก้าวออกจากที่พัก
“เรื่องนั้น ข้าไม่เถียงท่านหรอกนะ แต่พี่อี้เหมยเป็นสตรี จะให้บุรุษที่มิใช่สามีเข้าไปพบนาง มันดูจะมิเหมาะเอาได้” หญิงสาวแย้งชายหนุ่มขึ้นอย่างมีเหตุผล
“เรื่องนั้น ข้าทราบดีขอรับ แต่ท่านลุงต้วนก็อยู่ด้วยทั้งคน อีกอย่าง ข้ามีความสามารถในการตรวจชีพจรอยู่มากทีเดียว เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะนะขอรับ”
“นายหญิงไม่ควรขัดคำสั่งนายท่านนะขอรับ ถึงอย่างไร นายหญิงก็มอบยาให้แก่เขาไปแล้ว ก็ถือว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ข้าว่านายหญิงกลับมานอนต่อเถอะขอรับ ข้าไม่อยากเตือนท่านซ้ำ ๆ นะขอรับ”
ผู้ติดตามที่มีอำนาจรองจากเยว่คังเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ทว่าจริงจังอยู่ในที ทำให้หรู่อี้นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ต่อหน้าชาวบ้านที่ติดตามทุกคนเรียกขานนางว่านายหญิงตามคำสั่งของเยว่คัง ทว่า นางไร้อำนาจในการสั่งการใด ๆ ทั้งสิ้นอยู่แล้ว แม้แต่การตัดสินใจในยามที่ชายหนุ่มไม่อยู่ด้วยเช่นนี้ก็ตามที ในที่สุด ร่างบางจำต้องหมุนกายเดินกลับไปนั่งลงยังที่ของตนเองอย่างเงียบ ๆ
“ข้าขออภัยท่านลุงต้วน ที่มิอาจฝ่าฝืนคำสั่งของนายท่านได้”
“มิเป็นไรขอรับ แค่ยาที่คุณหนูมอบให้ก็มากพอแล้วขอรับ”
ต้วนลี่ทำได้เพียงยิ้มอย่างมิเต็มใจนัก อยู่ ๆ สิ่งที่คิดว่าจะง่าย กลับกลายเป็นเรื่องยาก หากให้คนด้านนอกจัดการ เขาเกรงว่าหญิงสาวอาจรอดไปได้ แล้วจะเป็นที่เคืองใจของผู้เป็นนาย
มิต่างกันกับชายหนุ่มชาวบ้านที่แทรกตัวเขามาในการนี้ เขาเองก็มีเป้าหมายอยู่เช่นกัน
‘สวะ! หมายกินเนื้อหงส์ ช่างไม่เจียมตน’
ต้วนลี่ชำเลืองมองชายหนุ่มผู้ทำลายแผนการของเขา ด้วยความขุ่นเคืองใจ
ทว่าชายหนุ่มยังคงทำเหมือนกับไม่รู้ว่าตนเองได้สร้างความมิพอใจแก่ชายชรา
‘หึ ๆ ขอให้เจ้ามีความสุขกับการคาดเดา’ รอยยิ้มอย่างสุขใจปรากฏบนใบหน้าอันแสนธรรมดา แต่ทว่าเพียงริมฝีปากของชายหนุ่มคลี่ออก กลับเพิ่มความน่ามองขึ้นมาอีกหลายเท่านัก
ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มโปรยปรายหนักขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่มยังคงก้าวเดินตามชายชราไปยังรถม้า เหมือนกับว่าเวลานี้ เขาไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของใครอีกหลายคน
“มิคิดว่าเจ้าจะแสดงละครเช่นนี้ก็เป็นด้วย หรู่อี้”
หนึ่งในผู้ติดตามเอ่ยขึ้นโดยหันไปส่งยิ้มกว้างให้หญิงสาว เขาชื่นชมไหวพริบของนางไม่น้อย ที่พลิกเรื่องราวให้กลับไปอีกด้านหนึ่งได้อย่างแนบเนียน
“มันคือสิ่งที่พวกท่านคาดการณ์เอาไว้อยู่ก่อนแล้วมิใช่หรืออย่างไร ข้าก็เพียงเสริมแต่งเข้าไปเล็กน้อย ท่านหญิงกำชับนักหนาว่าให้ระวังมากหน่อยกับคนที่เราต้องไปส่ง เห็นว่าข้ามิค่อยฉลาดเท่าใดนัก แต่ข้าก็มิได้ขลาดเขลาจนเกินไปเสียหน่อย”
หญิงสาวเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอดกับบรรดาชายหนุ่มที่พากันนั่งขำกับอาการที่ยากจะได้เห็นจากคนเช่นหรู่อี้ นางเสมือนน้องสาวตัวน้อยเวลาที่อยู่กับพวกเขา เสียงพูดคุยปนเสียงหัวเราะที่ดังมากกว่าปกติ คนภายนอกยากที่จะได้ยินเมื่ออยู่ท่ามกลางสายฝนเช่นนี้ พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งเล่นละครใด ๆ อีก
ทางด้านต้วนลี่ เวลานี้กำลังพยายามปรับอาการให้เป็นปกติ แม้อยากจะลงมือต่อชายหนุ่มที่กำลังเดินตามมาอยู่มากก็ตามที เขาต้องรอเวลาอีกสักหน่อย หากกระทำการใด ๆ ในตอนนี้อาจทำให้ทุกอย่างพังลงได้
“เจ้าคิดสิ่งใดอยู่ เจี่ยเต๋า เจ้าอย่าได้วาดหวังสิ่งที่เกินตัวให้มากนัก”
“ทุกคนย่อมต้องมีความหวังเสมอท่านลุง มิเว้นแม้แต่ท่านลุงเองก็มีความตั้งใจบางอย่างอยู่เช่นกันมิใช่รึขอรับ แล้วไยตัวข้าจะคิดบ้างไม่ได้เล่า”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“ไม่มีอันใดขอรับ ข้าเป็นเพียงชาวบ้านไร้การศึกษา ย่อมมิรู้จักสิ่งใดมากไปกว่าการที่ตัวข้าคิดเช่นไรก็พูดออกมาเช่นนั้นขอรับ”
“เช่นนั้น เจ้าก็จงจำไว้ให้ดีว่าอย่าพูดมากไป ควรสงบคำเอาไว้บ้างก็ดี อีกเรื่องก็คืออย่าริหมายกินเนื้อหงส์”
“เนื้อหงส์มันมีรสชาติเช่นใดกัน ถึงคิดว่ามันจะอร่อยจนตัวข้าต้องปรารถนาไขว้คว้ามาไว้ในมือเล่าขอรับท่านลุง”
“เจ้า…หึ คนชั้นต่ำมิรู้จักอันใดควรมิควร กล้ามายอกย้อนข้า น่าเสียดายที่เจ้าจะหมดโอกาสใช้ชีวิตในวัยหนุ่มให้คุ้มค่า”
การสนทนาหยุดลงเมื่อทั้งคู่มาถึงรถม้า ต้วนลี่ก้าวไปยืนอยู่หน้าประตูรถม้า แต่กลับมิได้ส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ด้านในแม้แต่คำเดียว จากชายชราหลังโค้งงอ ทว่าบัดนี้กลับยืดตัวตรง มือของชายสูงวัยคว้าจับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ท้องรถม้า
“ถึงข้าจะเป็นเพียงชาวบ้านโง่งม แต่ข้าก็รู้ดีว่าไม่ควรทำร้ายผู้สูงวัยกว่าหากมิจำเป็น”
น้ำเสียงกดต่ำจากเบื้องหลังทำให้ต้วนลี่นิ่งงันไปเล็กน้อย เขาคงปล่อยให้เจี่ยเต๋ามาขัดขวางภารกิจในวันนี้ไม่ได้เป็นอันขาด คราแรกก็หวังจะให้ผู้อื่นลงมือจัดการทุกคนในคณะเสีย แต่ไม่คิดว่าผู้เป็นนายจะทำในสิ่งคาดไม่ถึงขึ้นมาก่อน
สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าของชายหนุ่ม เขามิรู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย แค่ตลอดการดินทาง เขาทำเพียงเฝ้ารอเวลาเท่านั้น


















