บทที่ 6 ช้อนแผน6

“เจ้าทำให้ข้าไม่มีทางเลือก”

“ก็มิจำเป็นต้องมอบทางเลือกนั้นแก่ข้า”

ฟึบ!

ร่างสูงของชายหนุ่มกระโดดถอยหลังอย่างแผ่วเบา เสมือนการถูกจู่โจมอย่างกะทันหันจากต้วนลี่เป็นสิ่งที่เขาคาดเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว

ต้วนลี่ไม่คิดรอช้า เขารีบพุ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ความสงสัยที่มีมาตลอดการเดินทาง ดูเหมือนจะปรากฏแก่สายตาเขาแล้วในตอนนี้ นับตั้งแต่มีชายหนุ่มชาวบ้านขอร่วมเดินทางมาด้วยหลายคน แม้ทุกคนจะไม่มีสิ่งใดโดดเด่น ทว่าก็สร้างความแคลงใจให้แก่เขาและผู้เป็นนายมาตลอด

จนในที่สุด เขาก็ได้เห็นกับตาแล้วว่า หนึ่งในชาวบ้าน เป็นคนที่เขาต้องลงมือกำจัดด้วยตนเองเสียแล้ว

ภายใต้สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างมิขาดสาย จากชายชาวบ้านธรรมดาในคราแรก บัดนี้ ร่างกายกำยำได้เผยให้เห็นเมื่อถูกสายฝนกระทบร่างจนเปียกโชก เชือกที่ผูกรั้งชุดถูกคลายออกอย่างอ้อยอิ่ง เหมือนเขามิได้เร่งรีบกับการรับมือต้วนลี่เลยสักนิดเดียว เจี่ยเต๋าทำเพียงคอยหลบหลีกเท่านั้นเองโดยยังไม่คิดที่จะตอบโต้อีกฝ่าย

“เจ้าคิดจะดูถูกข้าเช่นนั้นรึ หึ ๆ เด็กแรกเกิดเช่นเจ้าอย่าหมายจะตีเสมอข้าจะดีกว่า”

“ฮา ๆ ท่านลุง ยังดีที่ข้าเป็นเพียงเด็กแรกเกิด ยังมีโอกาสเติบโต ทว่าช่างต่างกับท่านนัก ที่ใกล้ลงหลุมในเร็ววันแต่มิเจียมสังขาร”

“ปากกล้านัก ตายซะเถอะ”

“ข้าพร้อมส่งท่านลุงลงหลุมแล้วเช่นกัน หึ ๆ”

ขวับ!

เสียงเชือกแหวกสายฝนเข้าปะทะร่างของต้วนลี่

“อึก!”

ร่างสูงของต้วนลี่ที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนเห็นถึงกับเซถอยหลังไปไกลหลายก้าว ทั้งที่เขาถูกเพียงปลายเชือกเท่านั้นแท้ ๆ

‘ไยถึงมีพลังมหาศาลได้ถึงเพียงนี้กัน’

ต้วนลี่ทำได้เพียงเก็บงำความคิดเอาไว้ในใจ เขาผ่านการสังหารผู้คนมามิน้อย ฝีมือของเจี่ยเต๋ามิได้ทำให้เขากลายเป็นผู้พ่ายได้แน่นอน

การต่อสู้ท่ามกลางสายฝนเป็นไปอย่างดุเดือด ทว่ากลับมิได้ทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเข้าสู่ห้วงการหลับใหลอย่างอี้เหมยรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด แต่มันกลับเป็นการหลับใหลที่ดูจะมีความสุขมากกว่าทุก ๆ คืนตลอดการเดินทางที่ผ่านมาเสียอีก

รอยยิ้มละมุนคลี่ออกเบา ๆ ก่อนร่างงามจะขยับตัวให้สบายที่สุดภายใต้ผ้าห่ม เพื่อการนอนที่รอเวลาตื่นขึ้นมาพบกับความสำเร็จในตอนเช้า

‘หวังว่าพวกนั้นจะทำให้ท่านเยว่คังสยบแก่ข้าได้สำเร็จ หึ ๆ ต่อให้ท่านเป็นเพียงบุรุษพิการ แต่หากท่านเป็นของข้าแต่ผู้เดียว เรื่องแค่นั้น ข้าอี้เหมยมิถือสา’

ด้านที่พักของหรู่อี้และผู้ติดตาม

เคล้ง!

กระบี่ยาวถูกยกขึ้นกันการจู่โจมได้ทันก่อนจะถึงตัว พร้อมการโต้กลับอย่างรวดเร็วของคนที่ถูกจู่โจม ส่วนคนที่เหลือต่างคว้าอาวุธข้างกายลุกขึ้น ฝ่าสายฝนออกไปประจันหน้ากับผู้บุกรุกยามค่ำคืน ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียว

หรู่อี้ยืนนิ่งไร้ความตื่นตกใจ กระบี่คู่กายยังคงอยู่ในฝัก นางกำลังประเมินคู่ต่อสู้ที่กำลังประมืออยู่กับบรรดาผู้ติดตาม

เคล้ง!

หรู่อี้ไม่ขยับกายแม้แต่น้อยเมื่อถูกจู่โจมจากทางด้านหลัง หญิงสาวยกกระบี่ที่ยังคงอยู่ในฝักขึ้นรับมือ ก่อนที่ร่างงามจะหมุนกายกลับไปเผชิญหน้ากับคนร้ายด้วยสายตาอันเยือกเย็น

“คิดสังหารคนจากด้านหลัง ช่างต่ำช้าเกินไปแล้ว เห็นที ข้าคงให้อภัยเจ้าไม่ได้แล้วจริง ๆ”

“ปากดี!”

“และงดงามอีกด้วย หึ ๆ”

หรู่อี้ต่อคำพูดของชายชุดดำ ด้วยท่าทางน่าเอ็นดู ทว่า การโจมตีโต้กลับของหญิงสาวกลับแตกต่างจากรอยยิ้มยิ่งนัก แต่สิ่งที่สร้างความขุ่นเคืองให้แก่ชายชุดดำก็คือ หญิงสาวไม่แม้แต่จะชักกระบี่ออกจากฝัก เสมือนการหยามเขาอย่างตั้งใจ

“ชักกระบี่ออกมา”

“ใช้ความสามารถของเจ้าลองดูสิ ว่าจะทำให้ข้าชักกระบี่ออกมาได้รึไม่ คนมิคู่ควร ข้าก็มิจำเป็นต้องให้ค่าแก่มัน เจ้าว่าจริงไหม”

“อ๊ากกก! อย่าอยู่เลย สตรีน่ารังเกียจ”

เมื่อถูกหมิ่นเกียรติด้วยคำพูดของสตรี ทำให้ชายชุดดำถึงกับสติขาดสะบั้นในทันที ทุกกระบวนท่าว่องไวประดุจสายลม ทว่า หญิงสาวเองก็ใช่จะน้อยหน้า ทุกท่วงท่ากลมกลืนไปกับสายฝนที่โปรยปราย

หรู่อี้มิได้ประมาทคู่ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย แต่เพราะฝักกระบี่ของนาง ถูกสร้างขึ้นมาด้วยรูปแบบอันพิเศษ ต่อให้นางมิดึงกระบี่ออกมาก็สามารถต้านทานศัตรูได้เป็นอย่างดี ฝักกระบี่นี้ นางซ่อนมันภายใต้คราบอันไร้ความงดงามมานาน จนถึงวันนี้ที่มันถูกเปิดเผยออกสู่สายตาผู้คน

เมื่อมินานมานี้ ผู้เป็นนายของนางก็เคยเอ่ยถึงกระบี่เล่มนี้อยู่เช่นกัน เมื่อนึกตามคำพูดของผู้เป็นนายแล้ว นางมิควรปิดกั้นสิ่งใดอีกต่อไปจึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

“หรู่อี้”

“เจ้าค่ะ”

“กระบี่นั่น จะซ่อนมันไว้อีกนานรึไม่ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดสิ่งใดอยู่ แต่ข้าคือน้องสาวขององค์ชาย ข้ามั่นใจว่าเขามอบมันไว้ให้เจ้า เพื่อใช้มันปกป้องตัวข้าและรวมถึงเจ้าด้วย อย่าซ่อนความสวยงามและคุณค่าของมันเอาไว้ภายใต้ความเศร้าของเจ้า เพียงรอยยิ้มเดียวของเจ้า หรู่อี้ พี่ชายข้าจะต้องมีความสุขมากกว่าการที่เจ้าแอบซ่อนเอาไว้อยู่เช่นนี้”

“เจ้าค่ะ หรู่อี้ทราบแล้ว”

และในวันนี้ นางจะใช้มันเป็นครั้งแรก เพื่อปกป้องตัวนางเอง ตามความต้องการของเขาผู้นั้น องค์ชายโม่คัง ผู้เป็นหนึ่งเดียวในใจของนางเสมอมา นางจะใช้กระบี่นี้ตามความตั้งใจของเขามิให้ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป