บทที่ 8 ช้อนแผน8
‘หึ ๆ ข้ายังมิทันได้ทวงสัญญาจากเจ้าเลย หรู่อี้ ข้าอาจต้องจากเจ้าไปอีกครั้งและตลอดกาลก็เป็นได้’
โม่คังรู้ตัวดีว่าเขายากที่จะเอาชนะคนทั้งห้าได้ในสภาพเช่นนี้ แม้แต่จะหนีก็ยากที่จะทำได้
เคล้ง! ขวับ!
โม่คังหันไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการเพิ่มความเจ็บร้าวให้แก่ร่างกายของเขาเป็นเท่าทวีคูณ
หมับ!
โม่คังรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม
“ข้าเอง”
เสียงอันคุ้นเคยทำให้ใจของโม่คังอุ่นวาบขึ้นมาในฉับพลัน ชายผู้ที่เขามิคาดฝันว่าจะติดตามมา ที่สำคัญ ไยเขาถึงไม่รับรู้ถึงการติดตามมาของอีกฝ่ายกันเล่า
“เจ้าตามข้ามาตลอดเลยรึ ไยมิอยู่กับอี้เอ๋อร์”
“ยังจะห่วงคนอื่นอีก อี้เอ๋อร์ นางมิได้เป็นแบบท่านนี่ นางปลอดภัยแน่นอน แต่หากท่านกล้าที่จะตาย แล้วปล่อยนางเป็นหม้ายขันหมากอีกครั้ง ข้าจะตามไปสังหารท่านถึงยมโลกเลยคอยดู”
“ไม่มีวันนั้นหรอก เพราะนางเป็นฮูหยินของข้าคนเดียว หึๆ”
“ฮึ! จะตายแล้วยังมาพูดดีอีก เอ้า! รีบกินยาซะ! เร่งปรับลมปราณ ส่วนที่เหลือ ข้าจัดการเอง”
ชายหนุ่มผู้มาใหม่กดร่างของโม่คังให้นั่งลงกับพื้นหญ้าที่เปียกชื้น เขาไม่อาจพาผู้เป็นนายฝ่าวงล้อมออกไปได้ในตอนนี้ พวกเขามีจำนวนคนที่น้อยกว่า อุปสรรคใหญ่หลวงคือสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาจนมิอาจมองฝ่าไปได้เลยแม้แต่น้อย
เสียงกระพรวนดังเป็นระยะให้รู้ว่าคนของเขายังคงมีชีวิตอยู่ เพื่อคอยป้องกันศัตรูให้แก่เขาและผู้เป็นนายอีกชั้น นับว่าคาดการณ์ทุกอย่างได้แม่นยำทีเดียว เรื่องอาการของผู้เป็นนายที่อาจกำเริบขึ้นได้ ซึ่งมักจะกำเริบในทุกช่วงเวลานี้ของทุกสองสามปี เขาจึงเลือกที่จะให้น้องชายปกป้องชายแดนแทนตนเอง เพื่อมุ่งติดตามผู้เป็นนายมาได้ทันการณ์
เคล้ง!
“ข้ายังอยู่ อย่าแม้แต่จะคิด”
ชายหนุ่มคำรามก้องด้วยน้ำเสียงดุดัน ทั้งยังแผ่รังสีแห่งการฆ่าออกมาจนคนรอบกายรู้สึกได้ เขาจะไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ได้อีก เหตุการณ์ในอดีตทำให้บรรดาเงาถูกมองว่าไร้ค่า
‘ในอดีตเจ้าป้ายความผิดให้เหล่าองครักษ์เงา ครั้งนี้เป็นทีของข้าที่จะประกาศให้ทั่วทั้งแผ่นดินรู้ถึงความชั่วช้าของพวกเจ้าเช่นกัน’
แม้จะถูกโจมตีอย่างหนัก ชายหนุ่มก็มิคิดที่จะห่างกายผู้เป็นนายเกินสองก้าว
ช่วงเวลาในการเดินลมปราณนั้นสำคัญยิ่งนัก หากพลาดแม้เพียงเสี้ยวนาที ความตายย่อมต้องมาเยือนผู้เป็นนายอย่างแน่นอน
“ฝีมือไม่เบา แต่พวกเจ้ามันก็แค่สุนัขรับใช้สกุลโม่เท่านั้น”
“หึ ๆ สุนัขที่มิคิดแว้งกัดนายตัวเอง ย่อมมีเกียรติกว่าสุนัขบางตัวก็แล้วกัน”
ทั้งสองฝ่ายตะโกนโต้ตอบกันพร้อมการปะทะอันดุเดือด ฝ่ายตั้งรับก็แกร่งจนทำให้คนที่หมายเอาชีวิตหวาดหวั่นอยู่ในใจ
โม่คังรวบรวมสมาธิ เพื่อให้พลังวัตรเร่งนำพายาที่เขากินเข้าไปให้ไหลเวียนตามเส้นเลือด สิ่งที่เขาทำอยู่นับว่าอันตรายมากทีเดียว ทว่าก็มิอาจช้าได้ คนร้ายที่ไม่อาจคาดเดาพลังหรือจำนวนได้นั้น ทำให้พวกเขาตกเป็นรองอยู่มิน้อย ตอนนี้ที่ล้อมรอบเข้ามีห้าคนและทางด้านที่พักเล่า จะมีอีกมากเท่าไหร่กัน
การต่อสู้ดำเนินไปเนิ่นนานเท่าไหร่แล้วนั้น โม่คังมิอาจรู้ได้ แต่บัดนี้ อาการเจ็บปวดของเขาได้บรรเทาลงมากแล้ว ชายหนุ่มไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป
หรู่จงรับรู้ถึงพลังของคนที่เขาปกป้องอยู่ ทำให้ชายหนุ่มแทบอยากกระโดดเข้า…ให้ล้มคว่ำลงเสียในตอนนี้ เพราะเขาเป็นทั้งสหายและองครักษ์ มีหรือจะไม่รู้ว่าผู้เป็นนายกำลังจะทำสิ่งใด
“อยากตายนักรึไงกัน”
“หลบไปซะ!”
โม่คังเอ่ยเสียงลอดไรฟัน เขามีเวลาที่จำกัดเหลือเกินกับการใช้พลังนี้ ทว่าหากเขาปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไป ไม่มีใครจะบอกได้ว่าจะเกิดการสูญเสียอีกมากแค่ไหนหากยังลังเลอยู่
หรู่จงส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามคนอื่นถอยออกไป รวมทั้งเขาที่กันคู่ต่อสู้ให้ออกห่างจากผู้เป็นนายให้ได้มากที่สุด
คนร้ายทั้งห้าคนต่างพากันย่ามใจ เมื่ออยู่ ๆ คนที่มาขัดขวางต่างพากันถอยร่น ซ้ำยังทิ้งเป้าหมายของพวกเขาเอาไว้อย่างน่าสมเพชยิ่งนัก
“ไม่มีคำว่าตายแทนสำหรับใครในยามนี้ ฮา ๆ เป็นผู้ใดก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น เช่นเดียวกับคนที่เจ้าหวังพึ่งพา คุณชายเยว่”
“ไม่ผิด…และพวกเจ้าเองก็มิควรประเมินผู้อื่นต่ำจนเกินไปเช่นกัน”
ชายชุดดำทั้งหมดถึงกับผงะเมื่อสิ้นคำพูดของโม่คัง ทว่า มันช้าไปเสียแล้วสำหรับชายชุดดำทั้งห้าที่มิอาจก้าวเท้าถอยหลังได้อย่างต้องการ เมื่อน้ำฝนที่เจิ่งนองอยู่กลับกลายเป็นน้ำแข็ง ตอกตรึงร่างของชายฉกรรจ์ทั้งหมดจนมิอาจขยับเคลื่อนกายได้
“มันคือสิ่งใดกัน”
คำถามที่มิอาจได้รับคำตอบเกิดขึ้นกับคนร้ายทั้งหมดรายรอบกายโม่คัง ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเร่งเร้าพลังภายในให้ปลดปล่อยออกมาจนถึงขีดจำกัดของร่างกาย ทำให้สายฝนที่กระหน่ำลงมาเสมือนสวรรค์ถล่มนั้น กลับกลายเป็นน้ำแข็งกินบริเวณกว้างเลยทีเดียว และผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากก็คงหนีมิพ้นผู้ที่หวังเอาชีวิตของเขาเอง
หรู่จงได้แต่มองฝ่าสายฝนไปยังกลุ่มน้ำแข็งตรงหน้าด้วยหัวใจอันร้อนรุ่ม แม้ตัวจะยืนห่างออกมาอยู่มาก ทว่า ไอเย็นจากพลังของผู้เป็นนายก็แผ่มาถึงตัวเขาอยู่นั่นเอง ผู้ติดตามทั้งหมดต่างพากันเงียบเสียง ทุกคนต่างเร่งเร้าพลังเพื่อเพิ่มความร้อนภายในร่างกาย ก่อนที่ความเย็นจะเกาะกุมหัวใจจนถึงตาย


















