บทที่ 4 4
“อือ! ได้เลยคุณห่าขา...อ่า! คุณห่าช่าง อ๊ะ! อืม!” หล่อนเอ่ยเสียงครางกระเส่า โยกเย้าบิดเอวครวญ เกี่ยวกอดรัดคลึงร่างใหญ่ด้วยความทรมานเสียว
“นั่นแหละ อืม! แรง ๆ โอว์! จูบฉันด้วย อ๊ะ! โอว์!” เร่งเอวเล็กกระแทกขย่มตนอย่างเอาแต่ใจ น้ำในอ่างอาบน้ำไหวกระเพื่อมล้นออกนอกอ่าง สองมือหยาบกร้านเคลื่อนไล้มากอบกุมเต้างามของคนที่กำลังขย่มอยู่บนร่างตน
“อ๊ะ! ไม่ไหวแล้วคุณห่า...อ่า! แรง ๆ ชูว์!” หล่อนสูดปากร้องครางทรมานเสียว พลางกดกระแทกเข้าหาแก่นกายอวบอูมในร่างตน
“อ่ะ! นั่นแหละ อ่า! ไม่ไหวแล้ว ก้มลงมา ชูว์! ฉันต้องการดูดนมเธอ ซี้ด...อ่า!” ร่างน้อยบิดครวญร้องเสียวแอ่นโค้งโน้มเต้าดุนดันใบหน้าคม ทันทีปากร้ายอ้ากว้างครอบครองดูดดึงพร้อมมือใหญ่ฟอนเฟ้น เจ้าหล่อนก็ยิ่งชอบใจ ร้องครางลั่นพร้อมกระแทกร่างหนักหน่วง
“อ่า! คุณห่าขา...อืม! ชอบไหมคะ อาส์! สะ เสียว โอว์!” หล่อนแอ่นอกสู้รบกับปากร้าย สองมือเล็กจับขอบอ่างไว้ แล้วยกร่างขึ้นขย่มตามแรงเสียวสาวที่สอดเร่าเสียดสีในร่างตน
“โอว์! เย้! ใกล้แล้วอิงกี้ อ่า! ซี้ด...เสียวเหลือเกิน! อา!”
เสียงร้องครวญครางดั่งเป็นระลอกคลื่น น้ำในอ่างก็ซัดออกนอกอ่างตามแรงกระแทกของร่างเปลือยเปล่าในอ่าง บทรักของทั้งสองยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ตามเข็มนาฬิกา
แม้จะไร้หัวใจ จะเย็นชาไร้ซึ่งความรักให้ใคร แต่เหรียญชัยก็ยังคงเป็นเหรียญชัย เห็นแก่ตัวเห็นแก่ความสุขของตัวเอง หาได้สนใจคนรอบข้างไม่ แม้แต่คู่นอนชั่วคราวอย่างพวกหล่อนที่แวะเวียนขึ้นเตียงกับเขา
ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ร่างเล็กเดินตามเจ้านายหนุ่มของตนมาด้วยความไม่ชอบใจ ขนาดมาติดต่องานยังแนบแม่สาวโคโยตี้มาด้วย แถมยังจิกใช้เธออย่างกับทาส ทั้ง ๆ ที่เป็นเลขาฯ ไม่ใช่คนรับใช้
“เอาของฉันกับของอิงกี้ไว้ตรงนี้แหละ ที่เหลือ พวกฉันจัดการเอง เธอไปห้องพักเธอเถอะยัยแว่น” เอ่ยเสียงเข้ม เพราะตอนนี้เขาอยากรักแม่โคโยตี้สาวที่ห้อยสอยติดมาด้วยใจแทบขาด กลิ่นกายหล่อนช่างยั่วยวนเหลือเกิน
“ค่ะ” เนตรนภาตอบรับเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเดินจากไปจากห้องนี้
ถ้าขืนยังอยู่ในนี้มีหวังได้ดูหนังสดแบบในห้องทำงานที่เห็นเป็นประจำเป็นแน่ แต่จะเป็นไรไป ก็เห็นจนชินตาแล้ว ตาจะเป็นกุ้งยิงก็ไม่เป็น คงเพราะชินไปเสียแล้วมั้ง
“ไปออกกำลังกายก่อนอาบน้ำกันดีกว่าอิงกี้”
“ว้าย!” หล่อนร้องกรี๊ดออกมาอย่างมีจริตมารยา พร้อมกอดคอคนตัวโตที่ยกร่างหล่อนขึ้นลอยเหนือพื้น
“ฮ่า ๆ ฉันรู้ว่าเธอต้องการฉันอิงกี้” ว่าแล้วก็รีบสาวเท้าไวๆ ไปยังห้องนอนที่เปิดกว้างรอท่าอยู่ก่อนแล้ว
พอเนตรนภามาถึงห้องพักของตนที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของเจ้านายหนุ่ม หล่อนก็เดินเข้าไปในห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง ตั้งแต่ออกจากสนามบินมาก็ไม่ได้สบายเลย ต้องคอยหิ้วถือของให้พวกคนรวยไร้จิตสำนึก
เฮ้อ!
“มาทำงานถึงฝรั่งเศส ก็เอายัยโคโยตี้นั่นมาด้วย ขาดกันคงจะตายสินะ ไม่ได้จิ้ม ได้เสียบโยกกันคงจะขาดใจตายสินะ” หล่อนอดแขวะห้องตรงข้ามไม่ได้
เนตรนภาบ่นพึมพำให้เจ้านายหนุ่มไปหลายตลบ จนเผลอหลับทั้ง ๆ ที่ยังใส่แว่นอยู่ หลับไปนานเท่าไรไม่รู้ จนต้องสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเมื่อมีคนมาเคาะประตูห้องนอนของเธอ
ร่างเล็กงัวเงียตื่นไม่เต็มตา สติไม่สมบูรณ์เท่าไร เดินโซเซไปยังประตูห้อง พอถึงหน้าประตูห้อง สาวเจ้าก็กะพริบตาไล่ความง่วง จัดเสื้อผ้าทันทีเมื่อตื่นเต็มตา สติมาครบแล้วก็จัดแต่งผมที่ยุ่งเหยิงของตนให้เข้าทรง
เธอเดินไปส่องตาแมวหน้าประตู เพื่อดูว่าใครกันที่มารบกวนตนเวลานี้ได้ พอส่องแล้วเห็นหน้าบึ้งตึงของเจ้านายที่รักยิ่ง เธอก็ต้องรีบผลักเปิดประตูทันที
“ทำอะไรอยู่ยัยแว่น ชักช้า!” พูดพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาในห้อง โดยที่เจ้าของห้องยังไม่ทันได้อนุญาต
“นะ นอนค่ะ...” เนตรนภาปิดประตูห้อง รีบเดินตามนายหนุ่มไปที่โซฟารับแขกกลางห้องพัก แล้วหล่อนเพิ่งสังเกตว่าเขาถือถุงอะไรมาก็ตอนเขายื่นส่งให้เธอนั่นแหละ
“ฉันซื้อขนมมาฝาก เห็นเงียบไป ฉันเลยเป็นห่วง” เหรียญชัยไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอพูดความรู้สึกห่วงใยลึก ๆ ของหัวใจตนออกมา
แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าความห่วงใยที่มีต่อหล่อนมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ตอนไหน ยังไง หรือว่ามันจะแอบซุกซ่อนอยู่ในอกของเขามานานแล้วกันแน่
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
เนตรนภาเอ่ยเสียงสั่นกับประโยคที่นายหนุ่มเปล่งออกมา พร้อมกับรับถุงขนมมาไว้ในมือ แล้วเอาวางไว้ตรงหน้าตน
เธอจึงถามเจ้านายหนุ่มด้วยความสงสัย อยากรู้ว่าเขามาหาเธอทำไมกัน แล้วคู่ขาของเขาไปไหนกัน ทำไมไม่ตามมาด้วย ปกติตัวติดกันราวกับปาท่องโก๋ แต่ทำไมตอนนี้ถึงมาคนเดียวได้เล่า
“คุณเหรียญชัยมีธุระอะไรกับดิฉันคะ แล้วเธอคนนั้น...?”
“มาบลีฟงานก่อนจะไปคุยกับ มิสเตอร์หว่อง ส่วนอิงกี้ก็เพลียหลับอยู่ที่ห้อง”
ชายหนุ่มพูดแทรกประโยคของคนตัวเล็ก ก่อนที่เธอจะเอ่ยจบความ
“งั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันขอตัวไปเอาเอกสารในห้องนอนแป๊บนึงค่ะ” ว่าแล้วก็รีบลุกขึ้นสาวเท้าเดินไปยังห้องนอนของตน
