บทที่ 1 ถังหูลู่

ในค่ำคืนที่กรุงเทพฯ เจิดจ้าด้วยแสงไฟ งานแต่งงานสุดหรูถูกจัดขึ้น ณ โรงแรมระดับห้าดาวกลางเมือง

เสียงดนตรีอันอ่อนหวานจากวงดนตรีสดเติมเต็มบรรยากาศให้แสนอบอุ่น

การตกแต่งที่ประณีตทุกจุดในงาน สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด

เสียงหัวเราะและคำพูดแห่งความยินดีลอยคลอไปในอากาศ ขณะที่แขกเหรื่อมากมายเดินทางมาร่วมฉลองให้กับเจ้าสาวหยวนชิงหลาน และเจ้าบ่าวถังไห่เฉิง

ภายในงาน ดอกกุหลาบขาวและสีชมพูอ่อนถูกจัดเรียงอย่างงดงามในแจกันคริสตัล

บนโต๊ะอาหารที่ประดับด้วยผ้าปูโต๊ะสีทองแวววาว สะท้อนแสงโคมไฟระยิบระยับจากด้านบน มอบความรู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยาย

บนเวที เจ้าสาวในชุดแต่งงานสีขาวงามสง่าดุจนางฟ้า ผมเกล้าเรียบหรูประดับด้วยมงกุฎคริสตัล

เจ้าบ่าวในชุดทักซิโด้สีดำคลาสสิก ดูสมบูรณ์แบบราวกับเจ้าชายในฝัน

ทั้งคู่ยืนอยู่ใต้ฉากหลังที่ประดับไฟและชื่อของพวกเขาด้วยฟอนต์อักษรวิจิตร สะท้อนถึงความรักที่เบ่งบาน

ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังตื่นเต้นกับการเล่าเรื่องฮันนีมูนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ซึ่งแสดงภาพถ่ายสวยงามบนจอโปรเจคเตอร์ในมุมเวที

มีเพียงโต๊ะหนึ่งที่ความสนใจไม่ได้พุ่งไปที่เวที แต่กลับไปอยู่ที่จานขาหมูตุ๋น เนื้อนุ่มละลายในปาก ที่มีกลิ่นหอมฟุ้งจนใคร ‘บางคน’ อดใจไม่ไหว

ในมุมหลบสายตานั้น สาวร่างเล็กคนหนึ่งกำลังตักขาหมูเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

เธอสวยสะดุดตาในชุดเดรสสีขาวกระโปรงสั้นที่เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียน เสื้อท่อนบนที่พอดีตัวเน้นสัดส่วนโค้งเว้าสมส่วนของวัยสาว

ผมยาวดำสนิทที่ถูกรวบเป็นหางม้าหลวม ๆ ทิ้งปลายพลิ้วไหวขับให้ใบหน้ากลมป้อมดูน่ารักยิ่งขึ้น

ถังหูลู่ คือชื่อของเธอ เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าบ่าว ใส่เหล็กดัดฟันและสวมแว่นตากลมเป็นเอกลักษณ์ ส่งเสริมความไร้เดียงสาในท่าที

เธอหลีกเลี่ยงความวุ่นวายด้วยการซ่อนตัวอยู่หลังแจกันดอกไม้บนโต๊ะ เหมือนเธอกับจานขาหมูนั้นเป็นโลกส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้าถึง

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขขณะเคี้ยวทำให้เธอดูเหมือนเด็กตัวน้อยที่เพิ่งได้ของขวัญที่ปรารถนา แต่แล้ว ความสงบสุขของเธอก็ถูกรบกวนด้วยเสียงโห่ร้องจากเวที

“สาม... สอง... หนึ่ง!”

เสียงนับถอยหลังดังก้อง พร้อมช่อดอกไม้ที่ลอยละลิ่วขึ้นสู่กลางอากาศ

ทุกสายตาในงานจับจ้องการเคลื่อนไหวของมันอย่างตั้งใจ

ความหวังอันอบอวลในใจของสาว ๆ ที่ยืนล้อมเวทีนั้นชัดเจน แต่แล้ว...

เมื่อช่อดอกไม้ลอยสูงสุดก่อนจะค่อย ๆ ลดระดับลง เส้นทางของมันกลับบิดเบี้ยวอย่างไม่คาดคิด ราวกับถูกลมที่ไม่มีตัวตนดึงพามายังอีกฝั่ง

มันไม่ตกลงในมือของหญิงสาวใดเลย หากแต่ลอยข้ามโต๊ะเก้าอี้ไปยังมุมหนึ่งของห้อง

ตรงไปยังโต๊ะของถังหูลู่อย่างแม่นยำและร่วงลงบนจานขาหมูตุ๋นชุ่มน้ำซุปที่กำลังถูกลิ้มรสอย่างเอร็ดอร่อย

เสียง “แผละ!” ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันที่ตามมาราวกับทุกคนหยุดหายใจไปพร้อมกัน

สาวน้อยสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมาพร้อมดวงตาเบิกกว้าง ความตกตะลึงฉายชัดในสีหน้า

ใบหน้าเนียนใสแต้มด้วยรอยเปื้อนน้ำซุปเล็กน้อย ทำให้เธอดูน่ารักปนขบขันในคราวเดียวกัน

มือเล็กรีบคว้าช่อดอกไม้ขึ้นมาจากจาน รอยเปื้อนของน้ำซุปยังคงหลงเหลืออยู่บนกลีบดอกไม้บางส่วน

เธอพึมพำกับตัวเองทั้งที่ยังเคี้ยวอาหารในปาก “อื้ม...มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”

เสียงปรบมือและเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งห้องดึงเธอออกจากภวังค์

ดวงตาของแขกเหรื่อทุกคนหันมาจ้องมองเธอเป็นจุดเดียว รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของหลายคน

บ้างตบมืออย่างเห็นด้วย

บ้างหัวเราะจนตัวงอ

เสียงแซวจากโต๊ะข้างเคียงดังระงม

“ยินดีด้วยนะน้องถัง! ดอกไม้ยังเลือกคนไม่พลาดเลย!”

To be continued...

บทถัดไป