บทที่ 8 My New Swag [1]
[พาร์ท : บุหรี่]
เพราะเป็นคนที่เคยถูกผู้หญิงที่เคยรักมากหลอกใช้เป็นเครื่องมือในการหากินให้ผู้ชายคนใหม่ พอฟื้นตัวจากสภาพหัวใจที่บอบช้ำตอนนั้นได้ ผมก็กลายมาเป็นคนที่นอนกับผู้หญิงมากมายทุกค่ำคืน
ไม่ต้องห่วงว่าจะติดโรค เพราะป้องกันและไปตรวจสม่ำเสมอจนแทบเป็นกิจวัตร
แต่เรียกได้ว่าไม่เข็ดไม่จำกับสงครามที่เรียกว่าความรัก สุดท้ายสเป็คก็คือผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ท่าทางเหมือนกระต่าย แต่จริงๆ อาจใสแต่หน้า เนื้อแท้กลับจงใจจะหลอกใช้เราแล้วเททิ้งเหมือนน้ำเสีย
ไอ้ประโยคท้ายคงไม่รวม... แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ตรงสเป็คมักจะไม่ซิง แล้วก็ร้าย
ตอนเช้าตื่นมา หลังจากที่กลับจากไปส่งกระต่ายน้อยที่ตรงสเป็คตัวนั้น ก็เลยหาทางตะครุบจับให้เธอไปไหนไม่เป็น ด้วยการจ้างคนตามสืบถึงพื้นเพและที่อยู่ของครอบครัว รวมทั้งตารางเรียน เพราะตามสัญญาว่าจะไปรับไปส่ง
ไอ้สมิงไม่ยอมโทรมาบอกอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น จนรู้ว่าเมื่อตอนเย็นวานมันบุกไปที่บ้านเธอ แล้วเข้าหาแม่เธอจนสำเร็จ
หวงของไม่เข้าเรื่อง คงเพราะถูกใจจนทนไม่ได้ล่ะสิ
จะแย่งมาเป็นของตัวเองให้ดู เพราะเวลาที่ไอ้สมิงหวงของเล่นเป็นเด็กๆ ก็น่าตื่นเต้นนิดหน่อย
ผมเลือกขับรถบิ๊กไบค์ไปส่ง จริงๆ จากกิจการที่ทำอยู่ก็พอจะซื้อรถได้หลายคัน แต่เป็นคนที่ชอบขับบิ๊กไบค์มากกว่า ถ้ามีธุระหนักต้องไปส่งเสี่ยเงินหนาหรือผู้หญิง ก็อาจจะยืมรถไอ้สมิงมาใช้
หลังจากเลือกหมวกกันน็อคอันโปรดมาใส่ ก็ขับไปที่หน้าบ้านเธอซึ่งติดกับค่ายมวยหญิงอะไรนั่น เป็นซอยเล็กๆ ท่าทางไม่ค่อยมีรถผ่าน เห็นป้ายทะเบียนรถที่จำได้ว่าเป็นของไอ้สมิงอยู่ข้างหน้า เหมือนกำลังจะจอดคุยกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็คือปูน้อย
ผมหยุดรถนิ่งดูลาดเลาอยู่แค่แปปเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจขับออกไปข้างรถมัน ถอดหมวกกันน็อคออกเมื่อเห็นว่าแววตากลมโตมองมา
“พี่บุหรี่! / ไอ้บุหรี่!”
เสียงของไอ้เวรสมิงกับปูน้อยดังขึ้นมาแทบพร้อมกัน ผมซ่อนรอยยิ้มไว้ในใจเมื่อเห็นว่าเธอยอมเรียกผมว่าพี่บุหรี่ แล้วกลับมาตีหน้านิ่งดังเดิม
“พร้อมมั้ย”
“...”
“ขึ้นรถสิ”
“มึงมาแย่งหน้าที่กูทำเหี้ยไรเนี่ยไอ้เวร” ไอ้สมิงกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจแทบทันที แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
“หน้าที่ของกูต่างหาก” พูดออกมาแบบนั้น แล้วก็จ้องไปทางปูน้อยที่ยืนตัวแข็งทื่อเป็นหุ่น
“...”
“ใช่มั้ย... ปูน้อย?”
“อะ เอ่อ...” คนตัวเล็กดูจะปะติดปะต่ออะไรไม่ทัน เธอมุ่นคิ้วยืนคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะดีดนิ้วเปาะ “อ้อ! ใช่ๆๆ ใช่แล้วค่ะพี่สมิง ปูน้อยจำได้ว่าสัญญากับพี่บุหรี่ไว้ว่าพี่บุหรี่จะไปส่งทุกวัน”
“ว่าไงนะ” ไอ้สมิงหรี่ตาลงเหมือนจะจับผิด
“ก็ตามที่ได้ยิน” กูชิงตอบแทนเธอ พอเห็นว่ามันตวัดสายตามามอง กูก็ฉีกยิ้มนิดหน่อย ก่อนที่จะไล่สายตากลับไปยังคนตัวเล็ก “ขึ้นมาสิ”
“ค่ะ!” เธอกุลีกุจอวิ่งก่อนที่จะยืนละล้าละหลังอยู่หน้ารถบิ๊กไบค์คันใหญ่ ผมจ้องอยู่นิ่งๆ อย่างหยั่งเชิงจนเธอหันมาส่งสายตาเหมือนอ้อนวอนว่าเธอขึ้นมันไม่ได้ เพราะเธอตัวเล็กเกินไป
“... หึ” ผมแค่นยิ้ม ไม่รู้ทำไมถึงยิ้มบ่อยนักเพราะเธอ “ต้องให้ดูแลอีกแล้วสินะ”
พ่นออกไปอย่างนิ่งเฉยแบบนั้นก็จริง แต่ก็ยอมลงจากรถบิ๊กไบค์เพื่ออุ้มส่งเธอขึ้นไปกวาดขานั่งคร่อมบนรถ ท่ามกลางสายตาหึงหวงของไอ้สมิง
แปลว่าคงยังไม่มีโอกาสได้อุ้มเธอเหมือนกัน
บอกแล้วไงว่า... วู่วามไป ไม่มีประโยชน์
“พะ... พี่สมิง อย่าไปเรียนสายนะคะ!” แต่ผู้หญิงที่ขึ้นซ้อนหลังคงเป็นคนดีเกินเหตุ เธอตะโกนบอกไอ้สมิงระหว่างที่ผมสตาร์ทเครื่อง แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วเพราะรู้สึกขัดหูขัดตา
แต่คงเพราะเร่งเครื่องแรงไปหน่อย มือเล็กๆ ถึงได้เผลอเข้ามาสวมกอดที่สะบั้นเอวอย่างกะทันหัน บางสิ่งนุ่มๆ แตะเข้าที่แผ่นหลัง ประมวลผลได้ทันทีว่านั่นคือ... หน้าอก
ถึงจะเล็กกว่าหลายคนที่เคยมีเซ็กซ์ด้วย แต่ก็ถือว่า
พอดีมือน่าดู
[จบพาร์ท : บุหรี่]
พะ... พี่บุหรี่ขับรถน่ากลัวจัง
หนูเผลอตัวไปกอดเขาแน่นโดยที่ไม่รู้ตัว ตัวใหญ่ๆ ของพี่บุหรี่กอดอุ่นมากๆ เผลอทำให้ใจเต้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นความหวาดเสียวสุดชีวีเมื่อเขาเร่งเครื่องบึ่งแรงกว่าเดิมจนตัวย่อลงไปเหมือนจงใจจะแกล้งกัน
พอรู้สึกตัวว่ากำลังกอดเอวเขาแน่นพร้อมกับหลับตาปี๋ไม่ยอมคลายมือออก หนูก็...
ไม่ปล่อยอยู่ดีอ่ะค่ะ เพราะถ้าปล่อยมีหวังได้ตัวแอ่นลอยละล่องท้าลมพายุกับแสงอาทิตย์ยามเช้าแน่ๆ
“พะ พี่บุหรี่คะ” หนูกลั้นใจเอ่ยเรียกชื่อเขาระหว่างที่หลับตาปี๋ ใจโหมโรงเต้นตึกตักแบบแทบจะเด้งทะลุหน้าอกออกมา พอเห็นว่าเขาไม่ได้ยินเลยต้องตะคอกเสียงอันทรงพลังแปดหลอดใส่เขา “พี่-บุ-หรี่-คะ!!”
เอี๊ยด!
เขาเบรกแทบจะทันทีที่ตะโกนออกไป ทั้งตัวหนูเบียดเข้ากับหลังกว้างๆ ของเขาทันทีแบบไม่มีแขนป้องกันไว้ ส่งผลให้หน้าอกหน้าใจที่แสนจะหวงแหนบู้บี้แนบกับหลังของเขาเข้าเต็มรัก
หนูสะดุ้งเฮือก แล้วก็เห็นว่าเขาเองก็ชะงัก
พี่บุหรี่พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่จนได้ยินชัด ทั้งๆ ที่ใส่หมวกกันน็อคอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองตึกระฟ้าข้างๆ ก่อนที่หนูจะกวาดสายตาที่ร้อนรนมองตามไป แล้วก็แทบตกใจแทบสิ้นสติ
ตะ... ตรงหน้าของหนูคือ
LOVE HOTEL!!
เลิฟโฮเตลแบบของจริง แบบที่เห็นในหนังเอวีเลยค่ะ!
“เครื่องติดแล้ว” เขาพูดออกมาเสียงเนิบนาบ หนูสะดุ้งโหยง พยายามคิดในทางที่ดีว่าเครื่องติดของเขาที่ว่าก็คือรถบิ๊กไบค์ที่เรานั่งอยู่ “รถเสีย ไปเรียนสายได้รึเปล่า?”
“อะ... อะไรนะคะ” หนูแทบไม่เชื่อหูตัวเองตอนที่เขาพูดออกมา แล้วสั่นหน้าอย่างรุนแรงพอปะติดปะต่ออะไรได้ “ไม่ได้ค่ะ! ไปสายไม่ได้เด็ดขาด อาจารย์จะให้ติด 0 ค่ะ!”
ติด 0 บ้าบออะไรเล่ายัยปูน้อย มหาวิทยาลัยมีติด 0 ที่ไหน ฮือ
“อืม” แต่พี่บุหรี่ดันเชื่อ! “งั้นรอก่อน ต้องดูรถ”
“แต่หนูว่าเลื่อนรถไปก่อนดีมั้ยคะ เดี๋ยวหนูเลื่อนให้ก็ได้นะ” หนูพูดพร้อมกับเหลียวไปมองรอบๆ ข้างๆ มีคลับอโคจรที่ปิดอยู่เพราะเปิดในช่วงกลางคืน มีร้านอาหารฝรั่งข้างๆ และตรงหน้าคือดิเลิฟโฮเตล
“เลื่อนไหวเหรอ” เขาถามห้วนสั้น หันหมวกกันน็อคที่บังใบหน้าหันมามองเหมือนสงสัย
“ค่ะ! เลื่อนไหวค่ะ” พูดไปแบบนั้นแหละ จริงๆ คือไม่รู้จะเลื่อนบิ๊กไบค์คันเท่าช้างคันนี้ไปที่อื่นได้ไหวได้ยังไงเหมือนกัน
“แต่เป็นผู้หญิง” พี่บุหรี่พูดแบบนั้น พร้อมกับค่อยๆ เอื้อมมือมาถอดหมวกกันน็อคบนศีรษะของตัวเองออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลารับกับทรงผมย้อมเงินที่ยาวระใบหน้า ใบหน้าของเขาทั้งหล่อทั้งสวย แถมยังมีไฝใต้ตาแบบผู้หญิง “ไม่ต้องยุ่งหรอก”
เมื่อรวมเข้ากับท่าทางสุดเยือกเย็นแบบนั้น คะ... โคตรจะพระเอกในการ์ตูนโชเน็นเลยค่ะ
ตึกตัก
หนูเผลอใจเต้นนิดหน่อย แต่อยู่ในจังหวะที่ควบคุมได้ ตอนนั้นที่รู้สึกว่าจะเผลอใจให้กับผู้ชายท่าทางร้ายๆ ที่เพิ่งเจอ หนูก็ทุบอกตัวเองดังอั่กๆ จนเขาชะงัก ก่อนที่จะพยายามยืดขาที่แสนสั้นของตัวเองลงจากรถบิ๊กไบค์
ยังไงเขาก็เป็นเพื่อนกับสมิงนี่ ไว้ใจไม่ได้หรอกค่ะ
เผลอๆ ที่มาจอดหน้าโรงแรมอินเลิฟแบบนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็เป็นได้
“นะ... น้องลงไม่ได้ค่ะ” หนูช้อนสายตาขึ้นมองเขาเหมือนจะงอแงเพราะขาสั้นเกินจนค้ำพื้นไม่ถึง พี่บุหรี่กระตุกยิ้มมุมปากระหว่างที่มองปฏิกิริยาของหนูอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะกวาดขายาวๆ นั่นลงจากรถ
“จะให้อุ้มเหรอ” เขาถามออกมาสั้นๆ แต่ทำเอาหนูไปต่อไม่ถูกเลย เพราะหน้าร้อนจัดจนชา
เกิดเป็นคนขาสั้นแถมตัวเตี้ยนี่มันลำบากจริงๆ นะ อีกอย่างพอลงไม่ได้ก็ต้องมาเปลืองตัวกับการโดนผู้ชายแปลกหน้าที่ตัวสูงชะลูดอุ้มลงจากรถเหมือนอุ้มลูกลิงด้วย
“... รบกวนด้วยค่ะ” หนูหลุบตาลงมองพื้นอย่างสะเทิ้นอาย เห็นว่าเขาแค่นหัวเราะในลำคอแล้วช้อนข้อพับขาหนูขึ้นอุ้ม แต่คราวนี้มันไม่ใช้การอุ้มแบบยกข้อพับแขนขึ้นสูงแล้ววางลงเหมือนครั้งที่แล้ว
ครั้งนี้เขาอุ้มหนูแบบท่าอุ้มเจ้าหญิง แล้วพาเดินตรงเข้าเลิฟโฮเตลนั่นทันที!
มะ... แม่จ๋า! ว่าแล้วว่าไว้ใจไม่ได้จริงๆ ด้วย!
“พี่บุหรี่! ไม่นะคะ น้องจะเลื่อนรถให้ไม่ใช่ให้พี่อุ้มน้องเข้าโรงแรม!!” พอได้สติว่าตัวเองกำลังจะโดนอุ้มเข้าเลิฟโฮเตล หนูก็แผดเสียงตะโกนลั่นอย่างไม่อายคนแถวนั้น (แต่มันก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้วแหละ) พร้อมกับดีดตัวไปมาอย่างสุดฤทธิ์
แต่ตัวพี่บุหรี่ค่อนข้างกำยำและแข็งแรงมาก หนูไม่รู้ว่าระหว่างสมิงกับพี่บุหรี่ใครแรงเยอะกว่ากัน แต่เพิ่งมารู้สึกตัวก็ตอนนี้นี่เองว่าแรงหมัดที่ใช้ทุบหลังเขาดังอั่กๆ สุดชีวิตนั่น แทบไม่ส่งผลให้อีกฝ่ายสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“สวัสดีครับคุณบุหรี่” หนูหยุดดีดดิ้นเมื่อได้ยินเสียงของพนักงานประชาสัมพันธ์ที่ทักทายพี่บุหรี่เหมือนว่าเขาเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว หนูเหลียวมอง เห็นว่าเสี้ยวหน้าที่นิ่งสนิทของพี่บุหรี่พยักหน้ารับ แล้ววางแผ่นกระดาษลงบนเคาน์เตอร์ “ตรงไปที่ห้องชั้นแปด เลขที่ห้อง 84G ได้เลยนะครับ ผมรับรองไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”
พี่บุหรี่พยักหน้าแล้วเดินตรงไปทางลิฟต์ด้านหลัง พอระยะสายตาหนูโฟกัสตรงกับผู้ชายที่เป็นพนักงานประชาสัมพันธ์คนนั้น ก็เห็นว่าเขากำลังเอาใบกระดาษนั่นมาตรวจดู
พอเพ่งไปจริงจังเพราะสงสัยมากๆ ถึงได้เห็นจำนวนเลขหลายหลัก นับนิ้วดูก็ประมาณ 6 หลัก
หลักหมื่น! นั่นเป็นเช็คไม่ผิดแน่นอน!
นี่เขาจ่ายเงินค่าห้องเป็นเช็ค เพื่อจะพาหนูขึ้นไปทำมิดีมิร้ายงั้นเหรอคะ!!
[พาร์ท : สมิง]
ไอ้เหี้ยบุหรี่ บอกแล้วไงว่ากูเจอก่อน กูต้องได้ก่อน
ผมคีบบุหรี่จากเก๊ะรถราคาแพงระยับที่ยืมมาจากบริษัทพ่อมาดูดอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากที่ไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเป็นคนได้ไปส่งอีปูน้อยข้ามหน้าข้ามตาคนที่ทำคะแนนได้สุดโต่งอย่างผม ผมก็ขับตามมันไปแบบห่างๆ อย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน
เวรเอ้ย คนอย่างมันแม่งดูความคิดไม่ค่อยออกซะด้วย หวังว่าคงไม่คิดห่าไรพิเรนทร์ๆ กับยัยนั่นหรอกนะ
แต่ยังไม่ทันระแวงได้จบดี ก็เห็นว่าพวกมันกอดกันกลมจนคนที่มองห่างๆ อย่างผมอดไม่ได้ที่จะเลือดขึ้นหน้าสัสๆ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อีกอย่างนมยัยเด็กนั่นมันแนบหลังแม่งไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
ผมซี๊ดบุหรี่แล้วพ่นควันออกทางจมูกตอนที่เลี้ยวตามมันเข้ามาในซอยที่คุ้นเคยดี กวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่จะต้องสบถออกมาเสียงดังลั่นรถคันหรู แล้วตบพวงมาลัยอย่างแรงจนรถสั่น
“ไอ้เวรบุหรี่ ไอ้โสโครก!!”
ถามว่าสบถไปทำไม?
ไม่น่าถาม ก็แม่งอาศัยจังหวะขับเร็วจนยัยเด็กนั่นกลัวไม่กล้ามองไปรอบๆ แล้วพาเธอเลี้ยวเข้าเครือข่ายที่ญาติมันที่เคยติดคุกสร้างม่านรูดไว้แถวนั้นอ่ะดิ
มันจะหลอกอีปูน้อยมาแดกไง ไอ้เหี้ยเอ้ย
