บทที่ 3 อย่าดื้อ!
“ใกล้แล้วค่ะท่าน” มิราส่งยิ้มบางๆ ให้ ก่อนจะยกถ้วยซุปครีมเห็ดวางลงที่โต๊ะ แต่ทว่า...มันกลับชนเข้ากับแขนของคนที่นั่งอยู่
เพล้ง!
“ให้ตายสิ!” คาเรนสบถอย่างหัวเสีย หลังจากถูกซุปหกใส่
“ขะ...ขอโทษคะท่าน” เมลิสสาเอ่ยเสียงสั่นรีบหยิบแก้วน้ำเปล่าเทลงตรงจุดที่ซุปหกใส่
“นะ...นี่เธอ” คาเรนเทียอ้าปากค้างอย่างตกใจ! เมื่อเห็นมือบางปัดๆ ลูบๆ ยังจุดที่เขาซุกซ่อนขีปนาวุธขนาดใหญ่ยักษ์เอาไว้
“วะ...ว้าย! นะ...หนูไม่ตั้งใจค่ะ” คนที่เพิ่งจะรู้ตัวว่ากำลังกอบกำ เอ๊ย! กอบกุมของสงวน รีบปล่อยมือทันทีทันใด
“รออยู่นี่นะ อย่าขยับไปไหนเชียว” คาเรนเทียบอกเสียงเข้ม หลังถูกแตะต้องของสำคัญ ที่แม้จะมีเสื้อคลุมกั้นอยู่ แต่ว่ามันก็ไวต่อสัมผัส แถมขยายตัวซะจนรู้สึกปวดไปทั้งแก่นกาย
“เอ่อ...ทะ...ท่านจะไปไหนคะ?” เมลิสสากัดฟันถามเสียงสั่น ขณะที่น้ำตาเริ่มจะเอ่อล้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ราวกับถูกผีผลักยังไงยังงั้น ‘พระเจ้า! หวังว่าเขาคงไม่ไปเอาปืนมายิงเราทิ้งหรอกนะ’
“จะไปเช็กความเสียหาย ถ้ามันใช้งานไม่ได้ล่ะก็ เธอลำบากแน่” คาเรนเทียคาดโทษเสียงเข้มก่อนจะเดินตรงไปยังประตูหน้าห้องพัก แล้วกดใส่รหัสเพื่อกันสาวจอมซุ่มซ่ามหนี
คนที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป หันมองทางหนีทีไล่รอบๆ ก็พบว่าประตูทางเข้าและประตูห้องอื่นๆ ล้วนแต่มีแป้นพิมพ์เข้ารหัสที่เธอไม่รู้
หญิงสาวยังไม่ทันได้คิดอะไรไกล คาเรนเทียที่หายไปตรวจเช็กอาวุธสังหาร เอ๊ย! อาวุธประจำกาย ก็เดินออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“มานี่!” เขาตรงไปคว้าข้อมือบางของหญิงสาวแล้วพาไปที่ห้องนอนอย่างรวดเร็ว
“นะ...หนูขอโทษค่ะท่าน หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เมลิสสารีบยกมือไหว้อย่างหวาดกลัว
“ขึ้นไปบนเตียง” คาเรนเทียบอกพลางมองสังเกตเรือนร่างของสาวตรงหน้าอีกครั้ง ขณะที่เลือดในกายไหลพล่านไปทั่วทั้งตัว
“...” เมลิสสามองเตียงขนาดคิงไซซ์อย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะให้เธอขึ้นไปทำอะไร
“ขึ้นไป!” คาเรนเอ่ยเร่งคนที่ยังไม่ยอมขยับ
“คะ...ค่ะ” เมลิสสารีบขึ้นเตียงไปอย่างลนลาน ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นคนตัวโตถอดเสื้อคลุมโยนทิ้ง เหลือเพียงกางชั้นในสีขาวเพียงตัวเดียว “ทะ...ท่านจะทำอะไรคะ”
“ก็ทดสอบว่าน้องชายของฉันยังใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่านะสิ”คาเรนเทียบอกก่อนจะขยับขึ้นเตียงตามไปติดๆ
“ยะ...ยังไงคะ” คนที่ยังไม่ประสีประสาทำท่าจะขยับหนี แต่ก็ถูกร่างสูงทาบทับเอาไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องคิดหนีให้ยาก เพราะยังไงคืนนี้เธอก็ต้องเป็นของฉัน”คาเรนเทียซุกไซ้ซอกคอระหงทันที ไม่ปล่อยให้สาวเจ้าได้มีโอกาสตั้งตัว
“ไม่นะ...อะ...อื้อ...” เมลิสสาดีดดิ้นได้เพียงครู่ ก็ถูกริมฝีปากหนา กดทับและจูบอย่างเร่าร้อน จนเธอแทบจะขาดใจ
“อืม...” คาเรนเทียถอนจูบที่เนิ่นนานออก แล้วสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มีกลิ่นของอาหารปะปนอยู่นิดๆ แต่เขากลับไม่นึกรังเกียจ
“ยะ...อย่าทำแบบนี้คะท่าน”
“อย่าขัดขืน ไม่งั้นเธอจะเจ็บตัว”
“ฮึก...ขอล่ะ...หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะ...”
“แต่ฉันตั้งใจ” คนที่ถูกขนานนามว่าร้ายและโหดบนเส้นทางเดินของมาเฟีย แต่ในชีวิตไม่เคยจะข่มเหงน้ำใจของผู้หญิงคนไหน เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่สาวมาถวายตัวให้ แต่กับพนักงานเสิร์ฟที่ต้องตาต้องใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเขากลับไม่สนวิธีที่จะครอบครอง
คาเรนเทียปล้ำถอดกางเกงยีนเข้ารูปออกจากขาเรียวงาม เผยให้เห็นแพนตี้ตัวจิ๋วสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้บางๆ ทำเอาเขาถึงกับหายใจติดขัดขึ้นมาทันใด
“อ๊ะ! อย่าค่ะ” เมลิสสารีบปัดมือหนาที่กำลังจะถอดเสื้อของเธอออก
“อย่าดื้อ!”
“ฮึก...ดะ...ได้โปรด...อย่าทำอะไรหนูเลยค่ะ อะ...ว้าย!”เมลิสสารีบยกมือขึ้นปิดส่วนนั้นส่วนนี้จ้าละหวั่น เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้มีแค่แพนตี้กับบราเท่านั้น
‘พระเจ้า! เพอร์เฟกต์อะไรอย่างนี้’ คาเรนเทียจ้องมองเรือนร่างที่อรชรอ้อนแอ้น เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งอันน่าหลงใหล อย่างที่ไม่เคยพบ เคยเห็นมาก่อน
“ฮึก...หนู...” เมลิสสาคว้าหมอนมาปิดบังกายจากสายตาของคนตรงหน้าอย่างรู้สึกหวาดกลัว
“ฉันสัญญาว่าจะนุ่มนวลกับเธอ” คาเรนเทียเอ่ยเสียงอ่อนโยน ก่อนจะก้มลงจูบซับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลเบาๆ เพื่อให้สาวเจ้าหายตื่นกลัว
เมลิสสาถึงกับหยุดร้องไห้ไปทันทีทันใด เมื่อพ่อเทพบุตรสุดหล่อแสดงท่าทีที่อบอุ่นต่อเธอ
คาเรนเทียยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลูบไล้สะโพกที่งอนงาม แล้วเลื่อนขึ้นมายังเอวบาง ที่แอบกลัวว่าหากจับกระแทกแรงๆ คนในอ้อมกอดอาจจะแหลกหักคามือ
เมลิสสาสะดุ้งเบาๆ เมื่อริมฝีปากหนาหยักได้รูปฉกจูบลงมายัง ริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอ แล้วสอดแทรกลิ้นอุ่นๆ เข้ามา “อะ...อืม...”
คาเรนเทียอาศัยจังหวะที่สาวเจ้ากำลังเคลิบเคลิ้ม ค่อยๆ แยกขาที่เรียวงามออกจากกัน แล้วสอดมือลงไปลูบไล้เนินเนื้อที่อวบอูมเบาๆ
“ยะ...อย่าค่ะ” เมลิสสาถึงกับสั่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว เมื่อถูกอีกฝ่ายล่วงล้ำความเป็นหญิง จึงพยายามปัดมือหนาออก
“อื้อ...เธอนั่นแหละอย่าดื้อ!” ชายหนุ่มครางในลำคออย่างขัดใจก่อนจะดึงบราที่โอบดอกบัวงามออก แล้วเลื่อนตัวลงมาดูดกลืนปลายถันสีชมพูอ่อนๆ อย่างหิวกระหาย ขณะที่มืออีกข้างก็บีบคลึงดอกบัวงามที่เต่งตึงเบาๆ
“อะ...อืม...อะ...” เมลิสสาครางเบาๆ อย่างเสียวซ่านกับสัมผัสวาบหวามที่ไม่เคยพานพบมาก่อน ทำให้เธอหลงลืมตัวไปชั่วขณะ
คาเรนเทียไล้ปากต่ำลงมาเรื่อยๆ จนถึงจุดกึ่งกลางของอิสตรี ก็ใช้นิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกให้พ้นทางอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จับขาเรียวเล็กทั้งสองข้างให้อ้าออก แล้วจ้องมองกลีบดอกไม้งามที่อวบอูมเต็มๆ สองตา
“ยะ...อย่าค่ะ...” เมลิสสาได้สติกลับมาอีกครั้ง จึงรีบอ้อนวอน
คาเรนเทียรีบแทรกตัวไปอยู่ระหว่างขาเรียวงามคู่นั้น พร้อมกับก้มลงใช้ลิ้นควานหาน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้งามอย่างไม่รอช้า
“อะ... อย่าค่ะ...อื้อ...” เมลิสสาพยายามจะร้องห้าม แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้
ชายหนุ่มทั้งดูดกลืนและตวัดลิ้นเลียดอกไม้งามอย่างบ้าคลั่งก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปยังทางรักที่คับแน่นช้าๆ ด้วยความยากลำบาก
“ไม่นะ!” เมลิสสาดีดดิ้นทันทีที่มีบางอย่างพยายามจะลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สงวน




























































































